'มาชิน'เพ้อหนัก!หากคนไทยไม่ร่วมกันหยุดระบอบเผด็จการฟาสซิสต์ ศพแล้วศพเล่าต้องเซ่นสังเวย


เพิ่มเพื่อน    

27 ส.ค.62-  นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หากคนไทยไม่ร่วมกันหยุดระบอบเผด็จการฟาสซิสต์ ศพแล้วศพเล่าต้องเซ่นสังเวย ใครจะเป็นรายต่อไปแม้ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านจะพยายามต่อสู้ในสภา กับรัฐบาลเผด็จการ ในเสื้อคลุมประชาธิปไตยชุดนี้อย่างเต็มกำลัง แต่ด้วยระบอบเผด็จการ ที่ขณะนี้สามารถรวมร่างเป็นอสูรสมบูรณ์โตเต็มวัยแล้ว มีทั้งกลุ่มนายทุน กลุ่มขุนศึก กลุ่มศักดินา กลุ่มอำมาตย์ มีทั้งปืน มีทั้งเงิน มีอำนาจรัฐ มีทั้งข้าราชการระดับสูง มีทั้งองค์กรอิสระ มีทั้งกระบวนการยุติธรรม และมีทั้งพรรคการเมืองบางพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีมวลชนจำนวนไม่น้อย เป็นฐานสนับสนุน เป็นแนวร่วมรับใช้ระบอบเผด็จการอย่างเครือข่าย มีแผนยุทธศาสตร์ แบ่งภารกิจแบ่งหน้าที่กันทำ อย่างสอดรับประสาน จัดสรรอำนาจรัฐ และผลประโยชน์อย่างลงตัว 

พวกเขามีกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช ปี 60 มีแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีเป็นโรดแมป รองรับ พวกเขาตีกรอบให้ พรรคร่วมฝ่ายค้าน และคนไทยทั้งหมด เดิน ตามแนวทางที่ฝ่ายเผด็จการกำหนด พวกเขายังมี สว. แต่งตั้ง 250 คนทายาทอสูรเป็นฐานรองรับการสืบทอดอำนาจ ปกป้องคุ้มครองระบอบเผด็จการ ให้ดำรงอยู่ มีเงินภาษีประชาชนใช้จ่ายปีละ กว่า 3 ล้านล้าน มีอำนาจสั่งการให้ทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน และพนักงานรัฐวิสาหกิจรวมเกือบ 3 ล้านคน รับใช้ตามคำสั่ง 

ทำให้โครงสร้างอำนาจในการปกครองของระบอบเผด็จการและเครือข่าย แข็งแกร่งไร้เทียมทาน จอมเผด็จการ และบรรดาแกนนำเผด็จการทหารและเครือข่าย ที่แฝงอยู่ตัวอยู่ใน ค.ร.ม. อยู่ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ อยู่ในรัฐสภา อยู่ในระบบราชการ ในรัฐวิสาหกิจ และในพรรคการเมืองบางพรรคฝ่ายรัฐบาล จอมเผด็จการ และลิ่วล้อบริวารของเผด็จการจึงไม่ยี่หระ ไม่แคร์ ไม่สะทกสะท้านต่อฝ่ายค้านแม้แต่น้อย ถึงจะมีเสียงปริ่มน้ำ บรรดาลิ่วล้อบริวาร เครือข่ายของเผด็จการ ทุกองคาพยพ จึงโอบล้อม 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรให้อยู่ในวงล้อม ในกรอบ ให้อยู่ในอำนาจ ในเกมส์การต่อสู้ที่ฝ่ายเผด็จการเป็นผู้กำหนดทั้งกฎ กติกาดังนี้

1. จอมเผด็จการและแกนนำพวกเขาฉลาดพอที่จะเล่นกระแส เพื่อบริหารอารมณ์ของสังคมให้อยู่ในทิศทางที่ฝ่ายเผด็จการต้องการ เพื่อเป็นช่องทางระบายอารมณ์ของสังคม จึงส่งสส. สว. รัฐมนตรี. บางคนที่เป็นสายล่อฟ้า มาสร้างวาทะกรรม ต่างๆ เช่น รักชาติ ชังชาติ ชักศึกเข้าบ้าน ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ไทยเป็นเอกราช แก้ไขปากท้องก่อน รัฐธรรมนูญเอาไว้ทีหลัง และแสดงพฤติกรรม กิริยา วาจาที่น่าหมั่นไส้ ให้สื่อ และคนทั่วไปสนใจ ตอบโต้ เอามัน เอาสะใจ แต่ไม่มีเนื้อหาสาระ ไร้แก่นสาร หมดเวลาไปกับการต่อปากต่อคำ เปล่าประโยชน์เพื่อให้เกิดกระแสดึงอารมณ์ของสังคมให้เบี่ยงเบน คล้อยตามไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เรื่อง เสื้อ ผ้า หน้า ผม การแสดงพฤติกรรมกร่าง การโยนประเด็นต่างๆให้สังคมให้สื่อ สนใจอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่เป้าหมายหลัก แผนยุทธศาสตร์ของฝ่ายเผด็จการ ในการปกครอง กดขี่ ข่มเหง ยึดครอง สืบทอดอำนาจรัฐ อำนาจเงิน และผลประโยชน์ ยังคงดำรงมั่น เข้มแข็ง ไม่เปลี่ยนแปลง โครงสร้างประเทศไทยจึงอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการฟาสซิสต์อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือ เหล่านายทุน ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ เครือข่าย ลิ่วล้อบริวารของเผด็จการทั้งหมด คนเสียประโยชน์ และยากยิ่งที่จะได้กลับคืนมา ทั้งสิทธิ เสรีภาพความเสมอภาคและประชาธิปไตย คือประเทศชาติ ประชาชน และฝ่ายประชาธิปไตย

2. ฝ่ายเผด็จการจะใช้เงิน ผลประโยชน์อำนาจรัฐ และยืดเวลาให้นานที่สุดเพื่อให้ประชาชน ให้พรรคการเมือง และนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย หมดแรงอ่อนล้า เบื่อหน่าย หมดพลังที่จะลุกขึ้นสู้ แล้วใช้การดำเนินคดีทั้งตัวบุคคล และวิธีการยุบพรรค ทำลายพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยทิ้งไปเรื่อยๆ ในนามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเช่น สร้างเรื่องเอาผิดกับนายกทักษิณ นายกยิ่งลักษณ์ นายกสมัคร นายกสมชาย ยุบพรรคไทยรักไทย ยุบพรรคพลังประชาชน ยุบพรรคไทยรักษาชาติ และมีแผนที่จะยุบพรรคแกนนำฝ่ายประชาธิปไตยไม่ว่าจะเป็นเพื่อไทย หรือ อนาคตใหม่ อยู่ที่ว่า พวกเขาจะหยิบขึ้นมาใช้เมื่อใด เป้าหมายคือจะต้องไม่มีผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยและพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยมาต่อกรท้าทายอำนาจระบอบเผด็จการอีกต่อไป 

3. สำหรับประชาชน ฝ่ายเผด็จการจะใช้ทฤษฎี แบ่งแยก แล้ว ปกครอง โดยการปลุกปั่นให้ประชาชนเกลียดชังกัน แบ่งเป็นพวกสี เหลือง พวกสีแดง พวกรักชาติ พวกชังชาติ ฝ่ายรักสถาบัน พวกล้มเจ้าไม่รักสถาบัน พวกสลิ่ม เป็นต้น เพราะเผด็จการจะอยู่ได้ ด้วยความขัดแย้ง แตกแยกของประชาชน หากประชาชนรู้ทัน สามัคคีกัน เผด็จการจะไม่มีที่ยืน

ในขณะที่ชนชั้นสูง คนรวย ส่วนใหญ่จะโน้มไปทางอนุรักษ์นิยม ชนชั้นกลาง ที่มีความรู้ มีฐานะก็สนใจทำมาหากินมากกว่าสนใจการเมือง และจากการใช้สงครามจิตวิทยาจากชนชั้นปกครองล้างสมอง สร้างทัศนคติปลูกฝังมาเกือบร้อยปีว่าประชาธิปไตยไม่ดีการเมืองเลวร้าย มีแต่คนไม่ดี ทำให้แบ่งชนชั้นกลางออกเป็นหลายส่วนทั้งเสรีนิยมประชาธิปไตย ทั้งฝ่ายอนุรักษ์นิยม ทั้งอยู่เฉยๆ แบบไทยเฉย คนชั้นกลางที่มีความรู้มีฐานะทางเศรษฐกิจ จึงยังไม่มีพลังทางการเมืองเรียกร้องประชาธิปไตย เช่นพวกปัญญาชน ครูบาอาจารย์ สถาบันการศึกษาต่างๆ ค่อนข้างเงียบ เพราะอยากเป็นคนดี

คนไทยส่วนใหญ่ในชนบท รักและศรัทธาประชาธิปไตย หากแต่ถูกฝ่ายเผด็จการใช้สงครามจิตวิทยา ล้างสมอง ทำลาย ทำให้ยากจน ทำให้มีภาระหนี้สินล้นพ้น ทำให้ขาดโอกาส เมื่อความลำบาก ความยากจน ภาระหนี้สิน บีบบังคับในการดำรงชีวิต ฝ่ายเผด็จการก็ถือโอกาสใช้ความยากจน ความอัตคัดขัดสน มาหาเสียง หาคะแนนนิยม โดยการแจกเงิน แจกบัตรคนจน เพิ่มเงินให้ผู้สูงอายุ เพิ่มเงินเดือนให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อใช้ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และ อสม มาเป็นฐานคะแนนสนับสนุนฝ่ายเผด็จการ สนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการ คนที่ได้รับเงิน ก็ดีใจ นิยมชมชอบชื่นชมผู้นำฝ่ายเผด็จการ และถูกหลอกลวงข่มขู่ว่าถ้าไม่เลือกพวกเขาจะไม่ได้บัตรคนจน ไม่ได้ค่าชดเชยไร่นา ด้วยความหวาดกลัวว่า ถ้าไม่เลือกพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล พวกตนอาจจะไม่ได้รับเงินแจก โปรยทานจากบัตรคนจนอีก จึงจำเป็นต้องเลือกเพื่อให้ตนเองได้รับเงินและผลประโยชน์เฉพาะหน้าต่อไป แม้จะทราบดีว่าในอนาคต หายนะจะเกิดขึ้นกับตัวเองกับลูกหลาน และกับประเทศชาติ แต่ขอเพียงเอาชีวิตรอด ไม่สนใจว่าจะเป็นประชาธิปไตย หรือ เผด็จการ

4. ที่ลงลึกมากขึ้น รัฐบาลเผด็จการฟาสซิสต์ในเสื้อคลุมประชาธิปไตยชุดนี้ ฉลาด และกล้าใช้อำนาจรัฐอย่างเต็มรูปแบบ ค่อยๆแทรกซึมกล่อมเกลา โน้มน้าว ชี้นำ ผ่านกระทรวง ทบวง กรม และเครือข่ายต่างๆ โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย ผ่าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ผู้นำองค์กรฝ่ายเผด็จการไปถึงหมู่บ้าน ชุมชน โรงเรียน สถานศึกษาว่าเผด็จการไม่ได้เลวร้าย เผด็จการดีกว่าประชาธิปไตย ประชาธิปไตยวุ่นวาย มีแต่คนโกง มีแต่ซื้อสิทธิ ขายเสียง และเป็นพวกชังชาติ คนที่รับข้อมูลด้านเดียว ก็ถูกชี้นำและสยบยอมเป็นฝ่ายเผด็จการ สนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการ และยินดีต้อนรับผู้นำฝ่ายเผด็จการอย่างไม่รู้สึกรังเกียจว่าพวกเขาปล้น ฆ่า แย่งชิงอำนาจของประชาชน ปล้นทรัพยากรแผ่นดิน เอาเปรียบ กดขี่ ข่มเหง อาณาราษฏรเพื่อให้ประชาชนสยบอยู่ภายใต้อำนาจของเผด็จการให้พวกเขามีอำนาจ ร่ำรวย มีอำนาจปกครองตลอดไป โดยไม่สนใจ ว่าจะมี ชาวไร่ชาวนา ชาวสวน กรรมกรผู้ใช้แรงงาน ผู้ประกอบการ จะฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจศพแล้วศพเล่า เพราะยิ่งจนคนยิ่งหมดแรงต่อต้านเผด็จการ และสยบยอมเป็นพวกเพื่อความอยู่รอด

5. ประเด็นหลักๆของประเทศเช่น

5.1 แก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับเผด็จการ คสช ปี60 พวกเขาจะไม่ยอมให้แก้ เพราะมันคือหัวใจของระบอบเผด็จการ หากจะแก้ก็เพียงแค่เปลือกกระพี้แต่โครงสร้างหลักยังเหมือนเดิมเพื่อดำรงอยู่ของระบอบเผด็จการที่เข้มแข็ง

5.2 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี รวมทั้งกฎ กติกา คำสั่ง อันเป็นเครื่องมือรักษาสถานะ ของระบอบเผด็จการจะยังคงอยู่และยิ่งกระชับให้แน่นหนามากขึ้นผ่าน คณะกรรมการยุทธศาตร์ชาติ ผ่าน กอรมน ผ่านกองทัพ

5.3 พระพุทธศาสนา นอกจากจะไม่ได้รับการปกป้อง คุ้มครอง ส่งเสริมจากรัฐบาลนี้แล้วแล้ว จะยิ่งถูกทำลาย ย่อยสลาย หนักหน่วงรุนแรงมากขึ้น และมีการสนับสนุนส่งเสริมลัทธิศาสนาอื่นเข้ามาแทนที่ ตามยุทธศาสตร์ที่เขาร่วมกับต่างประเทศบางประเทศกำหนดแผนการไว้เพื่อยึดครองประเทศไทย

5.4 การเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ว่าจะเกิดขึ้นช้า หรือเร็ว พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่เป็นฝ่ายเผด็จการจะมีชัยชนะมาขึ้น ด้วยพลังเงิน พลังอำนาจรัฐ และความอ่อนล้าของฝ่ายประชาธิปไตย และความอ่อนล้า เบื่อหน่ายของประชาชน หลายคนจะลืมว่าพรรคการเมืองใดทรยศ ตระบัดสัตย์อย่างไรบ้าง

5.5 ฝ่ายเผด็จการจะรุกคืบเข้าไปจัดสรรปันส่วนแสวงหาผลประโยชน์จาก องค์กรปกครองท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อใช้เป็นฐานปิรามิด สถาปนาระบอบเผด็จการให้ปกครองครอบงำประเทศไทยและประชาชนตลอดไปอีกเฮือกแห่งลมหายใจสุดท้าย ก่อนที่จะถูกระบอบเผด็จการครอบงำกลืนกินจนยากที่จะเรียกเอาสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ภราดรภาพ และประชาธิปไตยกลับคืนมา จึงฝากความหวังไว้ที่ประชาชน วีรชนคนกล้าที่เหลืออยู่ในแผ่นดินนี้ โปรดช่วยกันลุกยืนขึ้น รวมตัวรวมพลังกันต่อสู้ กับระบอบเผด็จการด้วยความเสียสละเพื่อประชาชน เพื่อประชาธิปไตย เพื่อลูกหลานของเราด้วย หากไม่สามารถหยุดระบอบเผด็จการอำนาจนิยมนี้ได้ และหากไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยได้ ไทยคงไม่พ้นวิกฤติแน่ ศพแล้วศพเล่าที่ต้องเซ่นสังเวยต่อรัฐบาลเผด็จการนี้ ใครจะเป็นรายต่อไป.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"