
หนุ่ม-กรรชัยรับเป็นตัวแทนครอบครัวแพรวา นำแคชเชียร์เช็ค 41 ล้านไปวางศาลเพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้เหยื่อรถชน 26 ราย ยังขาดอีก 8 แสน จะมาให้วันหลัง อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งระบุ ศาลต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เชื่อ 9 ปีที่ผ่านมาจำเลยถูกสังคมลงโทษทางจิตใจแล้ว แม่แพรวาอ้างไม่เดินทางไปเองเพราะเกรงกระทบผู้สูญเสีย วอน "อย่าถือโทษโกรธเราเลย"
เมื่อเช้าวันที่ 6 สิงหาคมนี้ ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ พร้อมด้วยนายกรรชัย หรือหนุ่ม กำเนิดพลอย พิธีกรและนักแสดง ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากครอบครัว น.ส.แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา เดินทางมาศาลนำแคชเชียร์เช็คจำนวน 41,755,050.79 บาท พร้อมเงินค่าธรรมเนียมศาล 20,000 บาท มาวางต่อศาลตามคำพิพากษาศาลฎีกา เพื่อชดใช้ค่าเสียหายแก่ครอบครัวผู้ประสบเหตุ ซึ่งถูกรถที่ น.ส.แพรวาขับชนเมื่อปี 2553 โดยมีนายโอภาส อนันตสมบูรณ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เป็นผู้รับมอบแคชเชียร์เช็ค
นายกรรชัยกล่าวว่า ที่เป็นตัวแทนดำเนินการเรื่องนี้ ก็เพื่อให้เรื่องนี้ได้จบสิ้น เนื่องจากคดียืดเยื้อมานานมาก สมควรแก่เวลาที่ญาติฝั่งผู้เสียหาย ทั้งผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจะได้รับการเยียวยา ก่อนหน้านี้ตนเองได้รับโฉนดมาจากครอบครัวของแพรวาเพื่อเป็นตัวกลางในการจำหน่าย แต่ก็ติดขัดเรื่อยมา กระทั่งครอบครัวแพรวาตัดสินใจยืมเงินจากญาติพี่น้อง จนได้ตามจำนวนกว่า 41 ล้านบาท นำมาวางกับศาลในวันนี้ แต่ยังขาดเงินอีกกว่า 8 แสนบาท เนื่องจากเข้าใจตัวเลขคลาดเคลื่อน ซึ่งภายใน 2-3 วันนี้จะนำเงินมาวางเพิ่มเติมให้ครบ ยืนยันทุกอย่างจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในวันที่ 28 ส.ค.นี้
ส่วนสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ครอบครัวแพรวาไม่ใช้วิธีกู้ยืมเงินเพื่อเยียวค่าเสียหาย นายกรรชัยกล่าวว่า เนื่องจากเป็นเรื่องของกระบวนการทางกฎหมายที่อยู่ในช่วงต่อสู้ทางคดี ทำให้ตัวเลขของเงินเยียวยาของแต่ละศาลไม่เท่ากัน อย่างไรก็ตาม ในวันนี้สาเหตุที่ทางครอบครัวแพรวาไม่เดินทางมาด้วย เนื่องจากไม่สะดวก และมองว่าที่ผ่านมาได้เคยขอโทษผู้เสียหายมาตลอดอยู่แล้ว
ด้านนายเดชากล่าวว่า หลังจากวางเงินต่อศาลแพ่งในวันนี้ ขั้นตอนต่อไปอีก 2-3 วันจะนำเงินที่เหลืออีก 8 แสนบาทมาวางเพิ่มเติม ซึ่งจากนั้นก็ถือว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นตามกระบวนการชดใช้ค่าเสียหายเรียบร้อยในฝ่ายจำเลย
ขณะที่นายโอภาส อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เปิดเผยว่า เงินที่ต้องเยียวยาให้ผู้เสียหายทั้งหมด 26 ราย มีจำนวน 42,637,810.40 บาท ซึ่งยังเหลือเงินอีก 8 แสนบาท ที่ทางครอบครัวของแพรวาจะต้องนำมาชำระเพิ่มเติม และจะต้องนับดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน โดยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 จะนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะจ่ายครบ ส่วนขั้นตอนการจ่ายเงินคืนผู้เสียหายแต่ละราย ศาลมีบัญชีไว้อยู่แล้วว่าจะต้องจ่ายให้ผู้เสียหายรายละเท่าใด โดยหากเงิน 8 แสนบาทที่เหลือมาครบแล้ว ก็จะนำจ่ายผู้เสียหายได้ทันที ทั้งนี้ ขอบคุณฝ่ายจำเลยที่ทำให้เรื่องนี้จบลงเสียที ยืนยันว่าศาลให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ขอให้สังคมเข้าใจ
"คดีนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียใจและเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น แต่ขอให้สังคมมองว่าศาลเองก็ต้องให้ความเห็นใจทั้งฝ่ายผู้เสียหายซึ่งน่าเห็นใจมาก เพราะว่ามีการสูญเสียไปเยอะ และฝ่ายจำเลยเองขณะกระทำความผิดก็อายุเพียง 16 ปี เป็นเยาวชน ก็ขอให้สังคมมองทั้งสองด้าน ทำอย่างไรที่จะเยียวยาให้ผู้ทั้งสองฝ่ายผ่านเหตุการณ์ไปได้ด้วยดี เพราะว่าเหตุการณ์ดังกล่าวคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วเชื่อว่าตัวจำเลยเองไม่มีความสุขตลอด 9 ปี ถูกสังคมลงโทษทางด้านจิตใจ และตัวจำเลยเองก็ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจไปโดยปริยายแล้ว" นายโอภาสกล่าว
ต่อมานางลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา มารดา น.ส.แพรวา กล่าวผ่านรายการข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ว่า ตอนนี้ก็เบาใจว่าเหยื่อได้เงินไปเยียวยาได้เร็วขึ้น ไม่ต้องรอยึดทรัพย์ เพราะขั้นตอนจะนาน ส่วนที่ขาด 8 แสนบาท เป็นเพราะได้รับแจ้งยอดจากศาลคลาดเคลื่อนไป แต่จะตามไปจ่ายให้ครบอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่าสังคมยังสงสัยเหตุใดครอบครัวไม่เดินทางมาด้วยตัวเอง นางลัดดาวัลย์กล่าวว่า เท่าที่ผ่านมา ถ้าสังเกตเราจะไม่ได้คุยกับสื่อมากมาย เพราะเวลาคุยจะกระทบคนที่สูญเสีย ถ้ามีตัวแทนดีๆ น่าจะสามารถทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจได้มากขึ้น
“อย่าถือโทษโกรธเราเลย สิ่งใดที่ขาดตกบกพร่องไปก็ขอโทษ เราไม่ตั้งใจ ส่วนลูกขออนุญาตไม่พูดถึงตรงนี้ เราก็กำลังดูแลกันไป"
ในส่วนของผู้เสียหาย พ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ ข้าราชการบำนาญ บิดา น.ส.สุดาวดี นิลวรรณ หรือนุ่น ผู้เสียชีวิต 1 ใน 9 ราย โดยขณะเกิดเหตุเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกหน่วยงาน รวมทั้งสื่อมวลชนที่ได้ช่วยเหลือติดตามความคืบหน้ามาตลอด 9 ปี สำหรับการเยียวยาของฝ่ายจำเลย แม้เงินจะไม่สามารถทดแทนลูกของเราได้ แต่ก็เป็นไปตามช่องทางของกฎหมายที่ให้มีการบรรเทาผลร้ายกับครอบครัวผู้สูญเสีย และขอขอบคุณทีมทนายความของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ได้ดูแลครอบครัวผู้เสียหายด้วยดีตลอดเวลา หลังคดีสิ้นสุดก็ได้พูดบอกลูกสาวให้รับรู้เรื่องราวว่าได้จบสิ้นลงแล้ว ถ้าลูกรู้ก็คงจะดีใจที่จบลงได้เสียที
อีกคนคือ นางถวิล เช้าเที่ยง แม่ของ ดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง หรือ “ดร.เป็ด” ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ดีใจมากหลังรู้ข่าว และขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือ เงินที่จะได้มาก็จะนำไปทำบุญครั้งใหญ่ นิมนต์พระ 100 รูป ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ลูกชาย และเก็บบางส่วนไว้รักษาตัว จากนั้นจะทำมาหากินตามปกติ เพราะตอนนี้ไม่เหลือใครแล้ว ทั้งนี้ นางถวิลยังร้อยมาลัยขายหาเลี้ยงชีพ.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |