ม็อบฮ่องกงครึ่งหมื่นยึดครองสนามบินฮ่องกง ทางการประกาศระงับเที่ยวบินทั้งขาเข้าและออกเป็นครั้งแรกนับแต่เกิดวิกฤติประท้วงยาวนาน 10 สัปดาห์ รัฐบาลจีนประณามผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรงตอบโต้ตำรวจเป็น "การก่อการร้าย" 
    การชุมนุมประท้วงของชาวฮ่องกง ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นสุดสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกันกำลังเพิ่มความรุนแรงขึ้นอีกระดับ เมื่อการนั่งปักหลักชุมนุมภายในอาคารผู้โดยสารขาเข้าของท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงเมื่อวันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2562 ซึ่งเป็นการชุมนุมในสนามบินวันที่ 4 ส่งผลทำให้ท่าอากาศยานที่มีผู้โดยสารหนาแน่นมากเป็นอันดับ 8 ของโลกแห่งนี้ต้องประกาศระงับการบริการ และแนะนำให้ผู้โดยสารออกจากสนามบินแห่งนี้ทันที
     รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์ระบุด้วยว่า คำสั่งปิดสนามบินอย่างปุบปับครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับที่รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ส่งสัญญาณความพิโรธมากขึ้น ด้วยการประณามผู้ประท้วงที่ใช้ความรุนแรงว่าเป็นการก่อการร้าย อีกทั้งมีรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ที่หนุนหลังรัฐบาลปักกิ่งว่า กองกำลังตำรวจแห่งประชาชนจีนได้ประชุมพลอยู่ที่เมืองเซินเจิ้น ติดชายแดนฮ่องกง เพื่อทำการฝึกฝน
     การชุมนุมที่สนามบินฮ่องกงเมื่อวันจันทร์มีจำนวนผู้ประท้วงเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้นจาก 3 วันก่อนหน้านั้น โดยตำรวจระบุว่ามีผู้ชุมนุมมากกว่า 5,000 คน พวกเขาชูป้ายข้อความประท้วงเช่น "ฮ่องกงไม่ปลอดภัย" และ "ตำรวจน่าขายหน้า" โดยกล่าวโทษตำรวจว่าใช้ความรุนแรงและยุทธวิธีปราบปรามผู้ประท้วงเกินกว่าเหตุ ผู้ประท้วงซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวสวมชุดดำยังพากันร้องตะโกนว่า "ไม่มีผู้ก่อจลาจล มีแต่ทรราช" และ "ปลดปล่อยฮ่องกง" 
    การท่าอากาศยานของฮ่องกงออกคำประกาศว่า การดำเนินการของท่าอากาศยานระหว่างประเทศฮ่องกงได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรงจากการชุมนุมของประชาชนที่สนามบินในวันนี้ เที่ยวบินทุกเที่ยวถูกยกเลิก และขอให้ผู้โดยสารทุกคนออกจากอาคารผู้โดยสารทั้งหมดโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ 
    เจ้าหน้าที่ยังแนะนำประชาชนทั่วไปว่าไม่ควรมาที่สนามบิน เนื่องจากถนนสายต่างๆ ที่มายังสนามบินนั้นมีการจราจรติดขัดและลานจอดรถเต็มหมด 
     สายการบินคาเธย์แปซิฟิกของฮ่องกงมีคำเตือนด้วยว่า บริการการบินอาจได้รับผลกระทบต่อเนื่องไปถึงวันอังคาร และแนะนำผู้โดยสารว่าให้เลื่อนการเดินทางที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน
     การปิดสนามบินเมื่อวันจันทร์เกิดขึ้นหลังจากการประท้วงเมื่อสุดสัปดาห์เกิดความรุนแรงอีกครั้ง  และตำรวจฮ่องกงได้เปิดตัวอาวุธปราบจลาจลชนิดใหม่คือปืนฉีดน้ำแรงดันสูง ที่สามารถผลักดันเป้าหมายหุ่นจำลองกระเด็นไปไกล 30-40 เมตร องค์การแอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนลตำหนิเครื่องมือชนิดใหม่ของตำรวจฮ่องกงทันทีว่า ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงไม่ใช่ของเล่นที่ตำรวจฮ่องกงจะนำมาใช้เพื่อแสดงความแข็งแกร่ง อาวุธทรงพลังชนิดนี้สามารถทำให้บาดเจ็บสาหัสหรืออาจถึงตายได้
     การปะทะเมื่อสุดสัปดาห์ที่เกิดขึ้นเกือบ 12 จุดทั่วเกาะฮ่องกง ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปภายในสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่งและบนท้องถนนในย่านจับจ่ายกลางเมือง ส่วนผู้ประท้วงตอบโต้ด้วยก้อนอิฐ และใช้ถังดับเพลิงกับน้ำฉีดพ่นใส่ตำรวจปราบจลาจล ผู้ประท้วงยังโกรธแค้นที่ตำรวจปลอมตัวสวมชุดดำปะปนกับผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยเพื่อจับกุมคนด้วย
     เจ้าหน้าที่กล่าวว่า การปะทะเมื่อสุดสัปดาห์มีคนบาดเจ็บ 45 คน ในจำนวนนี้ 2 คนอาการสาหัส  รายงานกล่าวว่าหนึ่งในผู้ที่บาดเจ็บสาหัสเป็นหญิงคนหนึ่งที่บาดเจ็บบริเวณใบหน้า โดยมีรายงานว่าเธอโดนกระสุนถุงตะกั่ว และมีข่าวลือว่าเธอสูญเสียการมองเห็น ภาพของหญิงคนนี้นอนอยู่ที่พื้นมีเลือดโซมหน้าถูกแพร่สะพัดทางออนไลน์อย่างรวดเร็ว และถูกนำมาเป็นภาพสัญลักษณ์เรียกร้องให้ประชาชนออกมาชุมนุมกันครั้งใหม่ รวมถึงป้ายที่มีข้อความว่า "ตาต่อตา" ผู้ชุมนุมหลายคนสวมผ้าคาดปิดตาหรือปิดผ้าพันแผลเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับหญิงบาดเจ็บคนนี้ด้วย
     การประท้วงในฮ่องกงครั้งนี้มีชนวนเหตุจากร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้จีน ซึ่งแคร์รี แลม  ผู้บริหารสูงสุดที่ได้รับการคัดเลือกจากรัฐบาลปักกิ่งได้เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดแล้ว แต่การประท้วงบานปลายเป็นการเรียกร้องประชาธิปไตยและปกป้องสิทธิเสรีภาพของชาวฮ่องกงตามหลัก  "หนึ่งประเทศ สองระบบ" และต้องการให้ชาวฮ่องกงสามารถเลือกตั้งผู้บริหารกันเอง 
    ที่กรุงปักกิ่ง หยาง กวง โฆษกสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าของรัฐบาลจีน แถลงประณามผู้ประท้วงที่ปาระเบิดเพลิงใส่ตำรวจว่าเป็นการก่อการร้าย เขากล่าวว่า ผู้ชุมนุมหัวรุนแรงของฮ่องกงใช้เครื่องมืออันตรายอย่างที่สุดหลายครั้งเพื่อโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ การกระทำของพวกเขาเป็นอาชญากรรมร้ายแรงอยู่แล้ว และยังส่งสัญญาณเริ่มต้นของการปรากฏขึ้นของการก่อการร้าย
     ก่อนหน้านี้รัฐบาลปักกิ่งเคยเตือนผู้ประท้วงในฮ่องกงว่าอย่าเล่นกับไฟ และอย่าเข้าใจผิดว่าความอดกลั้นคือความอ่อนแอ แต่จีนยังยืนกรานว่ารัฐบาลฮ่องกงและตำรวจฮ่องกงสามารถรับมือได้เอง 
     ขณะเดียวกันทางการจีนได้แสดงความไม่พอใจสายการบินคาเธย์แปซิฟิก ซึ่งมีพนักงานและนักบินเข้าร่วมการชุมนุมช่วงที่ผ่านมา และได้ออกกฎใหม่ห้ามพนักงานของสายการบินนี้ที่เข้าร่วมการชุมนุมบินเข้าจีนหรือบินผ่านน่านฟ้าของจีน ส่งผลให้คาเธย์แปซิฟิกต้องออกคำเตือนลูกจ้างเมื่อวันจันทร์ว่า ผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมหรือสนับสนุนการประท้วงที่ผิดกฎหมายจะถูกไล่ออก.