ใบสั่งออนไลน์เริ่ม20ก.ย.ต่อไปไม่ยึดใบขับขี่


เพิ่มเพื่อน    


    ตำรวจจับมือแบงก์กรุงไทยพัฒนาใบสั่งออนไลน์ ตั้งแต่ 20 ก.ย.62 ทำผิดกฎจราจรไม่ถูกยึดใบขับขี่ แต่ต้องแสดงให้ดู พวกหัวหมอไม่จ่ายต่อทะเบียนไม่ได้ หลัง สตช.เชื่อมข้อมูลกรมการขนส่งทางบก 1 ต.ค.นี้
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 29 สิงหาคมนี้ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานพิจารณาการออกระเบียบ ข้อกำหนด หลักเกณฑ์ ข้อตกลงและวิธีการเกี่ยวกับการชำระค่าปรับโดยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นๆ โดยผ่านธนาคาร หรือหน่วยบริการชำระเงิน พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการศึกษา รองหัวหน้าคณะทำงานฯ และนายธวัชชัย ชีวานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงไทย ร่วมแถลงข่าวความร่วมมือพัฒนาระบบใบสั่งจราจรออนไลน์ครบวงจร 
    พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำบันทึกความร่วมมือกับ บมจ.ธนาคารกรุงไทย โดยร่วมกับธนาคารกรุงไทยพัฒนาระบบบริหารจัดการใบสั่งจราจร (Police Ticket Management) หรือ PTM ซึ่งเป็นระบบจัดเก็บข้อมูลใบสั่ง ระบบการชำระเงิน ขยายช่องทางการชำระเงินและรับชำระค่าปรับ โดยสามารถชำระที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
    สำหรับการลงนามความร่วมมือร่วมพัฒนาระบบ PTM ในเฟสที่ 2 ซึ่งมีระยะเวลา 5 ปี จะพัฒนาระบบให้มีความสอดคล้องกับ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ.2562 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 22 พ.ค.62 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ก.ย.62 โดยธนาคารกรุงไทยเป็นผู้พัฒนาระบบให้ ซึ่งหลังจากวันที่ 20 ก.ย.62 ประชาชนจะไม่ถูกเรียกเก็บใบขับขี่อีกแล้ว แต่ยังคงต้องพกพาหรือแสดงใบอนุญาตขับขี่ตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด และในวันที่ 1 ต.ค.62 จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับกรมการขนส่งทางบกผ่านระบบ PTM นี้
    พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า ระบบ PTM ในเฟสที่ 2 นี้ จะเป็นหัวใจสำคัญในการวางระบบฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในการบังคับใช้กฎหมายจราจรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งหมด ได้แก่ การพัฒนาระบบการออกใบสั่งแบบกล้องและแบบเล่ม การควบคุมใบสั่ง การบันทึกคะแนนความประพฤติ การขยายฐานและช่องทางการชำระเงินค่าปรับโดยตัวแทนรับชำระเงินต่างๆ ตามระเบียบกฎเกณฑ์ที่กำหนด และได้จัดทำเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันสำหรับประชาชน เพื่อตรวจสอบข้อมูลใบสั่งของตนเอง รวมถึงการบันทึกคะแนน หรือข้อกฎหมายต่างๆ ที่จะเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อรองรับ พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับล่าสุด
    ด้านนายธวัชชัย ชีวานนท์ เปิดเผยว่า ธนาคารได้ให้บริการรับชำระค่าปรับจราจรใบสั่งทุกประเภทจากทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศตั้งแต่ปี 2559 และได้ต่อยอดพัฒนาระบบ PTM หรือระบบจัดการใบสั่งออนไลน์ให้ครบวงจร โดยนำเทคโนโลยีมาเชื่อมโยงข้อมูลใบสั่งของสถานีตำรวจต่างๆ กับกรมการขนส่งทางบก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการบันทึกค่าปรับจราจรประเภทต่างๆ และช่วยอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยสามารถดูรายงานค่าปรับจราจรประเภทต่างๆ ย้อนหลัง 90 วัน มีระบบออกใบเตือนอัตโนมัติในกรณีใบสั่งยังไม่มีการชำระค่าปรับ เรียกดูข้อมูลที่จำเป็นต่อการออกใบสั่งต่างๆ ตลอดจนสามารถบันทึกแต้มผู้กระทำความผิดตามกฎหมายจราจร 
    สำหรับประชาชนที่ได้รับใบสั่งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากสามารถชำระค่าใบสั่งที่สาขาของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ เครื่องเอทีเอ็ม แอปพลิเคชันกรุงไทย NEXT แล้ว ยังสามารถชำระผ่านตัวแทนรับชำระของธนาคาร ได้แก่ CenPay ตู้บุญเติม และไปรษณีย์ไทย และเตรียมขยายช่องทางการชำระค่าใบสั่งผ่านเว็บไซต์ใบสั่งจราจรออนไลน์สำหรับประชาชน (e-Ticket) ด้วยบัตรเดบิตและบัตรเครดิต รวมทั้งชำระใบสั่งต่างสถานีจากเดิมที่ชำระค่าปรับกับสถานีตำรวจที่ออกใบสั่งเท่านั้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"