คุกป้าติ้น12เดือน หาป้าติ๋วโกงหวย


เพิ่มเพื่อน    


    จำคุกป้าติ้น 12 เดือนไม่รอลงอาญา คดีแจ้งเท็จหาป้าติ๋วยักยอกหวยรางวัลที่ 1 รวม 5 ใบเป็นเงิน 30 ล้านที่ได้เข้าหุ้นกันซื้อ เผยยังมีอีกคดีที่ป้าติ้นกับป้าเล็กกล่าวหาป้าดายักยอกหวย 30 ล้าน ศาลมีนบุรีนัดฟังคำพิพากษา 30 ก.ย.นี้
    เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมนี้ ที่ห้องพิจารณา 716 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีแจ้งความเท็จหวย 30 ล้านบาท ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางเรวดี หาแก้ว หรือป้าติ้น อายุ 54 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด อันเป็นการแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษทางอาญา 
    กรณีระหว่างวันที่ 12 เม.ย.-8 พ.ค.2560 จำเลยได้บังอาจแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่ ร.ต.อ.คะนอง โสมทอง เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาประจำ สภ.ดงเย็น จ.อุดรธานี ว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2560 จำเลยได้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลร่วมกับนางจรูญ เฮก อายุ 63 ปี ที่วัดศิริสุทโธ (คำชะโนด) อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี สลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 392785 จำนวน 5 ใบ เป็นเงิน 500 บาท โดยออกเงินกับนางจรูญกันคนละ 250 บาท ตกลงกันว่าเมื่อถูกรางวัลจะแบ่งคนละครึ่ง โดยมอบสลากกินแบ่งรัฐบาลให้นางจรูญ เฮก ผู้เสียหาย เก็บรักษาไว้
    ต่อมาวันที่ 1 เม.ย.2560 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ประกาศรางวัล ปรากฏว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 392785 ที่ตนและนางจรูญร่วมกันซื้อไว้ถูกรางวัลที่ 1 เป็นเงินทั้งสิ้น 30 ล้านบาท เมื่อทวงถามนางจรูญได้บ่ายเบี่ยงตลอดมา จึงมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับนางจรูญ ข้อหายักยอกทรัพย์ของผู้อื่น อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ทั้งที่ความจริงแล้ว การแจ้งข้อความดังกล่าวของจำเลยนั้นเป็นความเท็จทั้งสิ้น ความจริงจำเลยรู้อยู่แล้วว่าจำเลยมิได้ร่วมกับนางจรูญซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล หมายเลข 392785 แต่อย่างใด การที่จำเลยได้นำความเท็จดังกล่าวไปแจ้งความนั้น ทำให้นางจรูญได้รับความเสียหาย โดยเป็นการเพื่อจะแกล้งให้ต้องรับโทษทางอาญา ข้อหายักยอกทรัพย์ อันเป็นการแจ้งความเท็จว่านางจรูญได้กระทำความผิดอาญา 
    เหตุเกิดที่ ต.ดงเย็น อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 173, 174 จำเลยให้การปฏิเสธ
    วันนี้ พนักงานสอบสวน สภ.ดงเย็น อ.บ้านดุง ผู้เสียหายที่ 1 และนางจรูญ หรือป้าติ๋ว ผู้เสียหายที่ 2 เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม 
    ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยที่นำสืบหักล้างแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ศาลเห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความจากพนักงานสอบสวน สภ.ดงเย็น พยานโจทก์ ซึ่งให้การว่า ภายหลังรับแจ้งจากจำเลยแล้ว พนักงานสอบสวนได้ไปตรวจสอบการรับรางวัลของผู้ถูกสลากงวดดังกล่าว พบว่าหมายเลขชุดทั้งหมด 5 ใบ ที่จำเลยอ้างว่าซื้อไว้นั้น ก็มีผู้มารับเงินรางวัลไปแล้ว โดยหมายเลขชุดดังกล่าวที่จำเลยอ้างไม่ได้รวมอยู่ในชุดเดียวกันตามที่จำเลยอ้าง อีกทั้งลายมือชื่อที่จำเลยอ้างว่าลงไว้หลังสลากนั้น เมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบการแก้ไขหรือร่องรอยการขูดลบลายมือชื่อแต่อย่างใด เชื่อว่าพยานไม่เคยรู้จักกับจำเลยและผู้เสียหายที่ 2 มาก่อน เชื่อว่าเบิกความไปตามความจริง พยานหลักฐานของจำเลยมีน้ำหนักน้อย ไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ อีกทั้งผู้เสียหายที่ 2 ไม่ได้ซื้อเลขรางวัลที่ 1 ไม่ได้รับรางวัล 30 ล้าน ตามที่จำเลยไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ผู้เสียหายที่ 1 แต่อย่างใด การกระทำของจำเลยจึงเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.ดงเย็น มีคำสั่งไม่สมควรฟ้องนางจรูญ ผู้เสียหายที่ 2 แล้ว        
    พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 173 ประกอบมาตรา 174 วรรคสอง เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ว่าได้มีการกระทำความผิดเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น ลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี 6 เดือน คำให้การของจำเลยมีประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยไว้เป็นเวลา 12 เดือนโดยไม่รอลงอาญา
    ต่อมาทนายความของนางเรวดีได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1 แสนบาท ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราว ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ถามป้าติ้นจะดำเนินการอย่างไรต่อไปเกี่ยวกับเรื่องคดี ป้าติ้นตอบว่า ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้คิดอะไรตอนนี้ และยังไม่อยากพูดอะไรมาก 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่นางเรวดี หรือป้าติ้น และนางวิไลพร รัตนติสร้อย หรือป้าเล็ก อายุ 59 ปี ตกเป็นจำเลยในข้อหาแจ้งความเท็จลักษณะเดียวกัน กรณีเมื่อปี 2559 นางเรวดีและนางวิไลพรได้เข้าแจ้งความตำรวจ สน.ประเวศ ว่าถูกนางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ หรือป้าดา ผู้เสียหายซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ยักยอกสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 066720 จำนวน 5 คู่ ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 1 เม.ย.2559 มูลค่า 30 ล้านบาท ศาลอาญามีนบุรีได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 30 ก.ย.นี้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"