
กรมอุตุฯ เตือน 56 จังหวัดรับมือพายุระดับ 3 "โพดุล" ฝนถล่มขยายวงกว้างเกือบทั่วประเทศ "อีสาน" โดนก่อนเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน อ่างเก็บน้ำหนองคายเต็มปรี่เกิน 100% ต้องเร่งระบายลงแม่น้ำโขงรองรับน้ำฝนชุดใหญ่ กระบี่โกลาหลเกิดลมกระโชกพัดเสาไฟฟ้าล้มระเนนระนาด 10 ต้น รถยนต์เสียหาย 1 คัน คนขับรอดหวุดหวิด
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่อง "พายุระดับ 3 (โซนร้อน) “โพดุล” (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 1 กันยายน 2562)" ฉบับที่ 5 ระบุว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ส.ค. พายุระดับ 3 (โซนร้อน) “โพดุล” บริเวณทะเลจีนใต้ มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 300 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 110.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนใน
ในวันที่ 30 ส.ค. หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศลาวในระยะต่อไป ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรงบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน หลังจากนั้นภาคเหนือและภาคอื่นๆ จะมีผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยที่ลาดเชิงเขาและใกล้ทางน้ำไหล
คาดว่าพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ มีดังนี้ ในช่วงวันที่ 30-31 สิงหาคม 2562 บริเวณที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ภาคเหนือ : จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี ชัยนาท และนครสวรรค์ ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
วันที่ 1 กันยายน 2562 บริเวณที่มีฝนตกหนัก ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย และกำแพงเพชร ภาคกลาง: จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี และชัยนาท ภาคตะวันออก : จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี ระนอง พังงา และภูเก็ต
อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่พายุระดับ 3 (โซนร้อน) “โพดุล” ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนงดออกจากฝั่ง
ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆ ที่จังหวัดหนองคายยังคงเร่งระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำขนาดกลางหลัก 3 แห่งที่มีปริมาตรน้ำภายในอ่างเกินความจุ ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำห้วยหินแก้ว อ.โพธิ์ตาก ที่มีปริมาตรน้ำภายในอ่าง 4.047 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือคิดเป็น 101%, อ่างเก็บน้ำห้วยทอนตอนบน ที่มีปริมาตรน้ำภายในอ่าง 8.493 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 108% และอ่างเก็บน้ำห้วยบังพวน อ.ท่าบ่อ ที่มีปริมาตรน้ำภายในอ่าง 9.606 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 111% ขณะนี้อ่างเก็บน้ำหลักขนาดกลาง 4 แห่ง มีปริมาตรน้ำรวม 23.184 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 100%
นอกจากนี้ยังได้เร่งระบายน้ำจากลำห้วยสาขาที่มีประตูระบายน้ำ ทั้งลำห้วยหลวงและลำห้วยโมง โดยเฉพาะลำห้วยโมง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง อ.ท่าบ่อ ได้มีการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 4 บาน เร่งระบายน้ำจากลำห้วยลงในแม่น้ำโขง ซึ่งวันที่ 29 ส.ค. มีน้ำอยู่ในระบบมากถึง 14.688 ล้าน ลบ.ม. สามารถระบายน้ำลงในแม่น้ำโขงได้วันละ 7.636 ล้าน ลบ.ม. ระดับน้ำในลำห้วยโมงสูงกว่าระดับน้ำในแม่น้ำโขง 1.5 เมตร ซึ่งการเร่งระบายน้ำในอ่างเก็บน้ำและในลำห้วยสาขาครั้งนี้ เพื่อเป็นการพร่องน้ำได้รองรับฝนที่จะตกลงมาใหม่จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “โพดุล” ในขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมือฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลันตลอด 24 ชั่วโมง
ที่ จ.กระบี่ พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.คลองท่อม นายวุฒิชัย ธรรมศิริ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบที่ถนนเพชรเกษม บ้านเหนือ ม.1 ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุฝนตกหนักและลมกระโชกแรง เป็นเหตุให้เสาไฟฟ้าล้มกว่า 10 ต้น และยังเอนอีกหลายต้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ ได้ปิดเส้นทางการจราจรเพื่อเคลียร์พื้นที่ ทำให้การจราจรติดขัดสะสมกว่า 1 ชั่วโมง ทั้งขาเข้าและขาออก ซึ่งเหตุดังกล่าวยังทำให้เสาไฟฟ้าล้มทับรถกระบะของประชาชนที่สัญจรไปมาเสียหาย 1 คัน โดยการไฟฟ้าส่วนภูมมิภาคจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |