ดาบตำรวจชักปืน 9 มม.กระหน่ำยิงเมียวัย 40 ปีเป็นศพคาบ้านต่อหน้าลูกชายที่นั่งคุยกันอยู่ น้องสาวถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ จากนั้นฆ่าตัวตายตามด้วยการยิงกระหม่อม ยังไม่รู้สาเหตุจากอะไร
    เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา พ.ต.ต.กิตติกร ภูคำสอน สารวัตรเวร สภ.ท่าไม้รวก รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บภายในบ้านเลขที่ 119/1 หมู่ 10 บ้านโค้งตาบาง ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี จึงนำกำลังพร้อมแพทย์เวร รพ.ท่ายาง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานเพชรบุรี รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุบริเวณประตูหน้าบ้าน พบร่างนางอารี ทับเปลี่ยน อายุ 40 ปี สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาว นุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้น นั่งเสียชีวิต มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่แขนซ้าย-ขวา และลำตัว ที่นอกบ้านพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 7 ปลอก หัวกระสุนปืนขนาดเดียวกัน จำนวน 2 หัว บริเวณข้างประตูภายในบ้าน ซึ่งห่างไปประมาณ 2 เมตร พบร่าง ด.ต.อำนาจ รานบัว อายุ 50 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.คลองวาฬ ช่วยราชการเป็นตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณกระหม่อม 1 แผล ข้างศพพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ ตรวจสอบพบกระสุนคาอยู่ในรังเพลิงจำนวน 1 นัด ใกล้เคียงภายในบ้านพบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันตกอยู่ จำนวน 2 ปลอก หัวกระสุนปืน 1 หัว
    นอกจากนี้มีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย คือนางอำนวย บุญเต็ม อายุ 49 ปี น้องสาวของ ด.ต.อำนาจ ถูกยิงเข้าที่บริเวณสะโพกขวา ญาตินำตัวส่งรักษาที่ รพ.ท่ายาง อาการปลอดภัย
    นายอรรถนพ รานบัว อายุ 17 ปี ลูกชายผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนพร้อมกับ ด.ต.อำนาจผู้เป็นพ่อ และนางอารีผู้เป็นแม่ กับน้องชายอีก 1 คน ได้เดินทางมาจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อมาถึงบ้าน พ่อบ่นว่าปวดขา และได้ให้นางอำนวยบีบนวดขาให้ โดยมีตนและแม่นั่งคุยกันอยู่ด้านหน้าประตู จู่ๆ พ่อได้ชักอาวุธปืนออกมากระหน่ำยิงใส่แม่หลายนัดจนแน่นิ่ง โดยนางอำนวยซึ่งนั่งอยู่หว่างกลางถูกลูกหลงบาดเจ็บ และวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากญาติซึ่งอยู่บ้านใกล้เคียง เมื่อตนหันมาทางพ่อก็พบว่าพ่อใช้ปืนจ่อศีรษะตัวเอง ตนพยายามเข้าไปห้าม แต่ไม่ทัน ไม่ทราบว่าเหตุใดพ่อจึงได้ก่อเหตุดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาพ่อไม่ได้บ่นหรือเล่าอะไรให้ตนฟัง และก่อนก่อเหตุพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ทะเลาะมีปากเสียงกันแต่อย่างใด
    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า สาเหตุอาจจะมาจากความเครียดเรื่องส่วนตัว ซึ่งจะต้องสอบปากคำญาติและเพื่อนที่ใกล้ชิดของ ด.ต.อำนาจอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.