ดีลควบ‘2แบงก์’ TMBขึ้นอันดับ6 ไม่ปลดพนักงาน


เพิ่มเพื่อน    

 “อุตตม” ยันดีลควบรวม “ทหารไทย-ธนชาต” จบแล้ว ผงาดขึ้นแบงก์ใหญ่อันดับ 6 ของประเทศ สินทรัพย์อู้ฟู่  2 ล้านล้านบาท ลูกค้าพุ่ง 10 ล้านคน คาดใช้เวลา 1 ปีครึ่งจัดโครงสร้างภายในเรียบร้อย มั่นใจสร้างผลตอบแทนสุดว้าวให้ผู้ถือหุ้น 

    เมื่อวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงถึงการควบรวมธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ว่าได้มีการแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรียบร้อยแล้ว โดยภายหลังการควบรวม จะทำให้สถานะของธนาคารขยับขึ้นเป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับ 6 ของประเทศ มีขนาดทรัพย์สิน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้น แม้ว่าสัดส่วนการถือหุ้นจะน้อยลง แต่ผลตอบแทนจะได้มากขึ้น
    นายอุตตมกล่าวว่า การควบรวมยังคงใช้ชื่อธนาคารทหารไทยเหมือนเดิม โดยโครงสร้างผู้ถือหุ้น แบ่งเป็น ING สัดส่วน 21.24%, ทุนธนชาต สัดส่วน 20.43% และกระทรวงการคลัง สัดส่วน 18.4%, สโกเทียแบงก์ (BNS) ถือหุ้น 5.6% และผู้ถือหุ้นรายย่อย 34.3% ภายใต้เงื่อนไขว่ากระทรวงการคลังยังเป็นผู้มีอำนาจในการแต่งตั้งประธานกรรมการธนาคาร
    “ที่ผ่านมาได้หารือกับนายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย ซึ่งยืนยันว่ายังดำเนินงานต่อไปปกติไม่เปลี่ยนแปลง โดยหลังจากควบรวมแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีครึ่งในการจัดการโครงสร้างภายในองค์กร ส่วนการควบรวมจะเกิดขึ้นภายในปีนี้ เพื่อได้สิทธิลดหย่อนภาษี โดยยืนยันว่ากระทรวงการคลังไม่มีนโยบายและแนวคิดขายหุ้นทหารไทย” นายอุตตมกล่าว
    นายอุตตมกล่าวอีกว่า ในส่วนของกระทรวงจะให้กองทุนวายุภักษ์เข้าไปซื้อหุ้นธนาคารธนชาตในวงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อให้กลุ่มทุนธนชาตกลับมาซื้อหุ้นเพิ่มทุนของธนาคารทหารไทย หลังการควบรวมจะทำให้การบริหารของธนาคารมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นการรวมจุดแข็งของ 2 ธนาคารเข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดยธนชาตมีความเชี่ยวชาญด้านเช่าซื้อ ส่วนธนาคารทหารไทยเชี่ยวชาญด้านสินเชื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งการควบรวมจะทำให้การทำงานดีขึ้น และเป็นประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกราย
    นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทุนธนชาตฯ ยอมรับว่าเล็งเห็นศักยภาพและจุดแข็งจากทั้ง 2 ธนาคาร เมื่อรวมกันแล้วจะเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เกือบเท่าตัวมีสินทรัพย์รวมเกือบ 2 ล้านล้านบาท มีโครงสร้างทางธุรกิจและความชำนาญเสริมรับกันและกัน ธนาคารใหม่ที่เกิดขึ้นจากการรวมกันของทั้ง 2 ธนาคารจะมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเป็นประมาณ 10 ล้านคน โดยมีความทับซ้อนกันไม่ถึง 10% ถือเป็นโอกาสทางการตลาดใหญ่ขึ้นกว้างขวางขึ้น มีโอกาสทางธุรกิจเพิ่มมากขึ้นจากความเก่งของทั้ง 2 ธนาคาร 
         ด้านนายปิติกล่าวว่า การควบรวม 2 ธนาคารคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2564 ระหว่างกระบวนการรวมการดำเนินงานยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ลูกค้าของทั้ง 2 ธนาคารยังสามารถใช้บริการของธนาคารแต่ละแห่งได้ตามปกติ และจะแจ้งความคืบหน้าลูกค้าทราบอย่างต่อเนื่อง
         นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาตจำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะหนึ่งในทีมผู้บริหารของธนาคารใหม่นี้ ขอให้ความมั่นใจว่าการรวมกิจการครั้งนี้จะส่งผลดีต่อผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่าย โดยเฉพาะต่อลูกค้า คู่ค้า พนักงานและผู้ถือหุ้น เพราะจะนำไปสู่การยกระดับการให้บริการครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับทุกกลุ่มลูกค้า ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์และการให้บริการที่ดีที่สุดจากธนาคารใหม่ เนื่องจากการรวมกิจการ ผนึกกำลังความเชี่ยวชาญ และจุดแข็งที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะธนาคารธนชาต ที่เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ และทีเอ็มบีซึ่งเชี่ยวชาญในการระดมเงินฝาก ส่งผลให้การบริหารจัดการต้นทุนในการทำธุรกิจเกิดประสิทธิภาพ รวมถึงโอกาสในการสร้างรายได้มากขึ้นจากฐานลูกค้าที่ใหญ่ขึ้นถึง 10 ล้านคน ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับลูกค้า คู่ค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายต่อไปอย่างแน่นอน
          “ด้านของพนักงานนั้น การรวมกิจการครั้งนี้จะเปิดโอกาสการทำงานที่ท้าทายใหม่ๆ สำหรับพนักงานทั้ง 2 ธนาคาร จากการขยายฐานลูกค้าที่มีจำนวนมากขึ้น พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์และบริการที่ครบวงจร ทุกฝ่ายต่างให้ความสำคัญในการดูแลพนักงานทั้ง 2 ธนาคารอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง โดยจะมีแผนงานที่เป็นรูปธรรมในการพัฒนาความรู้ความสามารถอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พนักงานได้พัฒนาตัวเอง สามารถใช้ศักยภาพได้อย่างเต็มที่และเติบโตไปพร้อมกับธนาคาร ส่วนในเรื่องของสวัสดิการจะจัดให้อย่างเหมาะสมและไม่น้อยไปกว่าเดิม” นายประพันธ์ระบุ.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"