เมื่อชักชวนบอกกล่าวว่า อายุปูนนี้แล้ว ถ้าวิ่งไม่ไหว เดินก็ได้นะ!! ดูเหมือนจะได้ยินคำตอบโต้ออกมาจากปากเพื่อนพ้องญาติมิตรหลายๆ คนทันทีว่า..

       ฉันก็เดินของฉันทุกวัน ..เดินขึ้นบันได ..เดินขึ้นรถเมล์ เป็นต้น

       พูดอีกก็ถูกอีกค่ะ เพียงแต่แตกต่างตรงที่ เดินๆหยุดๆ กับเดินให้ได้ระยะทาง หรือระยะเวลาที่พอเหมาะนั้น คุณค่าประโยชน์นั้นไม่เหมือนกันค่ะ

       มนุษย์ป้าไม่ใช่หมอ ...พูดไปก็สองไพเบี้ย แต่นิ่งเสียก็ให้รู้สึกขัดใจว่า ยังไปไม่สุด หยุดไม่ได้ ในการหว่านล้อมให้เพื่อนๆ และพี่ๆ ลุกขึ้นเดิน หรือว่าออกกำกังกายค่ะ

       ดังนั้นเมื่อไปเจอข้อมูลของโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ก็ต้องรีบมาบอกต่อทันที !!

       ข้อมูลของคุณหมอระบุว่า การเดินมีประโยชน์จริงๆ 1 กม. ประมาณ 3,600 ก้าว

       การเดินให้ประโยชน์สูงสุด ทั้งในด้านการป้องกันโรคและในด้านการรักษา

       เมื่อเดิน 12,000-15,000 ก้าวต่อวัน จะช่วยควบคุมน้ำหนักตัว และช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อ

       เมื่อเดิน 9,900-10,000 ก้าวต่อวัน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ในอัตราความเร็วที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น จัดเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ช่วยให้การทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้น

       ปัจจุบันนี้ยังไม่มียาหรือสารอาหารใดที่จะทำให้หัวใจและปอดมีความแข็งแรง ทนทานได้เท่าการออกกำลังกาย

       เมื่อเดิน 9,900-10,000 ก้าวต่อวัน หรือ 70,000 ก้าวต่อสัปดาห์ จะช่วย 

       1.ควบคุมความดันโลหิตได้ดีขึ้นในผู้ป่วยที่มีโรคความดันโลหิตสูง  

       2.ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 

       3.เพิ่มไขมันดี ( HDL )

       มีหลักวิทยาศาสตร์ยืนยันขนาดนี้แล้ว ลุกขึ้นเดินเถอะค่ะ อย่างน้อยวันละ 30 นาทีก็ยังดี หมายถึงเดินติดต่อกันไม่หยุดนะคะ เพราะถ้าเดิน 30 ก้าวตอนเช้า เอามารวมกับอีก 30 ก้าวตอนเย็นแล้วสรุปว่า เดินแล้วไม่เห็นสุขภาพจะดีขึ้นเลยนั้น ก็ต้องอธิบายว่า เดินได้วันละ 60 ก้าวไม่ติดต่อกัน ก็ยังดีกว่านั่งเฉยๆ หรือเอะอะโบกมือเรียก มตซ.ไปส่ง เพราะขี้เกียจเดินนะคะ  แต่ถ้าอยากให้ได้ผลในด้านสุขภาพอย่างแท้จริง ก็ควรจะเดินติดต่อกันสัก 3 กิโลเมตรเป็นอย่างน้อยนะคะ

       ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลงกว่าเมษาหน้าร้อนแล้ว เดินไปสูดอากาศบริสุทธิ์ไป ถือว่าฟินน่าดูเลยนะคะ หรือจะเดินไปตลาดแทนการนั่งรถเมล์ก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจนะคะ แต่ขากลับไม่ควรเดินหรอกนะ เพราะแบกของหนัก หกล้ม หรือไหล่เคล็ดขึ้นมาจะแย่มากกว่าดีจ้า             

                                                       "ป้าเอง"