ภาพลัคนาสถิตราศีเมษและเรื่องราวต่างๆ ของชีวิต

มฤตยูจร (0) เดินอยู่ในราศีเมษ ระหว่าง 6มีนาคม 2559-8 กรกฎาคม 2565

พระเสาร์จร (7) เดินอยู่ในราศีธนู ระหว่าง 1ธันวาคม 2560-1 มีนาคม 2563

พระราหูจร (8) เดินอยู่ในราศีมิถุน ระหว่าง 22กุมภาพันธ์ 2562-10 กันยายน 2563

พฤหัสบดีจร (5) จะย้ายเข้าไปเดินอยู่ในราศีธนูระหว่าง 30 ตุลาคม 2562-13 พฤศจิกายน 2563

                ผู้ที่ลัคนาสถิตราศีเมษ (ผูกดวงชะตาโดยมีเวลาเกิดแน่นอน) โดย พื้นฐาน แล้วมักเป็น คนกล้าหาญ ชอบริเริ่มอะไรใหม่ๆ กล้าขยัน กระตือรือร้น ด้วยคุณสมบัติเช่นนี้พวกท่านส่วนใหญ่จึงน่าจะรับมือการมาทับลัคนาของมฤตยูจร (0) เจ้าของภัยอาเพศ การปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนชีวิตใหม่ เหตุร้าย เหตุการณ์ไม่ทันนึกคิด การผลัดเปลี่ยนทันทีทันใด โชคที่ไม่แน่นอน และการต้องเนรเทศ ฯลฯ ที่เดินอยู่ในราศีเมษ ทับลัคนาพวกท่านมาตั้งแต่มีนาคม 2559 ได้ 

                แต่มฤตยูจรยังจะอยู่ที่ราศีเมษจนถึงต้นกรกฎาคม 2565 ฉะนั้นภายใต้การปฏิวัติใหญ่ ของชีวิต-ตัวตน-สิ่งแวดล้อม พวกท่านนี้ เค้าโครงชีวิตทั้งก่อน และ ระหว่าง 30 ตุลาคม 2662-1 มีนาคม 2563 คาดว่าทั้ง ทุกข์และสุข-ดีและร้าย (สามารถเกิดซ้อนกันได้ตลอด) จะเป็นอย่างนี้

                1.ย้ำอีกครั้งมฤตยูจร (0) ยังทับลัคนาซึ่งเป็นจุดตั้งรับสำคัญของชีวิตต่อไปอีกนาน (เป็นมาตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2559) ผล ที่เกิดขึ้นแล้ว-หรือ กำลังจะเกิด-และมี โอกาสเกิดอีก คือพวกท่าน มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงตัวเอง หรือสิ่งแวดล้อมกะทันหันแบบไม่คาดคิดมาก่อน ผลคือ มักทำให้ยุ่งยาก หรือ กิจการไม่ก้าวหน้า จนต้องหาทางเปลี่ยนไปเรื่อย แถม ต้องระวังอุบัติเหตุ การเจ็บไข้กะทันหันด้วยโรคแปลกๆ เช่น เส้นประสาท

                เพราะมฤตยูเป็นทั้งตัวแทนเหตุร้าย และเป็นบาปเคราะห์ ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงใดๆ ย่อมกระทบชีวิตและทำให้พวกท่านเดือดเนื้อร้อนใจ อีกทั้งคนเราไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงด้วยแล้วบางคนจึงอาจต่อต้าน แต่เคล็ดรับมือคือ ถ้ารู้สึกอึดอัดคล้ายสะสมพลังบางอย่างอยู่รอวันระเบิด ขอให้พวกท่านกล้าเปลี่ยนแปลง ไม่เช่นนั้นกลายเป็นจะถูกเปลี่ยน หรือหากฝืนได้ก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด

                ยกตัวอย่างเมืองรัตนโกสินทร์ ที่ลัคนาสถิตราศีเมษยังผลัดแผ่นดิน แล้วอะไรต่อมิอะไรในเมืองก็เปลี่ยนไปอย่างเหลือเชื่อ เหมือนที่ผู้เขียนเคยบอกไว้หากเรายืนอยู่ข้างกำแพงเมืองเมื่อกลางปี 2565เราจะถามตัวเองว่าเมืองเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ส่วนพวกท่านก็คงเหมือนกับเมือง เพราะ เมื่อถึงกรกฎาคม 2565 มองย้อนกลับมา ก็จะแปลกใจว่าชีวิตมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

                เพียงครึ่งทางที่มฤตยูจรนี้เดินอยู่ในราศีเมษ ผู้เขียนเก็บตัวอย่างที่เกิดขึ้นแล้วมาเป็นตัวอย่าง เช่น เจ้าชะตาที่เคยใช้ชีวิตชิวๆ หมุนหนี้บัตรเครดิตเกือบล้านเพราะไม่มีห่วงอะไร แต่เมื่อมฤตยูมาทับลัคนาป่วยหนักกลับบ้านเกิดโชคดีที่ญาติเข้มแข็งช่วยเหลือกันให้งานทำเพื่อใช้หนี้

                มีหนึ่งท่านเดินมาดูดวงกับผู้เขียนที่ตลาดบองมาเช่ ถามว่าพี่แช่งผมรึเปล่า? เพราะผมมีปัญหาที่ประสาทมือ

                แต่บางคนตัดสินใจเรียนต่อกะทันหัน หลังจากนั้นเจอช่วงชะตาตกซ้ำเข้ามาทำท่าจะไม่รอด ต้องให้กำลังใจสู้ต่อเพื่อรอเวลาให้ชะตาฟื้น

                หลายท่านคู่ครองจากไป (มฤตยูจรที่ราศีเมษเล็งใส่ราศีตุลดินแดนคู่ครองหรือหุ้นส่วนชีวิต) บอกหมดรักแล้ว มีหนึ่งคนคู่เดินจากชีวิตไปแบบงงๆ พอเริ่มทำใจได้จะมีแฟนใหม่ คู่ครองกลับมาแล้วไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร หรือไม่ อีกหลายคนเปลี่ยนหุ้นส่วนชีวิต เช่น บริษัทที่ทำงานอยู่เปลี่ยนเจ้าของหรือหุ้นส่วน กระทบมาถึงตำแหน่งหน้าที่การงานบรรยากาศการทำงาน ฯลฯ

                กำลังใจที่ผู้เขียนอยากให้พวกท่านคือ ขอให้กล้าตัดสินใจกล้าเปลี่ยนแปลงตัวเอง-สิ่งแวดล้อม ทำอะไรใหม่ๆ เพราะยังมีทางรอด ถึงแม้จะยุ่งยากก่อน แต่มฤตยูนี้ โดย พื้นฐานเป็นตัวแทนโชคลาภและความสำเร็จของราศีเมษ จึงน่าจะหวัง ผลสรุปสุดท้ายดีได้ เป็นส่วนใหญ่

                2.ยังอยู่ในระยะที่ได้อะไรดีๆ จากงาน แต่ระวังจะรักษาไว้ไม่ได้ไปถึง 1 มีนาคม 2563 (เริ่มเป็นมาตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2560-เพราะพระเสาร์จร 7ดาวการงาน-เดินอยู่ในราศีธนูภพศุภะ ผลคือ…หาลาภได้แต่เก็บไว้ไม่ยืนยง) เช่น บางคนได้เงินจากการทำงานมาก็มีค่าใช้จ่าย บางคนถูกย้ายเพราะงานไปไกล บางคนกิจการที่เคยดีกลับทำท่าถดถอย ต้องมองหาตลาดหรือกลยุทธ์ใหม่เพื่อส่งออก หรือทำกิจการเพิ่มในลักษณะต่อยอดหรือเชื่อมโยงกับงานเดิม

                แต่อาจมีบางช่วงที่บางท่านเกิดเรื่องราวกับญาติคู่ครอง หรือเกิดเรื่องเสียหายจากการฟ้องร้อง (พระเสาร์จรในราศีธนูซึ่งเป็นขอบเขตของญาติของคู่ครอง-คดีความ)

                3.ช่วงพระราหูจร (8) ให้คุณกับชะตาแทรกเข้ามาตั้งแต่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 (ยาวไปถึง 10กันยายน 2563-พระราหูจร 8 เดินอยู่ในราศีมิถุนให้คุณกับดวงชะตา) ตามโฉลกบอกระยะนี้จะมีผู้หลักผู้ใหญ่ช่วยเหลือทั้งด้านการเงินและตำแหน่ง…พระภูบาลให้สถานยศเงินทอง..ซึ่งน่าจะเป็นรายได้พิเศษชนิดไม่คาดฝันมาก่อน

                อีกมุมหนึ่งพระราหูจรมุมนี้จะทำให้ผู้ที่ลัคนาสถิตราศีเมษ ที่เป็นคนกล้าหาญอยู่แล้วยิ่งกล้าขึ้นไปใหญ่ ฉะนั้นจึงต้องระวังอาการ มุทะลุดุดัน กล้าเสี่ยง-ซิ่งที่อาจเกิดอันตราย และต้องระวังเรื่องความสัมพันธ์กับพี่น้อง หรือญาติที่ท่านอาจจะทำตัวเหมือนผู้มีอิทธิพลไปกดดัน หรือข่มขู่พวกเขาได้

                4.พวกท่านส่วนใหญ่อยู่ในช่วงชะตาตกรอบสุดท้ายระหว่าง 25 พฤษภาคม-30 ตุลาคม 2562 ต่อจากที่เป็นมาตั้งแต่ต้นตุลาคม 2561 (พฤหัสบดีจร 5 เดินอยู่ในราศีพิจิกภพมรณะ ซึ่งเป็นมุมอับคุ้มครองดวงชะตาได้น้อย ถือว่าเข้าข่ายชะตาตกหนักและแตกประเภทหนึ่ง) ผลคือบางท่านได้ความผิดจนแทบจะถอดใจตามโฉลก..ได้ความผิดจนน้ำจิตชัยปรา..คือทำอะไรก็ดูเหมือนจะผิดไปหมดจนร้อนอกร้อนใจ

                บางท่านผู้อุปถัมภ์ค้ำชูจากไป บางท่านป่วยอยู่ก็หนักขึ้น บางท่านเรียนต่อระดับสูงก็เดือดเนื้อร้อนใจไม่ก้าวหน้า หรือทำท่าจะร่อแร่จนแทบถอดใจ

                ส่วนท่านที่โชคดีเพราะเกณฑ์นี้ อาจได้มรดกหรือของเก่า หรือปันผล หรือบำเหน็จบำนาญ หรือ ประกันภัยประกันชีวิต แบบไม่คาดฝัน ซึ่งคาดว่าจะก้อนโตตามระดับวาสนา (พฤหัสบดีจรเดินอยู่ในราศีพิจิกได้มาตรฐานมหาจักร)

                5 ระยะที่ชะตาพวกท่านส่วนใหญ่ที่ถือว่าตกมากมาตั้งแต่ตุลาคม 2561 เริ่มฟื้นตั้งแต่ 30ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป (พฤหัสบดีจร 5 หัวหน้าเทวดาประจำตัวเดินออกจากมุมอับในราศีพิจิกเข้าราศีธนู ภพที่เก้า-ศุภะ)

                5.1 บารมีของพฤหัสบดีจรเริ่มคุ้มครองถึงลัคนาซึ่งเป็นจุดตั้งรับที่สำคัญของดวงชะตา จนแม้ดาวอื่นๆจะรุมทำร้าย ระรานดวงชะตาอยู่ หากพฤหัสบดีคุ้มครองดวงเดียวก็อาจรอดได้ตามโฉลก..ผิว์สรรพเคราะห์มาดหมาย ให้โทษแก่ลัคนาหลาย พฤหัสบดีให้คุณก็อาจคุ้มภัย..

                แต่หากดาวอื่นให้โทษน้อยในระยะนี้ โทษนั้นก็อาจบรรเทาหรือเหือดหายไปเลย

                5.2 พวกท่านมีโอกาสได้สถานะที่พึงพอใจและโชคลาภตามโฉลก..ได้ฐานาลุลาภาอยู่นองเนือง…เช่น ได้ตำแหน่งประเภทที่ปรึกษาหรือ เป็นตัวแทนหน่วยงาน หรือได้ทุนหรือการสนับสนุน หรือประสบความสำเร็จดังที่ปรารถนา เข้าข่ายโชคดี  จิตใจลดความกังวลหม่นหมองลง ได้ทำบุญเข้าวัดเข้าวาหรือแสวงบุญ และ มีแนวโน้มได้ลูก หรือมี ความรักจากแดนไกล

                5.3 หากท่านใดอยู่ในระยะด้านร้าย (พฤหัสบดีเป็นกาลกิณีจร) มีโอกาสเจอคดีความ หรือผู้ใหญ่หาเรื่อง

                สรุปคือ แม้พวกท่านจะอยู่ในช่วงปฏิวัติชีวิตใหญ่ แถมเรื่องงานอาจไม่สมใจนัก แต่ตั้งแต่ 30 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป เป็นระยะที่ฟ้าเปิดให้ดวงชะตาพวกท่านส่วนใหญ่เข้มแข็งขึ้นหลังจากปิดมานาน แถมด้วยมีความกล้าหญที่จะฟันฝ่า-ปฏิวัติชีวิตไปให้ถึง 1มีนาคม 2563 ที่เกณฑ์เรื่องงานของพวกท่านจะเปลี่ยนไป (เมื่อพระเสาร์จรย้ายราศี)

                ซึ่งใกล้ๆ วันที่ 1 มีนาคม 2563 จะได้ทำนายเน้นเรื่องงานของพวกท่านต่อไป.