สั่งกราบเท้าปูดโกง! น้องแบมแฉหน.ภาคทุบตี ทุจริตคนจนลุกลาม16จว.


เพิ่มเพื่อน    

    แก๊งงาบเงินคนจนลาม 16 จังหวัดแล้ว ป.ป.ท.พบเพิ่มพัทลุง-อ่างทอง "น้องแบม" แฉโดนหัวหน้าภาควิชาทุบหลัง ไม่พอใจเปิดโปงทุจริต แถมถูกอาจารย์สั่งกราบเท้าขอโทษ จนท.ขี้ฉ้อ เพื่อไทยบี้รัฐบาลรับผิดชอบปล่อยโกง หวั่นไทยนิยมซ้ำรอย
    เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการทุจริตเงินศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งลงพื้นที่ตรวจสอบการทุจริตเงินศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 31 จังหวัด ซึ่งเป็นจังหวัดเป้าหมายที่ได้รับงบประมาณอุดหนุนเกิน 1,000,000 บาท ได้ทยอยรายงานข้อเท็จจริงผลการตรวจสอบเบื้องต้นให้รับทราบแล้ว โดยในวันที่ 5 มี.ค. จะสามารถสรุปความคืบหน้าการตรวจสอบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง โดยเบื้องต้นแน่ชัดแล้ว 16 จังหวัด พบเพิ่มเติมจาก 14 จังหวัด คือพัทลุงและอ่างทอง 
    "หลังตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วจะมีการรายงานผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการ ป.ป.ท.อนุมัติไต่สวน โดยการประชุมกรรมการ ป.ป.ท.นัดหน้าในวันที่ 6 มี.ค.นี้ จะมีการเสนอการตรวจสอบพบการทุจริตงบประมาณศูนย์ไร้ที่พึ่งจังหวัดบึงกาฬและหนองคาย เพื่อขออนุมัติไต่สวน ส่วนข้อมูลการทุจริตงบประมาณศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี น่าน และตราด อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เนื่องจากพบว่ามีการทุจริตในหลายอำเภอ" พ.ต.ท.วันนพระบุ
    นายกฤษณ์ กระแสเวส ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ท. เขต 5 กล่าวว่า ขณะนี้ได้เร่งตรวจสอบการทุจริตเงินช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่ง 8 จังหวัดเหนือตอนบน ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงาน ป.ป.ท. เขต 5 โดยทีมงานกำลังเร่งปูพรมตรวจสอบโดยที่จังหวัดลำปาง สุ่มตรวจพบประชาชนหลายรายที่มีชื่อรับเงินช่วยเหลือ แต่ไม่ได้รับเงินไปจริงๆ ขณะที่อำเภอลี้และอีกหลายอำเภอในจังหวัดลำพูน พบว่ามีเจ้าหน้าที่เพิ่งเข้าไปเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับประชาชนที่มีรายชื่อหลังจากที่มีข่าวการทุจริต ส่วนที่จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าเจ้าหน้าที่รับเงินมานานแล้ว แต่เพิ่งเดินสายจ่ายในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ซึ่งยังถือว่าเป็นความผิด
    ทางด้าน น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ซึ่งเป็นผู้ออกมาเปิดโปงขบวนการทุจริตภายในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น จนทำให้มีขยายการสอบสวนในโครงการดังกล่าวไปยังศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ได้นำส่งเอกสารหลักฐานทั้งหมดตามที่สภาคณาจารย์ มมส. และคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่แต่งตั้งขึ้นโดยสภามหาวิทยาลัยฯ แล้ว ขณะเดียวกันได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องของการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองคอยรักษาความปลอดภัยตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง
    "วันนี้มีคนมองหนูในหลายมุม โดยเฉพาะใน มมส. ทั้งที่มองว่าเป็นต้นเหตุจนมีเรื่องต่างๆ และมีผลกระทบกับคนเป็นวงกว้าง แต่ส่วนใหญ่ให้กำลังใจว่าหนูนั้นทำถูกต้องแล้ว และทำหน้าที่ในการเป็นนิสิต มมส.สถาบันการศึกษาที่หนูรักและผูกพันแห่งนี้ได้อย่างเต็มที่ เพราะสิ่งที่ไม่ถูกต้องและทำผิดกฎหมายผู้ที่กระทำก็ควรที่จะได้รับโทษ และที่สำคัญการกระทำที่ผ่านมาหนูยืนหยัดชัดเจนในการปกป้องศักดิ์ศรีของ มมส. ปกป้องศักดิ์ศรีของคณาจารย์ ปกป้องศักดิ์ศรีของนิสิต มมส.ทุกคน เพราะเรื่องนี้มีการให้ข้อมูลกับอาจารย์ที่ปรึกษาและรับรู้กันทั้งภาควิชาและคณะมนุษย์ แต่กลับเป็นว่านิสิตที่ฝึกงาน 4 คน และถูกสั่งให้ทำผิดต้องออกมารับผิดเสียเอง โดยที่อาจารย์ของเรานั้นไม่สนใจหรือใส่ใจ หรือรับฟังอะไรแม้แต่น้อย” น.ส.ปณิดากล่าว
น้องแบมแฉโดนทุบตี
    สำหรับเรื่องดังกล่าว มีการนำข้อมูลมาแจ้งกับอาจารย์แล้วตั้งแต่ที่เริ่มส่อไปในทางทุจริตและพบข้อมูลหรือการกระทำดังกล่าว แต่อาจารย์บอกว่านิสิตที่ไปฝึกงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่นนั้นเป็นเด็กเลี้ยงแกะ และเมื่อมีอาจารย์ได้ไปพบกับเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงก็ไม่รับฟังนักศึกษา สั่งให้เรากราบเท้าขอโทษเจ้าหน้าที่ที่ทำผิด และให้เรื่องจบลงไป แต่ด้วยความเป็นนิสิตที่ร่ำเรียนมาตลอดทั้ง 4 ปี  ได้รับการฝึกสอนจากคณาจารย์ที่ให้ยืนยันบนความถูกต้อง และสู้เพื่อคนยากคนจนในการเป็นนักพัฒนาชุมชนที่ดี เรื่องนี้จึงมีการส่งเรื่องร้องเรียนไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จนนำมาสู่การสอบสวนดังกล่าว
    "เมื่อเจ้าหน้าที่จาก คสช.และ ป.ป.ท.เริ่มลงพื้นที่ และเริ่มที่จะมาสอบปากคำนักศึกษาในมหาวิทยาลัย หัวหน้าภาควิชาได้เรียกหนูเข้าไปในห้องเพื่อสอบถามว่าทำไมทำแบบนี้ ทำไมต้องทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น ถ้าจะร้องเรียนทำไมไม่ให้เรียนจบก่อน ทำแบบนี้ทำไม หน่วยงานที่เข้ามาตรวจสอบทำอะไรไม่ได้หรอก จากนั้นหัวหน้าภาควิชายังได้ใช้มือทุบหลังหนู 2 ครั้งเหมือนจะระบายอารมณ์ ซึ่งหนูก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทุบตีหนูด้วย ทั้งที่เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง” น้องแบมระบุ
    อย่างไรก็ตาม มั่นใจในคณะกรรมการทุกคนที่คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยได้แต่งตั้งขึ้น จะดำเนินการอย่างถูกต้อง ชัดเจน โปร่งใส เป็นธรรม จนนำไปสู่การหาคำตอบต่อสาธารณชนได้รับทราบ และที่สำคัญคือการกู้ศักดิ์ศรีของมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาที่ตนเองรักอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าเร็วๆ นี้น่าจะสรุปข้อมูลการสอบสวนและออกแถลงการณ์ได้ 
    นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และเลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกรณีที่ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) แต่งตั้งให้ผู้ตรวจราชการกระทรวง พม. และมีตำแหน่งต่ำกว่าผู้ที่สอบสวน เป็น 1 ใน 4 คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัด พม. และนายณรงค์ คงคำ รองปลัด พม. จึงขอเรียกร้องให้คัดชื่อออกจากการเป็นกรรมการเพื่อความโปร่งใสในการตรวจสอบ
    ขณะที่นายบุญแทน ตันสุเทพวีรวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อกรณีการโกงเงินคนจน คนไร้ที่พึ่ง ผู้ป่วยเอดส์ฯ และปัญหาในการตรวจสอบการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการใช้อำนาจรัฐ ว่าผู้ที่จะตอบคำถามได้ดีที่สุด คงไม่พ้น พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต รมว.พม. เพราะเหตุเกิดในระหว่างที่ทำหน้าที่เป็นเจ้ากระทรวงอยู่ นอกจากนี้ ทราบมาว่าสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ส่งรายงานการตรวจสอบความผิดปกติให้ทราบแล้วตั้งแต่กลางปี 2560 แต่ไม่มีท่าทีใดๆ ในการดำเนินการ จนกระทั่งนิสิต มมส.ได้ออกมาดำเนินการด้วยตนเอง ดังนั้นอดีต รมว.พม.ต้องแสดงให้สาธารณชนได้เห็นถึงความเพียรพยายามในการจัดการปัญหานี้ ก่อนที่จะข้ามไปอยู่อีกกระทรวงหนึ่งอย่างมีจริยธรรม 
ชี้ไทยนิยมซ้ำโกงคนจน
    นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า ตามที่มีการทุจริตอย่างกว้างขวางของโครงการช่วยเหลือคนจน เงินสงเคราะห์ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งของกระทรวง พม. ที่ถูกนักศึกษาฝึกงานจับได้และเป็นผู้เปิดประเด็น จนทำท่าจะลุกลามกลายเป็นการโกงขนานใหญ่ไปเป็นสิบๆ จังหวัด และอาจลามไปทั่วประเทศแล้ว หรือจับตรงไหนก็เจอ เหมือนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรียอมรับ เป็นการตอกย้ำการทุจริตคอร์รัปชันที่เกิดในรัฐบาลนี้ และตรวจสอบไม่ได้ ซึ่งอาจจะมีการทุจริตมากว่า 3 ปีแล้วก็ได้ แม้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. จะย้ายปลัดและรองปลัด พม.แล้ว แต่ไม่ได้แปลว่ารัฐบาลจะปัดความรับผิดชอบได้ เพราะรัฐบาลปล่อยให้เกิดการทุจริตขนานใหญ่แบบนี้ได้อย่างไร โดยเฉพาะเป็นการเบียดเบียนคนยากไร้ที่กำลังลำบากซึ่งไม่มีปากมีเสียง ขนาดคนจนยังปล่อยให้ถูกโกง  
    "รัฐบาลต้องแสดงความรับชอบที่ปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนี้ และสังคมไม่เชื่อว่าถ้าโกงกันขนาดนี้คนในรัฐบาลจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย จะมาตัดตอนแค่ปลัดกระทรวงคงเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยก็แสดงถึงความด้อยประสิทธิภาพในการบริหารราชการ จึงทำให้เกิดการโกงได้ขนาดนี้ และขนาดโครงการช่วยคนจนยังปล่อยให้มีการโกง แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าโครงการไทยนิยมฯ ที่อาจจะต้องใช้เงินเป็นแสนล้านบาท และโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมากที่ต้องใช้เงินหลายแสนล้านบาทจะไม่มีการโกง และเมื่อมีการโกงก็จะโยนให้ข้าราชการรับผิดชอบไปใช่หรือไม่ ทั้งที่เงินคอร์รัปชันตกไปอยู่ในกระเป๋าใคร ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาลเริ่มพบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้ประชาชนทราบแล้วว่ารัฐบาลที่ตรวจสอบไม่ได้ไม่ได้แปลว่าจะไม่ทุจริต แต่อาจจะทุจริตมากกว่าทุกรัฐบาลด้วยซ้ำ" นายพิชัยระบุ
    นางมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน  กล่าวว่า หลังจากได้ส่งหนังสือเสนอกระทรวง พม. เรื่องการเสนอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการกู้เงินให้คนพิการเข้าถึงได้กู้กองทุนของเขา เนื่องจากเงื่อนไขเดิมนั้นได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้พิการว่าเข้าไม่ถึงการกู้ เพราะต้องมีการนำข้าราชการหรือสิ่งค้ำประกันเกินตัวของเขาที่จะมีศักยภาพหามาได้ จึงทำให้เสียสิทธิ์การกู้เพื่อนำไปประกอบอาชีพ ดังนั้นควรแก้ไขหลักเกณฑ์การกู้ โดยให้นำสิทธิ์ของผู้พิการและสวัสดิการรายเดือนที่ได้รับจากรัฐมาเป็นสิ่งค้ำประกันการกู้ได้แทนการหาข้าราชการหรือคนมาค้ำประกัน และแทนการหาบ้านที่ดินอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ มาค้ำประกัน จะทำให้คนพิการได้สิทธิ์นั้นทั่วถึงกัน
    นอกจากนี้ สิ่งที่รัฐบาลจะต้องปรับปรุงติดตามคือ 1.ให้ตรวจสอบรายชื่อผู้ได้กู้ว่าตรงตามวัตถุประสงค์ของระเบียบหรือไม่ มีการสวมสิทธิ์ผู้พิการหรือไม่ 2.ให้แก้ไขระเบียบตามที่เสนอเพื่อให้ผู้พิการตัวจริงได้เข้าถึงและได้กู้ไปประกอบอาชีพได้จริง 3.กระทรวงควรพัฒนาปรับปรุงระเบียบอยู่สม่ำเสมอเพื่อให้ทันยุคสมัย และสามารถรองรับวิกฤติอาชีพผู้พิการจากโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ไม่สามารถจัดสรรให้กลุ่มผู้พิการอย่างทั่วถึง ทำให้ขาดอาชีพรองรับจำนวนมาก และ 4.ขอให้รัฐบาลเพิ่มวงเงินกองทุนนี้เพื่อการขยายโอกาสให้กับผู้พิการ. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"