"นายกฯ" เมินกระแสจี้ปลด "อดุลย์" พ้นเก้าอี้ ขอรอผลสอบโกงเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ก่อน "รมว.พม." เผยพบเจ้าหน้าที่ 24 หน่วยใน 14 จังหวัดเอี่ยวทุจริต ลั่นสิ้นเดือนชี้ชัดฟันใครบ้าง "บิ๊กฉัตร" ฉุน "น้องแบม" โดนอาจารย์ทำร้าย สั่ง จนท.ไปคุ้มครอง "รมช.ศธ."  คาด 1-2 วันรู้ผลสอบหัวหน้าภาควิชาทุบหลังจริงหรือไม่  ย้ำเด็กทำดีมหาวิทยาลัยต้องส่งเสริม "ป.ป.ท." ลุยสอบเบิกจ่ายเงินศูนย์คนไร้ที่พึ่งขอนแก่น
    เมื่อวันอังคาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีการทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งว่า ขณะนี้กำลังสอบสวนอยู่ ถ้ามีหลักฐานก็ดำเนินการอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ตนไม่อยากให้มีการพูดให้เกิดความเสียหาย หรือไปคาดการณ์อะไรล่วงหน้าว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมต้องไปคาดการณ์แบบนั้น 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เข้าใจดีหลายคนอาจจะมองด้วยความไม่ไว้วางใจกับการดำเนินการที่ผ่านมา แต่อยากถามรัฐบาลนี้ทำอะไรให้เกิดขึ้นตั้งมากมาย หลายเรื่องไม่เคยเกิดขึ้น ไม่เคยมีการสอบสวน แต่ถ้ามาเปรียบเทียบกันไปมาแบบนี้ก็สับสนอลหม่านไปหมด จะสอบสวนก็ลำบาก ทำไม่ได้ ผลออกมาประชาชนไม่พอใจก็ไม่ได้อีก 
    "ผมอยากให้เข้าใจ กฎหมายก็คือกฎหมาย มันอยู่ที่การตีความ ก็ต้องฟังเขาด้วย เพราะถึงอย่างไรเขาก็ต้องไปต่อสู้กันในกระบวนการศาลอีก มีทนายมาแก้ต่างกันไปกันมา และท้ายที่สุดศาลตัดสินออกมาก็เป็นไปตามวัตถุพยานกับพยานบุคคล มันบิดเบือนเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้หรอก ก็ขอว่าอย่าไปพูดให้เสียหายเลย" นายกฯกล่าว
       ถามว่า มีการเรียกร้องให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในขณะนั้น พิจารณาตัวเองด้วยการลาออก นายกฯ กล่าวว่า ก็ฟังไป มันยังไม่ใช่เวลาในตอนนี้ ก็รอให้มีการสอบสวนก่อน แล้วใครรับผิดชอบตรงไหนก็ว่ากันมา
    "ผมบอกแล้วทั้งหมดถ้าคิดกันแบบนี้นายกฯ ก็ต้องรับทุกเรื่อง จนกระทั่งถึงเสมียนข้างล่าง นายกฯ ต้องรับผิดชอบหมด จริงอยู่ในสายการบังคับบัญชา ในฐานะที่ผมเป็นผู้บังคับบัญชา ต้องรับผิดชอบ แต่ความรับผิดชอบทางกฎหมายมันก็มีระดับของมันลงไป ดังนั้นต้องไปดูด้วย และนโยบายของผมชัดเจนจะต้องไม่มีการทุจริต และนโยบายบางเรื่องก็มีการสืบต่อเนื่องกันมานานแล้ว แต่การทำความผิดอาจจะตรวจสอบไม่พบหรือสมยอมอะไรกันมา ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง กรุณาใช้สิ่งเหล่านี้เป็นหลักคิดให้ด้วย" นายกฯ กล่าว
    ถามถึงการที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)  เข้มงวดการจัดซื้อจัดจ้างในท้องถิ่น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เขาเข้มงวดก็ดีแล้ว ดีกว่าไม่เข้มงวด พอไม่เข้มงวดก็บอกว่าปล่อยปละละเลย แต่พอเขาเข้มงวดก็บอกว่าจะทำให้เกิดปัญหา ถามกลับไปกลับมาแบบนี้ไม่มีประโยชน์
24 หน่วย 14 จว.เอี่ยวโกง
    พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(รมว.พม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ว่า ขณะนี้ทีมตรวจสอบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตรวจสอบทั่วประเทศ และมีรายงานเข้ามาทุกวัน จึงสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ที่ถูกร้องเรียนทุกวัน เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการฯ เข้าไปตรวจสอบ 
    "เท่าที่ ป.ป.ท.รายงานเข้ามา พบตัวเลขยังอยู่ที่ 14 จังหวัด แต่พบเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก กระจายอยู่ใน 24 หน่วยงาน โดยสิ้นเดือน มี.ค.นี้ จะครบกำหนดการตรวจสอบรอบแรก และจะชัดเจนว่าใครจะถูกลงโทษบ้าง" รมว.พม.กล่าว
    ขณะที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า จากข้อมูลการลงพื้นที่ของทั้งกระทรวง พม. และของ ป.ป.ท. โดยของ ป.ป.ท.พบทุจริตเพิ่มอีก 10 แห่ง และที่สงสัยอีก 22 จุดที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ ล่าสุดปรับย้ายออกจากพื้นที่แล้ว 4-5 คน เป็นระดับผู้อำนวยการ (ผอ.) โดยข้อมูลผลสอบทั้ง 2 หน่วยงานจะนำมาเปรียบเทียบกัน 
    ถามถึงกรณีนักศึกษาที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้อ้างโดนทุบหลัง กราบเท้าคนผิด แล้วยังถูกอาจารย์หาว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะ พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า จะไปบังคับเด็กแบบนี้ได้อย่างไร เพราะเด็กทำถูกต้องแล้ว เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากกว่า 
    "ผมจะสั่งให้ไปดูแลคุ้มครองเด็ก ถ้ามีโอกาสจะเชิญเด็กมาพบที่กระทรวง พม. รวมทั้งจะตรวจสอบให้ เรื่องนี้ผมไม่ปล่อยไว้หรอก ซึ่งเรื่องนี้ต้องแยกกัน หากอาจารย์ลงโทษเด็ก กระทรวงศึกษาธิการหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลต้องเข้าไปดูว่าเด็กทำความดีแล้ว ทำให้รู้ว่ามีเรื่องนี้ แต่ทำไมไปทำร้ายเด็ก ต้องตั้งคณะกรรมการสอบ" พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
    ด้าน นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวว่า เรื่องที่ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมุนษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ( มมส.) ซึ่งออกมาเปิดเผยการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น แต่กลับถูกหัวหน้าภาควิชาที่มหาวิทยาลัยทำร้ายร่างกายด้วยการทุบหลัง จะต้องรอฟังผลการสอบสวนข้อเท็จจริงเสียก่อนว่ามีการทำร้ายจริงหรือไม่ 
    นพ.อุดมกล่าวว่า ได้สั่งให้เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปตรวจสอบแล้ว ตอนนี้อย่าเพิ่งฟังความข้างเดียว แต่ส่วนตัวยืนยันสิ่งที่นักศึกษาทำเป็นสิ่งดีงาม เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ทางมหาวิทยาลัยควรจะต้องส่งเสริม ไม่ควรที่จะทำให้เกิดการปิดกั้นหรือสร้างความเสียหายกับนักศึกษา เพราะควรต้องปกป้องด้วยซ้ำ ดังนั้นเรื่องนี้ขอเวลา 1-2 วัน ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง
สอบอาจารย์ทุบน้องแบม
    "เรื่องนี้ต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอยู่แล้ว ต้องไปถามผู้บริหารและอาจารย์ดังกล่าวว่าทำไมจึงไปตำหนิเด็ก แต่ส่วนตัวผมเห็นว่าเด็กได้ทำสิ่งที่ดีงาม และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เราควรมีหน้าที่ชื่นชมและให้กำลังใจแก่เด็ก” นพ.อุดมกล่าว
    ซักว่าจะต้องตรวจสอบอาจารย์ภายในมหาวิทยาลัยดังกล่าวด้วยหรือไม่ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับทุจริต รมช.ศธ.กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน เพราะเรื่องการทุจริตดังกล่าวอยู่ในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แล้วที่ผ่านมามหาวิทยาลัยได้ส่งนักศึกษาฝึกงานไปหลายแห่ง เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นความบังเอิญมากกว่า จึงคิดว่าไม่น่าจะมีความเชื่อมโยงกัน เพราะเป็นคนละกระทรวง แต่จะเกี่ยวข้องหรือไม่ ให้กระทรวง พม.และ ป.ป.ท.ไปตรวจสอบ
    ถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะส่งเสริมหรือมีส่วนผลักดันให้เด็กต่อยอดในการทำความดีในครั้งนี้ นพ.อุดม กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทางมหาวิทยาลัยต้องส่งเสริมอยู่แล้ว เพื่อให้มีกิจกรรมไปทำความดี 
    "ขอยืนยันอีกครั้ง ทั้งกระทรวงศึกษาธิการและมหาวิทยาลัย ควรต้องส่งเสริมเด็กที่จะทำความดี เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและเป็นตัวอย่างที่ดี" รมช.ศธ.กล่าว
    วันเดียวกัน ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวังหินลาด อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น นายทองสุข ณ พล นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามกระทำความผิดในหน่วยงานภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เขต 4 นำพนักงานสอบสวน ป.ป.ท. และคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงพื้นที่สอบปากคำบุคคลตามรายชื่อที่ปรากฏในบัญชีเบิก-จ่าย ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น ตามปีงบประมาณประจำปี 2560 
    ทั้งนี้ พื้นที่ ต.วังหินลาด มีรายชื่อเบิกจ่ายในงบประมาณประจำปีรวม 84 คน วงเงินรวมกว่า 160,000 บาท โดยมีบุคคลที่ปรากฏตามรายชื่อเข้าร่วมให้ปากคำกับ ป.ป.ท.ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนหรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังหรือสังเกตการณ์ในขั้นตอนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ป.ป.ท.ในห้องประชุมแต่อย่างใด
    นางลำดวน โทเวียง อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 ม.5 ต.วังหินลาด อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ประธาน อสม. ม.5 บ้านโป่งแจ้ง บอกว่า งง เมื่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.แจ้งชื่อว่าได้รับเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ของกระทรวง พม. ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งชื่อและยืนยันเอกสารตัวบุคคลก็ตกใจอย่างมาก ที่ผ่านมาไม่รู้เลยว่ามีศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ขอนแก่น และทำไมต้องทำกันแบบนี้ และที่สำคัญไม่เคยได้รับเงินจากศูนย์ฯ นี้แม้แต่บาทเดียว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่สอบปากคำบุคคลตามรายชื่อที่ปรากฏในเอกสารเบิก-จ่ายเงินของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น เฉพาะการเบิก-จ่ายในงบประมาณประจำปี 2560 ของ ต.วังหินลาด อ.ชุมแพ แห่งนี้ รวม 84 คน งบประมาณรวมกว่า 160,000 บาท โดยมีการนำรายชื่อมาทำการเบิก-จ่ายในเอกสารของเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ ที่จะได้รับรายละ 2,000 บาท และผู้ป่วยโรคเอดส์รายละ 3,000 บาท แต่จากการสอบปากคำบุคคลตามรายชื่อที่มาแสดงตัวกับพนักงานสอบสวนครั้งนี้ ทั้งหมดยืนยันว่าไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งสัปดาห์นี้คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ จะทำการสอบปากคำในพื้นที่ อ.ชุมแพ ให้แล้วเสร็จในภาพรวมทั้งหมด.