จำได้ไหม? ‘เป๊ก บลูสกาย’ศิลปินที่ทำเพื่อสังคมและชีวิตสุดสมถะ


เพิ่มเพื่อน    

 

          หากจะเอ่ยถึง “วงบลูสกาย” หรือ “เป๊ก บลูสกาย” เชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่คงจะไม่คุ้นหู แต่เมื่อย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2539 วัยรุ่นยุคนั้นต้องเคยได้ยินหรือร้องเพลง “คิดถึง” เพลงแนวอัลเทอร์​เนทีฟ สัญชาติ​ไทยที่โด่งดังจนฝ่าวงล้อมขึ้นสู่อันดับ 1 ของชาร์ตเพลงทั้งใน กทม. และต่างจังหวัดเมื่อกาลเวลาผ่านไป 20 ปีให้หลัง ศิลปินท่านนี้ได้กลับมาพร้อมซิงเกิ้ลใหม่ และการร่วมเป็นหนึ่งใน “กรีนคอนเสิร์ต หมายเลข 22 เดอะ ลอส ร็อค ซองค์” ล่าสุดเมื่อเจอตัวเจ้าของเพลง คิดถึง ก็คงต้องคุยกันให้หาย “คิดถึง”

           “จริงๆเป๊กบลูสกายยังเล่นดนตรีอยู่ตลอดใช้คำว่าเลิกเล่นดนตรีแล้วก็จริงแต่ถ้าเป็นงานเกี่ยวกับสังคมทางวงเราจะไปเล่นให้ตลอด แต่ผมไม่รับงานตามร้านเหล้าอะไรแบบนี้ เราจะรับงานช่วยสังคม แบบช่วยสัตว์ป่า ผมยังคงไปให้ตลอด  คือจริงๆแล้ววงดั้งเดิมเนี่ยวงเราแตกตั้งแต่ออกอัลบั้มแรก เพราะอุดมการณ์และเป้าหมายมันไม่ใช่ ไม่ตรงกัน แต่ผมก็เล่นดนตรีมาเรื่อยๆ ละหยุดเล่นไปประมาณ 8-10ปี แต่หยุดเล่นในที่นี้คือถ้าเป็นงานสังคมผมก็ไป ถือกีต้าร์ไป

 

 

          ต้องบอกว่าวงบลูสกายดั้งเดิมที่ออกอัลบั้มจริงๆไม่ใช่เพื่อนๆผมนะ คือวงบลูสกายที่ผมทำมาถูกบริษัทแยกออกจากกัน เหลือแค่ผมกับมือกลอง เข้าใจว่าเป็นธุรกิจ แต่ผมก็ต้านมันอยู่ตลอด หลังจากนั้น การออกอัลบั้มก็มีอัลบั้มที่เล่นในงานศิลปะ คือบลูสกายไม่ได้เล่นแบบวงดนตรีทั่วๆไป อย่างคอนเสิร์ตล่าสุด (กรีนคอนเสิร์ต หมายเลข 22 เดอะ ลอส ร็อค ซองค์) ที่จะถึงนี้ รายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ลาดตระเวนเพื่อผู้พิทักษ์ป่าด้วย เราถึงได้มา คือเขาทำเพื่อผู้พิทักษ์ป่า เราเลยเต็มใจที่จะเข้ามา แล้วได้เจอเพื่อนๆด้วย อย่างคุณโป้ โยคี เพลย์บอย ผมเคยเจอเขาในงานต้านทางเลียบเจ้าพระยา อย่างงานศิลปะที่ผู้ป่วยในงานเขามาวาดภาพ ผมก็ไปช่วย จริงๆบลูสกายไม่ได้รับงานเล่นคอนเสิร์ต ส่วนมากจะเจอเราได้ในงาน Art Gallery

          ต่อให้มีคนมาติดต่อจ้างเราก็ไม่ได้รับ แต่ถ้าเป็นงานเพื่อสังคมเรายินดีไปให้ คือไม่ต้องพูดเรื่องเม็ดเงินเลยเราไม่ได้มองตรงนั้น เราไม่ได้สนใจเรื่องเงินเลย เรามีเป้าหมายของเราคือทำแล้วได้อะไรกับสังคม ได้อะไรกับเด็กๆเยาวชน อย่างผมไปทำงานอนุรักษ์วิถีชีวิตชาวสวน จริงๆคนไม่ค่อยรู้ว่ากรุงเทพฯมันคือดินแดนของสวนนะ แต่วิถีคนทำสวนมันเสียเพราะถูกเมืองกลืน แล้วก็ตามมาด้วยปัญหาน้ำท่วมและรถติด คือปัญหาที่ทุกคนบ่นกันทุกคนลืมไปว่ารากเหง้าของปัญหามันมาจากสิ่งนี้ เราไม่จัดสมดุลเมือง บลูสกายไปเล่นดนตรีเพื่อให้คนรู้สมดุลเมือง ผมเล่นดนตรีในศาลาท่าน้ำ คนดูพายเรือมาดูผมเล่น มันไม่ใช่เวทีทั่วๆไป ส่วนใหญ่ก็จะเป็นงานลักษณะแบบนี้ หรือถ้าเป็นอีเวนท์ก็จะต้องมีการทำประโยชน์เพื่อสังคมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องมีคนดูเป็นหมื่นเป็นแสน คนสองคนผมก็เล่นหมด ตัวผมเองเล่นเปิดหมวกด้วย ซึ่งเงินที่ได้จากการเปิดหมวกจะนำไปช่วยคนเร่ร่อน

 

 

          คนมองว่าเรื่องรายได้ล่ะ คือผมบอกเลยว่า “ผมเป็นคนมีตังค์” คำว่ามีคือ ถ้าผมมีเงินเดือนละ 3,000บาท ผมก็สามารถใช้ชีวิตในกรุงเทพฯได้สบายมาก ผมเป็นคนที่ใช้ปรัชญาของในหลวงรัชกาลที่9 คือผมเดินตามนะ ผมเลี้ยงปลาเลี้ยงไก่เอง ผมปลูกข้าวเอง ผมเลี้ยงกบเอง ผมทำเกษตรได้ ผมมีที่ดินที่มีผู้มีพระคุณท่านนึงยกให้เพราะเห็นว่าเราชอบทางนี้ ชีวิตผมไม่ต้องใช้เงินมาก การกินร้านแพงๆไม่ใช่เรื่องผิด แต่การประมาณตนของเราจะเป็นตัวบอกเองว่าถูกหรือผิด ความเจริญสำคัญนะ ผมไม่ได้แอนตี้เรื่องนี้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าความเจริญคือความสมดุลอย่าง กทม. เป็นแอ่งกระทะ น้ำท่วมหนักเพราะมันไม่สมดุล เพราะฐานรากตึกมันไปขวางทางระบายน้ำ ความเจริญเราไม่ปฏิเสธแต่มันต้องมาพร้อมคุณภาพชีวิตคนเมืองด้วย

          ที่ผมปลูกข้าวนั้นอยู่ที่นครสวรรค์ครับ คือจริงๆผมเป็นคนกรุงเทพฯแต่ไปได้ที่ที่ชุมแสง ตอนนี้ก็ไปๆมาๆระหว่างบ้านที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด และคำว่าพอสำหรับผมคือผมไม่ได้อยากมีบ้านหลังใหญ่ ผมไม่ได้อยากแต่งตัวดี ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่กินเหล้าหรือสูบบุหรี่ และผมค่อนข้าง “รวยมาก” เพราะเงินเหลือ เพราะเราไม่ได้ใช้เงินเยอะ ผมว่ายน้ำ ออกกำลังกาย ผมไม่เคยเข้าโรงพยาบาล เพราะเราใช้สิ่งรอบตัวจากธรรมชาติ และดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรง

 

 

          ความรวยของผม คือผมรวยอารมณ์ปกติ ผมไม่ได้รวยอารมณ์ความสุขนะ เพราะถ้าเรารวยอารมณ์ความสุข วันนึงมันจะกระทบความเครียด เรารวยอารมณ์ที่มันรักษาสมดุล พี่ทานมื้อเช้าแค่มื้อเดียว พี่ทานเหมือนพระป่า พี่ทานอาหารที่เน้นผัก เนื้อสัตว์ทานบ้างในวันที่จัดสมดุล มื้อเย็นไม่ทาน ออกกำลังกายว่ายน้ำ วิ่งเป็นสิบกิโลเมตร นอนวันละ 8 ชั่วโมง อันนี้เราฝึกมาตลอดเพื่อให้ร่างกายมีวินัยจริงๆแล้วมันเป็นการแก้ที่ต้นเหตุ มนุษย์มักจะชอบแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ มานั่งบ่น เสียใจ ทำไมอันนั้นเป็นแบบนี้แบบนั้น วงจรการเจ็บไข้ได้ป่วยมันไม่มีใครหนีพ้นก็จริง แต่พี่จะบรรเทามันให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าวันนั้นจะแดดเปรี้ยงหรือฝนตก พี่เป๊กก็จะใส่รองเท้าผ้าใบแล้ววิ่งออกไป เพราะว่ามันคือวันที่เราต้องออกกำลังกาย วินัยที่เราต้องรักษา

          การทิ้งขยะก็เหมือนกัน วงเราไปลงเรือช่วยเก็บขยะตามแม่น้ำลำคลองมาตั้งนานแล้ว แต่จริงๆผมจะบอกว่าแค่เราไม่ทิ้งขยะ ไม่จิตสำนึก มันเป็นการลดขยะได้ไวกว่าการไปเก็บขยะอีก ผมไม่ได้ว่าคนเก็บขยะไม่ดีนะ แต่ถ้าเราเริ่มที่ตัวเรามันดีกว่า ถ้าคนที่ตามเราในเฟซบุ๊กจะรู้ว่าเราเป็บแบบนี้จริงๆ

 

 

          ส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิต ก็เป็นสิ่งที่เราถ่ายทอดผ่านดนตรีเวลาเราไปเล่นโชว์ แม้ว่าจะเราบอกไป 10 แต่คนฟังอาจจะได้แค่ 1 หรือ 2 เราก็พอใจแล้ว แค่มันมีประโยชน์กับคนๆหนึ่งก็ถือว่าดีแล้ว จริงๆเราก็เสียดายที่วงเราไม่ประสบความสำเร็จ หมายถึงทางธุรกิจนะ คือถ้าเราดังกว่านี้เราก็จะได้ส่งต่อแนวคิดและประโยชน์ให้คนได้มากกว่านี้ และล่าสุดเรามีซิงเกิ้ลใหม่ชื่อ “วันที่ความเหงามีตัวตน” ภายใต้สังกัด Summer Disc Music Label เป็นการรวมตัวของคนในวงตั้งแต่แรก เป็นเพื่อนๆตั้งแต่มัธยม แล้วรับเล่นในงานเพื่อสังคม

          และเป้าหมายของวง เรายังทำเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ด้วย คือเหมือนเราเรียนเกี่ยวกับพม่า ว่าเขาเผากรุงศรีอยุธยา ไปเห็นซากปรักหักพังอาจจะอาลัยอาวร คนไทยไม่น้อยที่อาจจะไม่รู้ว่าซากทั้งหลายนั่นไม่ใช่พม่าทำทั้งหมด มันคือคนไทยนี่แหละเป็นคนทำ แล้วคนไทยนี่แหละที่รื้ออิฐจากที่นั่นมาทำฐานภูเขาทอง จริงๆการรักประเทศชาติ ต้องรักแบบไม่คลั่งชาติ รักแบบที่ถูกที่ควร ผิดคือผิดถูกคือถูก เราไม่ได้ต้องการเพื่อนที่ชมเราตลอดเวลา แต่เราต้องการเพื่อนที่พร้อมจะตักเตือนเราเมื่อเราทำผิด เราจะสื่อสารกับแฟนๆด้วย คือในเฟซบุ๊กเราอาจจะมีสักเดือนนึงที่เราชวนแฟนๆไปดูสถานที่ทางประวัติศาสตร์ แฟนๆบลูกสกายไม่ใช่เด็กวัยรุ่น ฉะนั้นเราต้องการให้เขานำสิ่งเหล่านี้ไปสอนลูกหลานเพื่อปลูกฝังส่งต่อ นี่คือความสุขที่สุดของเรา การยืนหยัดเล่นดนตรีในวันนี้ก็คือการที่เราจะเผยแพร่ความคิด ทัศนคติ มุมมองของเรามุมมองของบลูสกาย”

 

ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ Pex BlueSky

 

กดลิ้งค์เพื่อฟังเพลง >> เพลง คิดถึง วงบลูสกาย

กดลิ้งค์เพื่อฟังเพลง >> เพลง คิดถึง วงบลูสกาย

กดลิ้งค์เพื่อฟังเพลง >> เพลง คิดถึง วงบลูสกาย

กดลิ้งค์เพื่อฟังเพลง >> เพลง คิดถึง วงบลูสกาย

กดลิ้งค์เพื่อฟังเพลง >> เพลง คิดถึง วงบลูสกาย

 

 

 

 

 

 

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"