สั่งพณ.แก้ข้าวเหนียวแพง คนส่วนน้อยกดเงินซื้อเหล้า


เพิ่มเพื่อน    

 นายกฯ สั่งพาณิชย์เร่งแก้ข้าวเหนียวแพง เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ "จุรินทร์" เช็กสต๊อกข้าวทั่วประเทศ ลุยตรวจสอบกักตุน-โก่งราคา ขู่พบผิดเล่นงานหนักคุก 7 ปี ค้าภายในนัดถกโรงสี-ผู้ค้า-ห้างทำข้าวเหนียวถุงราคาถูกขาย ปชช. คลังแจงแค่คนจนส่วนน้อยกดเงินซื้อเหล้าบุหรี่ "พิชัย" ท้า "บิ๊กตู่" ออกทีวีโชว์กึ๋นเศรษฐกิจ

    เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงราคาข้าวเหนียวที่สูงขึ้นว่า ได้คุยกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์แล้ว  วันนี้ราคาข้าวเหนียวอาจจะขึ้นด้วยหลายอย่าง ปริมาณข้าวเหนียวในสต๊อกต่างๆ ต้องไปดูสต็อกเก่าว่าอย่างไร เพราะเกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการ เช่นผู้ประกอบการที่มีรายได้น้อยซึ่งนำข้าวเหนียวมาทำเพื่อการอุปโภคบริโภค เมื่อแพงขึ้นจะทำอย่างไร ทราบว่ากระทรวงพาณิชย์ได้ไปกวดขันแล้ว จะต้องรายงานสต๊อกในบรรดาโรงสี ในคลังข้าวสารต่างๆ เพราะบางทีเรามองว่าน่าจะราคาสูงขึ้นในระยะยาว พอมีมาตรการเข้าไปดูแลเรื่องข้าวจะกลายเป็นว่าผลประโยชน์ไปตกอยู่ที่ใครสักคน ดังนั้น รัฐบาลต้องดูแลอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดความชัดเจนขึ้น 
    ทั้งนี้นายจุรินทร์ได้รับเรื่องไปแล้ว เราต้องแก้ปัญหานี้ให้ได้โดยเร็ว ทราบว่าจะมีทั้งเรื่องตรวจสต๊อก และไปดูว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้อย่างไร โดยเฉพาะผู้ประกอบการขายอาหารการกิน ทุกอย่างจะมีการหารือกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุกครั้ง ไม่ต้องไปกังวล
    "เรื่องที่สำคัญที่สุดคือเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจ และความเข้าใจ จะทำอย่างไรให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา รัฐบาลก็มีอำนาจ มีกฎระเบียบกติกา แต่มันต้องมีใครเดือดร้อน จึงต้องหามาตรการที่สมดุล ที่ทำได้และไม่มีผลกระทบในเรื่องของงบประมาณแผ่นดิน เพราะมีพระราชบัญญัติหลายตัว" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
    ด้านนายจุรินทร์เปิดเผยว่า ได้หารือกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์และฝ่ายกฎหมายของกรมการค้าภายใน ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อแก้ปัญหาราคาข้าวเหนียวแพงในขณะนี้ โดยสิ่งที่จะดำเนินการคือ การใช้ประกาศตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว ฉบับที่ 150 ที่มีอยู่แล้ว ซึ่งอธิบดีกรมการค้าภายในจะดำเนินการออกหนังสือสั่งการให้ผู้ที่อยู่ในวงการค้าข้าวทั้งหมด ทั้งโรงสี ผู้ค้าส่ง และผู้ส่งออกรายงานสต๊อกข้าวเหนียวมาที่กรมการค้าภายใน ภายในวันที่ 27 ส.ค.นี้ สิ้นสุดเวลา  16.30 น. โดยแจ้งได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และสามารถรายงานทางออนไลน์ได้ด้วย
    หลังจากนั้นกรมการค้าภายในจะดำเนินการต่อไป เพื่อตรวจสอบว่ามีการกักตุนข้าวเหนียวเพื่อปั่นราคาหรือไม่ และมีการจำหน่ายข้าวเหนียวราคาสูงเกินสมควรหรือไม่ โดยกรณีความผิดหากไม่รายงานสต๊อก หรือรายงานไม่ตรงกับความเป็นจริง จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีการกักตุนหรือขายราคาสูงเกินสมควร มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะเดียวกันได้มอบให้นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ สั่งการพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศดำเนินการตรวจสอบแล้ว
    ส่วนการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้บริโภคข้าวเหนียว ขณะนี้ได้หารือกับอธิบดีกรมการค้าภายในแล้ว โดยจะรีบหารือกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อหาลู่ทางว่าจะทำข้าวเหนียวบรรจุถุงออกจำหน่ายในราคาพิเศษได้หรือไม่
      นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า วันที่ 28 ส.ค.นี้จะเชิญโรงสี ผู้ค้าข้าวถุง และห้างสรรพสินค้ามาหารือ เพื่อพิจารณาการจัดทำข้าวเหนียวบรรจุถุงจำหน่ายประชาชนในราคาถูกกว่าตลาด ซึ่งเบื้องต้นมีเป้าหมายจะจัดทำขนาด 1, 3 และ 5 กิโลกรัม (กก.) แต่ต้องพิจารณาก่อนว่าขนาดไหนต้นทุนการผลิตถูกสุดถึงจะผลิตออกมาจำหน่าย โดยหากได้ข้อสรุปชัดเจนว่าจะใช้ข้าวจากที่ไหนมาผลิต ใครเป็นผู้บรรจุ และช่องทางการจำหน่ายทางไหนบ้าง เช่นผ่านร้านธงฟ้าหรือห้างค้าปลีก คาดว่าภายในต้นเดือน ก.ย.จะมีวางจำหน่าย โดยราคาน่าจะต่ำกว่า กก.ละ 50 บาท ทั้งนี้แนวโน้มราคาข้าวเหนียวจะยังทรงตัวในระดับสูงอีกระยะหนึ่ง ก่อนที่ผลผลิตข้าวเหนียวปีการผลิต 2562/63 จะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือน ต.ค.62 เป็นต้นไป
    วันเดียวกัน นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประเด็นข่าวว่ามาตรการช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม ส่งผลให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถอนเงินสดจากเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) นำไปซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น สุรา เบียร์ บุหรี่ ซึ่งกระทรวงการคลังขอชี้แจงว่า มาตรการช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพของผู้มีบัตรสวัสดิการในช่วงภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว ดังนั้นการถอนเงินสดจากเครื่อง ATM เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เพิ่มความอิสระให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการใช้จ่ายได้ตามความจำเป็น อันจะช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพและส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจ 
    "กระทรวงการคลังขอเรียนเพิ่มเติมว่า ตามที่สื่อนำเสนอข่าวข้างต้นเชื่อว่าเป็นเพียงคนกลุ่มน้อยที่มีพฤติกรรมดังกล่าว และกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างตรวจสอบ" นายลวรณกล่าวและว่า การกำหนดเกณฑ์การลงทะเบียนผู้มีสิทธิ์ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ จะนำข้อมูลพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบันมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา กำหนดแนวทางการให้สวัสดิการที่เหมาะสมต่อไป
    ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวตอบโต้กรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทยระบุว่าคนฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจว่า มาจากหลายสาเหตุจึงไม่ควรโยงกับการเมือง ซึ่งรัฐบาลจะช่วยเหลือประชาชนเต็มที่ จะไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ชาวนาผูกคอตายเพราะทุจริตจำนำข้าว  ส่วนที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ระบุว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ พล.อ.ประยุทธ์เป็นวิธีการเดิมที่ล้มเหลวมา 5 ปี ไหลเงินผ่านมือคนจนไปสู่นายทุนนั้น รัฐบาลมั่นใจว่าจะสามารถช่วยเหลือชาวบ้านได้ ทำให้เศรษฐกิจหมุนหลายรอบ สามารถประคองเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบได้ เม็ดเงินไหลตรงถึงชาวบ้าน ไม่ได้เอื้อกลุ่มทุนเหมือนที่กล่าวหา จะไม่ทำเหมือนรัฐบาลในอดีตที่คุณหญิงรู้จักดี ที่มักทำอะไรเอื้อนายทุนและพวกพ้องจนเกิดปัญหาการทุจริตมาแล้ว
    ขณะที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์มั่นใจว่ารู้เรื่องเศรษฐกิจดี ตนจะขอสัมภาษณ์ออกอากาศช่องไหนก็ได้ และจะส่งคำถามให้ก่อนด้วยเพื่อเตรียมตัว นอกจากนี้การที่ พล.อ.ประยุทธ์แสดงความรู้และเข้าใจดีว่าในระยะยาวประเทศต้องมีการลงทุนเพื่อพัฒนา ดังนั้นจึงอยากถามว่า 5 ปีที่ผ่านมาทำไมการลงทุนไทยถึงได้หดหาย เศรษฐกิจไทยถึงได้ย่ำแย่ ขยายได้เพียง 2.3% เท่านั้น ที่น่ากังวลยิ่งไปอีกก็คือการที่นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง กล้าโม้ว่าจากมาตรการรัฐบาลจะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายได้ถึง 3.5% ซึ่งขอยืนยันว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ 
    "นายอุตตมมั่นใจว่าสามารถทำได้อย่างที่พูด ควรจะรับผิดชอบด้วยตำแหน่ง ซึ่งหากยอมเดิมพันด้วยตำแหน่งประเทศไทยได้เปลี่ยน รมว.การคลังปลายปีนี้แน่นอน หรือแค่ประกาศไตรมาส 3 ก็คงจะรู้แล้วว่าไม่มีทาง ซึ่งหากนายอุตตมสามารถทำได้จริง ผมจะไม่วิจารณ์นายอุตตมอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจหรือคดีแบงก์กรุงไทย" นายพิชัยระบุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"