จี้ ผบ.ชน.-ยุติธรรม สั่งปิดร้านเหล้าซอยวงศ์สว่าง11


เพิ่มเพื่อน    

 

จากกรณี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ถูกมีดแทงเสียชีวิต ภายในซอยวงศ์สว่าง11 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ โดยผู้ก่อเหตุเป็นนักศึกษาอาชีวะ ปี 1-ปี 3 และศิษย์เก่าสถาบันอาชีวะแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 7 อายุตั้งแต่16-17 ปี  ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากดื่มสุราจากร้านขายสุราภายในซอยวงศ์สว่าง11 เช่นกัน เป็นชายจำนวน 11 คน หนึ่งในกลุ่มคนร้าย อายุ 16 ปี พกอาวุธมีดยาวประมาณ 8 นิ้ว แทงที่คอผู้เสียหายจนเสียชีวิต  

(4สิงหาคม) นายชูวิทย์  จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ข้อมูลที่ปรากฏในข่าวพบว่าเป็นการมุ่งเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ  โดยละเลยที่จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ประกอบการร้านค้าที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็ก  ตามข่าวชัดเจนว่ามีร้านที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้ที่อายุต่ำกว่า20ปี แน่นอน เป็นร้านที่ผู้ก่อเหตุไปดื่มกิน ซึ่งเป็นคำให้การของผู้ก่อเหตุ ที่อายุอยู่ระหว่าง 16-17ปี ทั้งนี้ตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตรา 29ระบุไว้ชัดเจน  ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า20ปี ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1ปี ปรับไม่เกิน 20,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ  และยังมีคำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 22/2558ที่ว่าด้วยเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาร้านเหล้ารอบสถานศึกษา และปัญหาเด็กแว้นซ์  ซึ่งกำหนดพื้นที่ควบคุมหรือโซนนิ่งร้านขายเหล้าทุกรูปแบบ  ห้ามมิให้ทำผิดกฎหมายในประเด็นสำคัญๆ เช่น ห้ามขายให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20ปี  ห้ามขายเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด  ห้ามเสียงดังเกินที่กฎหมายกำหนด  เป็นต้น ซึ่งตามคำสั่งนี้หากอยู่ในพื้นที่โซนนิ่ง สถานประกอบการดังกล่าวที่ทำผิดจะถูกสั่งปิด 5ปี  

นายชูวิทย์  กล่าวอีกว่า เมื่อตรวจสอบเข้าไปดูในเว็บไซต์ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก  ซึ่งเป็นฝ่ายเลขาตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 ได้ระบุพิกัดพื้นที่โซนนิ่งไว้ชัดเจนว่าในซอย วงษ์สว่าง 11 ทั้งสองฝั่งเป็นพื้นที่ควบคุมตามกฎหมายนี้  ดังนั้นจากข่าวที่ปรากฏจึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายให้จริงจัง  เพื่อให้ผู้ประกอบการที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  โดยเฉพาะที่อยู่ใกล้สถานศึกษาต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ขายให้เด็กและเยาวชน ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  และสถานบริการโดยเคร่งครัด  เพื่อลดปัญหาผลกระทบทางสังคม ดังนั้นในกรณีนี้  เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการด้วย  ซึ่งถือเป็นต้นทางของผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การละเลยไม่บังคับใช้กฎหมายกับร้านเหล้าผับบาร์เหล่านี้ จึงสุ่มเสี่ยงต่อความผิดในฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  

“เครือข่ายจึงขอเรียกร้องให้ กรมพินิจและคุ้มครองเด็ก  กระทรวงยุติธรรม และผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  พิจารณาในประเด็นร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่โซนนิ่งรอบสถานศึกษามีการขายให้เด็ก อายุต่ำกว่า 20ปี คือกลุ่มผู้ก่อเหตุ   ให้มีคำสั่งปิดสถานประกอบการที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดังกล่าวเป็นเวลา5ปี  และขอเรียกร้องให้ตำรวจ พนักงานเจ้าหน้าที่เอาผิดกับร้านค้าตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งในประเด็นการขายให้เด็กและอาจเข้าข่ายขายให้คนเมาครองสติไม่ได้ด้วย  มิเช่นนั้นแล้วไม่ว่าจะเกิดความสูญเสียซักกี่ราย ต้นทางของการเกิดเหตุคือร้านเหล้าผับบาร์เหล่านี้ก็จะยังคงลอยนวล และกอบโกยอยู่ต่อไปโดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย”  นายชูวิทย์ กล่าว
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"