'ประยุทธ์'เดือด พิสูจน์สัญชาติช้า รอชาติหน้าหรือ


เพิ่มเพื่อน    

    “ประยุทธ์” นำทีมลงพื้นที่ "สมุทรสาคร-เพชรบุรี" ก่อนประชุม ครม.สัญจร  โปรยยาหอมแรงงาน “ไทย-เมียนมา” พร้อมดูแลทุกเรื่อง แนะฟังเพลงพี่เบิร์ด “จับมือกันไว้” สอนเอ็นจีโอต้องช่วยรัฐบาลด้วยไม่ใช่เอาแต่ติติง บอกอย่านอนหลับทับสิทธิ์ ชวนเลือกคนมีวิสัยทัศน์ ไม่ใช่พวกขายฝันหรือแจกอย่างเดียว นายกฯ เดือด! พิสูจน์สัญชาติต่างด้าวล่าช้า ถึงขั้นทุบโต๊ะบอกต้องรอเสร็จชาติหน้าหรืออย่างไร 
เมื่อวันจันทร์ที่ 5 มีนาคม ตั้งแต่ช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจราชการ ในโอกาสมาประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2561 (ครม.สัญจร) ระหว่างวันที่ 5-6 มี.ค. ที่จังหวัดสมุทรสาครและเพชรบุรี โดยจุดแรกที่เยี่ยมชมคือ มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพแรงงาน (LPN) ต.บางหญ้าแพรก  อ.เมืองสมุทรสาคร โดย พล.อ.ประยุทธ์ใช้รถยนต์หมายเลขทะเบียน กก 3344 สมุทรสาคร
โดยนายกฯ กล่าวกับตัวแทนเอ็นจีโอว่า เมื่อมีการร้องทุกข์เข้ามาแล้วต้องรู้ด้วยว่าจะบริหารจัดการอย่างไร ต้องมีชุดความรู้ด้วย ถ้าฟังอย่างเดียวแล้วชี้แจงไม่ได้ก็จะกลายเป็นแต่ปัญหา เพราะไม่มีวิธีการแก้ไขเสนอ ส่งผลให้ข้อมูลหลุดไปที่ต่างประเทศ จุดนี้ต้องช่วยกันดูด้วย เพราะการที่บางคนไม่ได้ทำงานกับเราแล้วนำไปพูดข้างนอก กลายเป็นว่าเราไม่มีผลงานซึ่งไม่ใช่ 
“เข้าใจการทำงานของเอ็นจีโอ แต่เอ็นจีโอก็ต้องดูด้วยว่าผลประโยชน์ประเทศชาติอยู่ตรงไหน ไม่ได้หมายความว่าต้องปกปิดใคร ทุกอย่างต้องทำให้ถูกต้อง ยอมรับว่ามันยาก ซึ่งเรื่องของแรงงานเกี่ยวข้องทั้งผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่ และแรงงาน โดยทั้ง 3 ส่วนต้องช่วยกัน อย่าให้ต่างคนต่างมีปัญหา  รัฐบาลจะดูในภาพรวมเชื่อมโยงกับเอ็นจีโอ รัฐบาลไม่เอาเอ็นจีโอไปข้างนอก เราต้องทำงานร่วมกันให้ได้ เอาปัญหามาพูดกันแล้วหาทางแก้ แต่ถ้าโจมตีกันไปมาคนนั้นถูกคนนี้ผิด ก็ทำให้แก้ปัญหาไม่ได้ ฉ ะนั้นบทบาทของเอ็นจีโอต้องทำด้วยกัน 2 อย่าง คือดูแลแก้ปัญหาของตัวเองและช่วยรัฐบาลด้วย" นายกฯ ระบุ
ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับแรงงานชาวเมียนมาว่า เมื่อมาอยู่แผ่นดินไทยก็ต้องรักทั้ง 2  ประเทศ เพราะในวันข้างหน้าทุกคนก็คงต้องกลับประเทศ เพราะแต่ละประเทศมีการพัฒนา ประเทศของท่านก็จะต้องดีขึ้น ส่วนปัญหาการค้ามนุษย์รัฐบาลไทยจะดูแลทั้งหมด โดยปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งนี้  พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ถามชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานทั้งชาวไทยและเมียนมา โดยเฉพาะผู้ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ และกล่าวกับครูที่สอนหนังสือให้บุตรของแรงงานในพื้นที่ว่า ให้สอนเรื่องจิตสำนึกและคุณธรรมด้วย รวมถึงการมีอุดมการณ์ เพื่อให้สังคมเกิดความสงบสุข มิเช่นนั้นจะเกิดความขัดแย้ง
    จากนั้นนายกฯ รับฟังบรรยายสรุปก่อนเน้นย้ำว่า รัฐบาลมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และปัญหาแรงงานข้ามชาติให้เป็นรูปธรรม รัฐบาลพร้อมให้ความร่วมมือทุกหน่วยงาน ส่วนการดูแลแรงงานขอให้มอง 2 ทาง ทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างประเทศ ขอให้คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก และขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
    ต่อมาเวลา 08.40 น. ที่บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ต.ท่าทราย อ.เมืองสมุทรสาคร พล.อ.ประยุทธ์รับฟังรายงานแนวทางการพัฒนาสมุทรสาครให้เป็นศูนย์กลางอาหารทะเล ก่อนพบปะพนักงานและแรงงานเกือบ 200 คน โดยนายกฯ กล่าวว่าไม่ว่ามาจากไหนก็รักกันไว้เถิด รักประเทศไทยและรักประเทศของตัวเองด้วย รัฐบาลเต็มที่ในการแก้ปัญหา ไม่อยากโทษใคร เราต้องทำให้ดีที่สุดในสมัยเราเพื่อลูกหลาน 
แนะฟังเพลง 'พี่เบิร์ด'
    นายกฯ กล่าวว่าวันนี้มีปัญหาเยอะ พยายามเข้ามาแก้แต่ก็มีติดขัด ก็ขอให้เป็นกำลังใจรัฐบาลต่อไป  วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในการเลือกตั้ง ฝากทุกคนไปเลือกตั้งด้วยนะ อย่าไปนอนหลับทับสิทธิ์ อย่าไปคิดว่าเราไม่เกี่ยวแล้วไม่ไป เดี๋ยวได้เดิมๆ มาอีก ฉะนั้นคนที่ไม่เคยไปเลือกตั้งก็ให้ไปเลือกทุกคน เข้าใจไหม ใครที่ไปเลือกตั้งก็ขอให้เจริญ เพราะนี่คือประเทศของเรา ไม่ใช่ไปเลือกใครไม่รู้มาเหมือนเดิม ก็ไม่ดีขึ้น
"ผมยอมรับเหนื่อยในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เหนื่อยในการทำความเข้าใจ แต่เห็นหน้าพวกเราก็หายเหนื่อย การแก้ปัญหาให้คน 70 ล้านคนมันไม่ง่ายนัก เพราะนายกฯ ต้องรับผิดชอบคน 70 ล้านคน  ไม่ใช่แค่พวกเราแค่นี้ แต่จะทำอย่างไรให้ทุกจังหวัดทุกกิจการดีขึ้นกว่าเดิม" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นได้มีแรงงานหญิงรายหนึ่งขอจับมือนายกฯ พร้อมมอบดอกกุหลาบให้กำลังใจนายกฯสู้ๆ ขณะที่นายกฯ ยื่นมือไปให้จับพร้อมกล่าวว่า ขอให้ไปฟังเพลงจับมือกันไว้ของเบิร์ด-ธงชัย แมคอินไตย์ ตนรักทุกคน มิงกะลาบา (สวัสดี) ขอให้ทุกคนโชคดี อย่าซื้อหวยมากนัก มันเป็นความสุขความหวัง แต่อย่าซื้อมาก ขอให้มีความสุข ถึงเงินจะน้อยแต่ต้องส่งลูกเรียนหนังสือเพื่อพัฒนาต่อไปในวันข้างหน้า เพราะสินค้าและทรัพยากรจะแพงขึ้น 
       จากนั้นนายกฯ ได้ชูมือทำสัญลักษณ์ไอเลิฟยู พร้อมระบุว่ารักทุกคนไม่ใช่แค่คนไทย เพราะเราทุกคนคืออาเซียน เราจะต้องเดินไปด้วยกันไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง 
ในเวลา 11.00 น. ที่องค์การสะพานปลาสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร พล.อ.ประยุทธ์รับฟังภาพรวมการดำเนินการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ และตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมการแจ้งเข้า–ออกเรือประมงพาณิชย์ ชมการสาธิตระบบฐานข้อมูลการสแกนม่านตา และระบบระบุตำแหน่งเรือประมงไทย พร้อมพบปะแรงงานประมงและประชาชนในพื้นที่
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวระหว่างพบปะประชาชนว่า หลายคนไม่เข้าใจว่ารัฐบาลอยู่มา 4 ปีแล้วไม่ได้อะไร แต่เราจะทำตามใจตัวเองไม่ได้ ทุกอย่างต้องเริ่มต้นให้ได้ก่อนถึงจะมองเห็นอนาคตของเราทุกคน  อยากให้พวกเรามองไกลกว่านี้อีกสักนิด ย้อนกลับไปดูว่าเราโตมาบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง สิ่งสำคัญต้องกลับมาดูจิตใจของคนว่าจิตสำนึกเป็นอย่างไร ความเป็นคนไทยหายไปบ้างหรือไม่ หรือเรามีชีวิตด้วยความเป็นสุขเหมือนเดิมหรือไม่ ทุกคนควรคำนึงถึงมากกว่าคำนึงถึงเรื่องรายได้อย่างเดียว  เพราะการพัฒนาจิตใจตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ
ย้ำอย่าเลือกคนแจกเยอะ
ทั้งนี้เมื่อนายกฯ กล่าวถึงช่วงดังกล่าวมีเด็กร้องไห้เสียงดัง ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์กระเซ้าว่า “เจอคนที่ไม่ชอบนายกฯ แล้ว แต่ผมพูดเล่นนะ และที่มาวันนี้มีเจตนารมณ์มุ่งมั่นแก้ปัญหา ซึ่งไม่ใช่แค่จังหวัดเดียว แต่ทำทั้งประเทศ ขอร้องว่าอย่าให้ใครมาบอกว่า ถ้าเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะทำโน่นนี่ให้ ผมจะไม่ขายความคิดหรือขายฝันแบบนั้นเด็ดขาด ผมจะขายว่าเราต้องเดินหน้าประเทศอย่างมีขั้นตอนและยุทธศาสตร์ว่าอนาคตเราจะทำอย่างไร" 
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่ารัฐบาลชุดนี้คิดและทำทุกอย่างต้องมีหลักฐาน ถ้าจะเอาแบบให้ใครชอบก็คงแจกทุกอย่าง ทุกคนก็จะชอบ วันนี้แค่ออกกฎหมายมาก็ยังไม่ชอบเลย ทั้งนี้กฎหมายออกมาจะใช้ได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับทุกคน ถ้าพวกเราคิดไม่ตรงหรือไม่เข้าใจก็จะเดินกันสะเปะสะปะ วันข้างหน้าก็จะทำอะไรไม่ได้ 
"ถ้าบ้านเมืองไม่เข้มแข็งไม่มีระเบียบ กฎหมายใช้ไม่ได้ ประชาธิปไตยที่มองแต่สิทธิเสรีภาพโดยไม่มีขีดจำกัด ผมถามว่าแล้วเราจะมีความสุขไหม อย่างการเลือกตั้งกำลังจะมาถึง ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าการเลือกตั้งคือกลไกของประชาธิปไตย แต่ทุกคนต้องมีความรู้ว่าจะเลือกใครอย่างไร ต้องเลือกคนที่มีหลักการ มีวิธีการทำงานที่ยั่งยืน อย่าไปเลือกคนอะไรที่มันสั้นๆ ให้นี่ให้โน่น ให้แล้วประเทศมันล่มสลาย  ทุกคนเข้าใจสิ่งที่ผมพูดหรือไม่ โดยเฉพาะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ต้องรู้ว่าประชาธิปไตยต้องเป็นแบบไหน จะเลือกตั้งเอาใครก็ได้ที่มันแจกเยอะๆ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ตาย ตายผมจะบอกให้ ถ้าวันนี้ยังทำแบบนั้นก็ต้องตายหมดทั้งประเทศ ผมจะบอกให้ ไอ้ที่เคยได้ก็จะไม่ได้ เงินเดือนก็จะไม่มีจ่ายคน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลนี้พร้อมรับการตรวจสอบ ตนเองมีคดีติดตัว 400-500 คดี หลายคนบอกว่าต้องการสืบทอดอำนาจ แต่หากคดีความต่างๆ ชี้ว่าผิดก็จะโดนเละไปหมด อย่างไรก็ตามที่ถูกกล่าวหาโจมตี ขอให้ช่วยบ้างเพราะหลายเรื่องถูกบิดเบือน 
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ถามประชาชนว่าใครจะไปเลือกตั้งขอให้ยกมือขึ้น แต่ปรากฏว่ามีผู้ยกมือเพียงไม่กี่คน พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวว่าอย่างนั้นเลิกดีกว่า เพราะอยากให้ทุกคนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพราะถ้าไม่ไปเลือกตั้งทุกอย่างจะกลับไปเป็นแบบเดิม แต่ขอให้เลือกให้ดีว่าจะเลือกใครหรือกาช่องไม่เลือกใครก็ได้ ไม่ได้บอกให้ต้องมาเชียร์ สามารถเชียร์ใครก็ได้ที่วางแผนเดินหน้าประเทศทุก 5 ปี เพราะการให้แบบเดิมนั้นไม่เกิดความยั่งยืน
"ผมกลัวคนตรงกลางที่บอกว่าใครก็ได้มาเป็นรัฐบาล เพราะตัวเองไม่สนใจ เพราะถ้าได้รัฐบาลที่ปล่อยปละละเลยในการใช้งบประมาณก็อันตรายมาก วันนี้ไม่ได้มาหาเสียง เพราะถ้ามาหาเสียงก็จะบอกว่าเดี๋ยวแจกของและให้สิ่งต่างๆ" นายกฯ กล่าวและว่า ปกติจะดุก็ต่อเมื่ออยู่หน้าจอโทรทัศน์และเจอสื่อมวลชน และขอว่าอย่าซื้อหวยมาก ให้ซื้อพอสมควร คราวหน้าเวลาลงพื้นที่จะให้เจ้าหน้าที่ปิดป้ายทะเบียนรถเพราะจับจ้องเหลือเกิน
'ประยุทธ์' ยัวะทุบโต๊ะ
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์รับฟังการสาธิตการใช้เครื่องสแกนม่านตาเพื่อพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว  โดยนายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ชี้แจงว่าสาเหตุที่ขึ้นทะเบียนล่าช้า เนื่องจากเครื่องสแกนม่านตามีไม่เพียงพอ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์หงุดหงิดทุบโต๊ะเสียงดัง และกล่าวด้วยน้ำเสียงโมโหว่า "ทำไมไม่ซื้อ ทำไมซื้อไม่ได้ แล้วมาบอกเครื่องมือไม่พอ ทำไมไม่ทำกัน มันควรเสร็จตั้งแต่ชาติที่แล้ว เสียหายกันไปเท่าไหร่ วันนี้ต้องทำทุกวิถีทางแล้ว เหลืออย่างเดียวให้นายกฯ ลงมาทำเองหรือไม่ ผมไม่ได้หงุดหงิด แต่งานมันเดินหน้าไม่ได้ถ้าไม่เสร็จภายในเดือน มิ.ย.ก็ไม่ผ่อนผันอีกแล้ว  ถ้าขึ้นทะเบียนไม่ครบจับกุมอย่างเดียว"
    ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดตั้งเครื่องสแกนม่านตาสั่งมานานแล้ว จึงต้องกวดขันและให้เร่งดำเนินการเร็วขึ้น วันนี้ที่มาเพื่อให้ต่างประเทศและไอยูยูเห็นด้วย ทั้งนี้ขอประชาชนอย่าต่อต้านรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมาย ต้องมาร่วมมือกันดีกว่า ซึ่งยอมไม่ได้หากเจ้าหน้าที่ทำงานไม่สำเร็จหรือไม่ทัน 
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้ำว่า การเลือกตั้งขอให้เลือกพรรคให้ดีๆ อย่างที่ให้จดจัดตั้งพรรค บางพรรคชื่อใช้ได้หรือไม่ เรื่องนี้ไม่ใช่ของเล่น คนที่ตั้งชื่อแบบนี้ไม่ได้มีเจตนาตั้งพรรคจริง แค่อยากเป็นข่าว ไม่ได้เรื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการลงพื้นที่องค์การสะพานปลาฯ เจ้าหน้าที่ได้ทำความสะอาดและเคลียร์พื้นที่จนสะอาดสะอ้านไม่มีกลิ่นคาว นอกจากนี้ยังจัดเจ้าหน้าที่ ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และข้าราชการมาพบนายกฯ กว่า 100 คน โดยมีแรงงานซึ่งเป็นลูกเรือประมงจริงเพียง 25 คน ขณะเดียวกันได้จัดเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง และเรือตำรวจน้ำคอยลาดตระเวนในแม่น้ำท่าจีนซึ่งติดกับบริเวณที่นายกฯ ลงพื้นที่ ป้องกันเหตุร้ายและดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้าน ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าจะลอยเรือเพื่อชูป้ายคำว่า “STOP” แสดงความไม่ยอมรับรัฐบาลและ คสช.
ต่อมาเวลา 14.30 น. ที่ ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี พล.อ.ประยุทธ์ไปเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนธนาคารปูม้า-แพปลาชุมชนแหลมผักเบี้ย โดยเมื่อมาถึงได้ถามหาว่าปูอยู่ไหน จากนั้นได้เยี่ยมชมร้านค้าวิสาหกิจชุมชน และได้แวะที่แผงปูม้าและปูลาย พร้อมลองจับปูโดยตัวแรกเป็นปูเพศผู้ตัวใหญ่ แต่ด้วยความไม่ชำนาญปูจึงง้างก้ามขึ้นมาจะหนีบ ทำให้นายกฯ ตกใจปล่อยปูทันที ก่อนกล่าวว่ารัดก้ามปูไว้แล้วยังจะหนีบอีก จากนั้นนางดรุณี เสริมศรี อายุ 47 ปี เจ้าของแผงได้จับปูตัวใหม่ขึ้นมาให้ โดยนายกฯ ได้สอบถามถึงการเลี้ยงและการจำหน่าย รวมถึงลองจับกั้งกระดานตัวใหญ่ โดยเปรยว่า น่าสงสารมีแต่คนกิน จากนั้นได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ตัวนี้คือกั้ง ไม่ใช่ปู ไม่ใช่จะอะไรๆ ก็ปู”
ชอบทุกอย่างถูกกฎหมาย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าระหว่างกั้งกับปูชอบกินอะไรมากกว่ากัน พล.อ.ประยุทธ์ยิ้มอย่างรู้ทัน พร้อมกล่าวว่า “เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวพวกสื่อก็มาหาเรื่องผมอีก” ขณะที่นางชูศรี แตงอุดม ประธานวิสาหกิจชุมชน  บอกว่าปูที่นี่หวานกว่าที่อื่น โดย พล.อ.ประยุทธ์ยิ้มแล้วกล่าวว่า “แหม...เหรอ” พร้อมถามว่าแล้วทำไมไม่มีกุ้งบ้าง ก่อนกล่าวว่า “นายกฯ ชอบทุกอย่าง ถ้ามาแบบถูกกฎหมาย” 
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้บ่นเมื่อเห็นแผงปลาเค็ม โดยบอกว่าเมื่อไปถึง กทม.แล้วทำไมถึงเค็มนัก ประธานวิสาหกิจชุมชนจึงตอบว่าปลาเค็มก็ต้องเค็ม ถ้าจืดก็ไม่ใช่ปลาเค็ม ซึ่งเป็นคำตอบที่สร้างความพอใจให้นายกฯ อย่างมาก โดยหันมาตะโกนบอกผู้สื่อข่าวว่าปลาเค็มมันต้องเค็ม ซื้อไปแล้วอย่าบ่น ถ้าจืดแสดงว่าไม่ใช่ปลาเค็ม หนำซ้ำจะขมด้วย 
จากนั้นนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งกับประชาชนบนเวทีว่าจะแก้ปัญหาให้ได้เร็วที่สุด แต่ไม่ใช่ว่าจะแก้วันนี้พรุ่งนี้ ทุกอย่างต้องมีแผนงาน งบประมาณ เข้มงวดทุกขั้นตอน การอนุมัติไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องหารือแล้วหารืออีก วันนี้คนไทยส่วนใหญ่ต้องระวังเพราะเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันกันมาก คนรวยคนจนเป็นกันหมด อย่างตนเองก็เป็นโรคเครียด เพราะข่าวเขียนให้ร้าย แต่ก็ทน เป็นศรีต้องทนได้  ไม่ได้ทนเพื่อตัวเอง แต่ทนเพื่อพวกเราและทนมานานแล้ว เพื่อไม่ให้พวกท่านมีตีนกา
“วันนี้ผมโดนเรื่องทุจริตเยอะมาก ทั้งที่สั่งแล้วไม่ให้มีการทุจริตแต่ก็ยังเกิดขึ้น และเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องตรวจสอบหาหลักฐานให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าเพิ่งไปตัดสินใคร ด้วยความรู้สึกส่วนตัว ตามกระแสสังคม กฎหมายก็มี ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมใช้ไม่ได้เลย กฎหมายก็มีเห็นใจเขาบ้าง วันนี้อ่านข่าวก็เครียดเพราะมีหลายเรื่อง อย่างผมไม่เปิดหนังสือพิมพ์ ไม่เปิดเฟซบุ๊ก ไม่เปิดโซเชียลฯ เพราะถ้าเปิดเมื่อไหร่ก็เครียด ยืนยันว่าไม่ได้อยากอยู่เพื่อสืบทอดอำนาจ ไม่เหมือนคนที่พูดที่อยากเข้ามา แต่อยากทำงานให้เสร็จ และอย่าไปรบกับกฎหมาย ไม่มีวันชนะ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"