ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์

พฤหัสบดีศรีจร (5) เดินถอยหลังหรือพักรในราศีพิจิก-ภพมรณะดวงเมืองตั้งแต่ 25 พฤษภาคม 2562 และจะลอยนิ่งหรือมนท์วันที่ 19 สิงหาคม 2562 และวกกลับเดินหน้าวันที่ 20 สิงหาคม 2562 เวลาประมาณ 15.00 น.

พฤหัสบดีศรีจรเล็งใส่พระอังคาร (๓) ถึงพระพุธ(๔) และพระศุกร์ (๖) ดวงเดิมของเมือง

พระเสาร์จร (7) เดินถอยหลังหรือพักรในราศีธนู ตั้งแต่ 3 พฤษภาคม 2562 ตามไล่พฤหัสบดีจรที่เดินถอยหลังหนี

                ขอพักการเขียนถึงเค้าโครงชีวิตของคนลัคนารายราศีเอาไว้ก่อน เพราะขณะนี้ใกล้จะได้เวลาที่พฤหัสบดี-ศรีจรดวงเมืองที่เดินถอยหลังกรูดๆ มานานจะได้วกกลับและเดินหน้าแล้ว ซึ่งจุดวกกลับของดาวใหญ่นี้ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร บอกเป็นช่วงเวลาที่เรื่องสำคัญจะเกิดในบ้านเมือง

                ด้วยหลักโหรดังกล่าวผู้เขียนได้ทำนายไว้ก่อนหน้านี้ ในแม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 280 ชื่อตอน-จับตา 19 สิงหาคม 2562 เหตุใหญ่จะเริ่มทยอยบังเกิด(เริ่มลอยนิ่งมนท์) รวมทั้งระยะ 20-21 สิงหาคม 2562 (เริ่มเดินหน้า-ปฏิทินดาวแตกต่างกัน) ยาวไปถึง 10 ตุลาคม 2562

                ทีนี้มาดูกันเป็นตัวอย่างก่อนว่า ช่วงพฤหัสบดี-ศรีจร-เดินถอยหลังกรูดๆ ในภพมรณะดวงเมืองระหว่าง 25 พฤษภาคม 2562 ถึงช่วงประมาณต้นเดือนสิงหาคม 2562 ว่า เกิดอะไรขึ้นในบ้านเมืองและโลกที่กระทบถึงไทยบ้าง (โลกและเมืองไทย-ลัคนาสถิตราศีเมษ)

                1.ด้านร้าย วันแรกที่พฤหัสบดี-ศรีจรเดินถอยหลังเข้าภพมรณะดวงเมือง (หมายถึงตาย-เสียหาย-ประมาท) คือวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 จู่ๆ ตู้สินค้าของเรือบรรทุกโซเดียมไซยาไนด์ ซึ่งเป็นสารพิษที่เข้าประเทศไทยไทยโดยไม่แจ้งไหม้ที่ท่าเรือเอ 6 แหลมฉบัง ต้องอพยพผู้คนจ้าละหวั่น (พฤหัสบดีเป็นตัวแทนสายการเดินเรือ) แต่อาจเป็นเพราะพฤหัสบดีเป็นศรีจร-จึงคล้ายๆ กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังพอช่วยคุ้มครองไม่มีใครเป็นอันตราย

                2.ด้านร้าย วันที่ 26 พฤษภาคม 2562 พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ จากไปด้วยอาการอันสงบ คือท่านนอนหลับไม่ตื่น (ราศีพิจิกภพมรณะตาย) แล้วหลังจากนั้นมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นประธานองคมนตรี (ศรีภพมรณะ-ได้มรดก)

                3.ไม่รู้ดีหรือร้าย จู่ๆ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 มูลค่าซื้อขายในตลาดหุ้นพุ่งขึ้นสูงสุดตั้งแต่เปิดตลาดมา คือเกินสองแสนล้านบาทในวันเดียว(พฤหัสบดี-ศรีจร-เดินอยู่ในราศีพิจิกถึงพระพุธ ๔ และศุกร์ ๖ ดวงเดิมตลาดหุ้นจะมีช่วงโดดเด่นเรื่องมูลค่าซื้อขาย เพราะได้เกณฑ์สี่-โหงว-ลัก)

                4.เกณฑ์ฝ่ายร้ายไล่ล่าฝ่ายดีในเมือง ซึ่งไม่ขอฟันธงว่าใครดีใครร้าย แต่ที่เห็นๆ คือฝ่ายพฤหัสบดี-ธรรมะในเมืองศรีจรถอยหลังกรูดๆ-ทบทวนวิธีรับมือการรุกไล่ของอีกฝ่ายอุตลุด ทั้งในโลกโซเชียล รัฐสภา -เสนอแนวคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญ-โจมตีประเทศจากต่างประเทศ-อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้สัญชาติเซอร์เบียโดยรัฐบาลทำอะไรไม่ได้-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โดนหนามทุเรียนทิ่ม (พฤหัสบดี-ตัวแทนผลไม้)-ระเบิดและไฟไหม้กลางกรุงหลายจุด-นายกฯนำคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ฯ ก็เกิดปัญหากล่าวไม่ครบจนถูกไล่ถลุง ฯลฯ

                อนึ่งเกณฑ์สองฝ่ายผลัดกันรุก-รับในเมืองยังจะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ลุ้นระทึกประมาณกลางปี 2563 ขอให้ถือเป็นธรรมดาในเมืองก็แล้วกัน

                5.เศรษฐกิจดูไม่จืดและสงครามการค้า อิทธิฤทธิ์ของพฤหัสบดีจร 5 เดินอยู่ในภพมรณะดวงเมืองเล็งใส่ราศีพฤษภซึ่งเป็นภพที่สอง-ขอบเขตการทำมาหาได้ของประเทศพามรณะ หรือความตาย-สงครามเล็งใส่พระอังคาร ๓ ดวงเดิมของเมืองและดาวประจำชีพเมืองนั้น ไทยไม่เจอสงครามใหญ่ที่รบกันด้วยอาวุธ แต่เจอเข้ากับหางเลขสงครามการค้า ทั้งค่าเงินบาทแข็งมากที่สุดในรอบ 6 ปี (ผู้เขียนซึ่งไม่ได้ส่งออกชอบมาก)-ตัวเลขเศรษฐกิจติดลบ-ส่งออกย่ำแย่-หุ้นผันผวนอุตลุดแบบถอยหลังสอง-เดินหน้าหนึ่ง-ลดดอกเบี้ยมาตรฐานครั้งแรกรอบ 4 ปี-ตามด้วยปัญหาประท้วงฮ่องกง-อินเดียยึดแคว้นจัมมู-แคชเมียร์ ฯลฯ

                ก็ขอสรุปง่ายๆ ว่าทั้งดวงเมือง (ดวงคนด้วย) ถ้าพฤหัสบดีจรเดินเข้าภพมรณะนั้น จึงเป็นหนึ่งปีที่ต้องระวังตัวหนัก ที่ส่วนใหญ่เรื่องร้ายๆ จะก่อตัวขึ้น ส่วนดวงเมืองนั้น การที่พฤหัสบดีกำลังเป็นศรีจรอยู่น่าจะพอปะทะปะทังได้บ้าง แต่เพราะเดินถอยหลังกรูดๆอยู่แถมถูกพระเสาร์ไล่ล่าเอาจึงออกอาการหนัก

                เอาละตอนนี้มาลุ้นกันถึงผลที่พฤหัสบดี-ศรีจรกำลังจะวกกลับเดินหน้าที่ผู้เขียนไว้ก่อนหน้านี้และเพิ่มรายละเอียดให้บ้างคือ

                1.ระยะตั้งแต่ประมาณ 19 สิงหาคมเป็นต้นไป ที่พฤหัสบดี-ศรีจรเริ่มมนท์ (ลอยนิ่ง) ระวังตามโฉลกคือ….พฤหัสบดีมณท์แพ้สมณพราหมณา..คาดจะมี เรื่องใหญ่ เกิดกับ พระ-นักบวช-แพทย์-ครูอาจารย์-ที่ปรึกษา-นักกฎหมายคนสำคัญ-สมาชิกองค์กรอิสระ-นักศึกษา (ความหมายของพฤหัสบดี)เช่น ในอดีตมีพระถูกดำเนินคดี หรือมรณภาพ หรือจากไป เป็นต้น รวมทั้งระวังเรื่องใหญ่เกิดทางน้ำ-จากน้ำ

                2.เมื่อพฤหัสบดีศรีจรเดินหน้าคาดว่าคงจะเพิ่มปริมาณน้ำฝนตกได้มากกว่าเดิม

                3.เรื่องใหญ่ทั้งหลายจะทยอยบังเกิด โดยข้อนี้ผู้เขียนขอลอกซ้ำมาจากแม่หมอสมัครตอนที่ 280มาให้อ่านกันอีกครั้งคือ

                3.1 ผลจะออกด้านดีหรือร้าย เป็นไปได้ทั้งสองทาง ซึ่งไม่ว่าจะออกมาด้านใดก็จะให้อย่างเต็มที่ แต่เป็นเพราะพฤหัสบดี-ศรีจร วกกลับเดินหน้าในภพมรณะผู้เขียนอ่านว่า ส่วนใหญ่จะออกมาด้านดี เช่น

                3.2 อาจได้คณะรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเศรษฐกิจชุดใหม่ (ซึ่งย่อมมาพร้อมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ผลที่เกิดขึ้นแล้ว คือได้ ครม.ศก.ชุดใหม่แล้ว และประชุมนัดแรก 16 สิงหา. 2562-ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3.1 แสนล้าน)

                3.3 ตลาดหุ้นเดินหน้ากระฉูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกหุ้นที่เคยกระด๊อกกระแด๊กทำท่าจะตายมิตายแหล่ โดยให้จับตาปริมาณซื้อขายซึ่งจะมากอย่างน่าจับตา ซึ่งแน่นอนตลาดหุ้นย่อมมีขึ้นมีลง แต่ระยะนี้น่าจะเข้าข่ายเดินหน้าสอง-ถอยหลังหนึ่ง-แนวโน้มเมืองจะได้มรดกหรือของเก่า หรือคนเก่าหรือทรัพย์ในดินสินในน้ำที่ฝังดินหรือจมน้ำอยู่ให้เป็นที่ฮือฮา-หรือตัวเลขส่งออกหรือเศรษฐกิจอาจเริ่มดีขึ้น-ศรีจรของเมืองพอคานหรือต้านสงครามการค้าโลกพอได้-คดีความสำคัญต่างๆ ที่แช่แข็งอยู่จะเริ่มเดินหน้า ซึ่งดูๆแล้วคงจะรวมไปถึงการถือหุ้นสื่อของ ส.ส.และ ส.ว. เป็นต้น

                3.4 ส่วนด้านร้ายอาจจะมีที่เกี่ยวกับภาษีหรือคนประเภทฝนตกขี้หมูไหลโผล่มาในเมืองชุกชุมให้ปวดหัวกันอีก ฯลฯ

                4.เพิ่มเติมจากเดิมคือ ฝ่ายที่เคยถอยกรูดๆ ในเมือง-ถึงเวลาตั้งหลักรุกกลับบ้าง แต่อีกฝ่ายก็ใช่ว่าจะถอยให้ในรอบนี้ จนกว่าจะประมาณ 6 กันยายน 2562ไปแล้ว

                เกณฑ์ทั้งหลายนี้จะเป็นไปถึง 10 ตุลาคม 2562ก่อนที่พฤหัสบดีศรีจรจะเริ่มเข้าไปเดินในนวางค์ขาด(ดินแดนอันตราย) อีกรอบ ซึ่งจะได้เตือนกันต่อไป.