อึ้ง!ผ่านิ่วถุงน้ำดี กองโต1,898เม็ด


เพิ่มเพื่อน    


    ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ เผยผ่าตัดคนไข้ป่วยนิ่วถุงน้ำดี พบก้อนนิ่วมหาศาล 1,898 เม็ด มากสุดทุบสถิติที่เคยผ่าตัด แนะผู้ป่วยปวดท้อง ท้องอืดเรื้อรัง อัลตราซาวด์ช่องท้องอาจพบก้อนนิ่วหรือมะเร็งท่อน้ำดี สถิติคนอีสานป่วยมากสุด
    เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมนี้ ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นพ.วัฒนา พารีศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ได้เปิดเผยผลการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีของผู้ป่วยรายหนึ่ง เป็นชาย อายุ 61 ปี ชาว ต.หินโงม อ.เมือง จ.หนองคาย เข้ารับการผ่าตัดในช่วงเช้าวันที่ 19 ส.ค.62 หลังจากมีการท้องอืด เหนื่อยง่าย และอัลตราซาวด์พบก้อนนิ่วจำนวนมากในถุงน้ำดี ปรากฏว่าตนผู้ทำการผ่าตัดและคณะต้องตะลึง เมื่อพบว่ามีก้อนนิ่วมากถึง 1,898 เม็ด 
    นพ.วัฒนาเปิดเผยว่า ปกติแล้วทางโรงพยาบาลได้มีการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีด้วยวิธีการส่องกล้องทุกวัน วันละ 5-10 ราย ในหนึ่งปีจะผ่าตัดคนไข้นิ่วในถุงน้ำดีประมาณ 1,200 ราย ซึ่งนิ่วในถุงน้ำดีมีหลายประเภท ทั้งเม็ดเล็ก ๆ หลายเม็ดกระจัดกระจาย หรือเม็ดใหญ่เม็ดเดียว มีได้ทั้งสีดำ สีน้ำตาล สีเหลือง และสีขาว ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของนิ่ว โดยคนไข้รายล่าสุดที่ตนผ่าตัดพบก้อนนิ่ว 1,898 เม็ด นับตั้งแต่ตนผ่าตัดมาเมื่อประมาณปี 2537 รายนี้เป็นรายที่พบก้อนนิ่วมากที่สุด ขณะที่ในปี 2549 พบ 495 เม็ด ปี 2552 พบ 920 เม็ด
    ส่วนสถิติการผ่าตัดนิ้วในถุงน้ำดีของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ ในปี 2558 ผ่าตัดจำนวน  861 ราย, ปี 2559 จำนวน 837 ราย, ปี 2560 จำนวน 1,133 ราย และในปี 2561 จำนวนกว่า 1,200 ราย ซึ่งจากข้อมูลจะพบว่ามีแนวโน้มมากขึ้นทุกปี
    นพ.วัฒนากล่าวว่า สาเหตุของโรคนิ่วในถุงน้ำดียังไม่ทราบแน่ชัด แต่สันนิษฐานได้ว่าเกิดจากผู้ป่วยมีไขมันสูง แคลเซียมในร่างกายสูง น้ำดีมีการติดเชื้อ หรือท่อน้ำดีมีการอุดตัน เหล่านี้ทำให้เกิดการตกตะกอน โดยยังไม่ได้มีการพิสูจน์ว่าปัจจัยเหล่านี้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงทำให้ยังไม่สามารถป้องกันโรคนี้ได้ และโรคนิ่วในถุงน้ำดีพบมากที่สุดในคนอีสาน ประมาณร้อยละ 10 ของประชากรภาคอีสาน
    "โรคนิ่วในถุงน้ำดี ร้อยละ 30 จะไม่แสดงอาการ แต่จะพบก็ต่อเมื่อมีการตรวจสุขภาพประจำปี มีการอัลตราซาวด์ตรวจช่องท้อง ขณะนี้มีการรณรงค์เรื่องมะเร็งท่อน้ำดี มีการตรวจอัลตราซาวด์ให้กับประชาชนทั่วไป ส่วนอีกร้อยละ 30 จะมีอาการปวด แน่นท้อง ท้องอืดบ่อย เหมือนโรคกระเพาะ โดยเฉพาะเวลาที่รับประทานอาหารที่มีโปรตีนหรือไขมันสูง แน่นท้องผิดปกติ อีกร้อยละ 30 เกิดจากโรคแทรกซ้อน เช่น ถุงน้ำดีอักเสบ นิ่วอุดท่อน้ำดี จะทำให้ผู้ป่วยปวดท้องมาก ทางที่ดีประชาชนควรตรวจสุขภาพประจำปี อัลตราซาวด์ช่องท้อง หรือผู้ที่ปวดท้อง แน่นท้องเรื้อรัง กินยาโรคกระเพาะไม่หาย รักษาไม่หาย ต้องลองอัลตราซาวด์ดู อาจเป็นนิ่วในถุงน้ำดีได้" นพ.วัฒนากล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"