โจรสุดทราม ซ้ำเติมชาวบ้านเหยื่อน้ำท่วม บุกงัดบ้าน 4 หลังรวดในเขตอำเภอบ้านไผ่ ได้เงินสดรวมกว่า 1 แสนบาท ทองรูปพรรณอีกจำนวนหนึ่ง เหยื่อครวญเพิ่งขายมันได้ 5 หมื่น รอน้ำลดจะเอาไปฝากแบงก์ แต่ไม่ทันการณ์ อีกรายจะเอาไปซื้อของมาขายก็สูญเช่นกัน
    เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 กันยายนนี้ ร.ต.อ.นัฐพงษ์ สอนสิทธิ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านไผ่ ได้รับแจ้งจากศุนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์บ้านเรือนของประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับ พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ที่บ้านเลขที่ 133 บ้านภูเหล็ก หมู่ 2 ต.ภูเหล็ก อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแกน น.ส.พรเพชร ชมภู อายุ 33 ปี เจ้าของบ้าน ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตกใจ โดยกล่าวว่า เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ครอบครัวนำมันสำปะหลังไปจำหน่ายได้เงินสดมาจำนวนกว่า 50,000 บาท จึงเก็บใส่กระเป๋าไว้ที่บ้านเพื่อเตรียมนำไปฝากธนาคาร แต่วันนี้ตื่นขึ้นมาพบว่าเงินที่เก็บไว้ได้หายไป จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
    น.ส.พรเพชรกล่าวว่า มีความตั้งใจที่จะนำเงินจากการขายมันไปฝากธนาคารหลายวันแล้ว แต่เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันจนถนนออกจากหมู่บ้านถูกน้ำท่วมตัดขาด ชาวบ้านไม่สามารถเดินทางไปไหนได้ จึงต้องเก็บเงินไว้ที่บ้าน เพื่อรอให้ระดับน้ำลดจึงจะรีบนำเงินไปฝากธนาคารในเขตตัวเมืองบ้านไผ่ แต่สุดท้ายถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุขโมยเงินไปทั้งหมดกว่า  50,000 บาท นอกจากนี้ยังเอาแหวนทองคำหนัก 2 สลึงที่เก็บไว้ไปด้วย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างตำรวจตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและสอบปากคำผู้เสียหาย ก็ได้มีชาวบ้านอีก 3 ราย เดินลุยน้ำมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ในบ้านเช่นกัน ประกอบด้วย น.ส.วรี ค่าเจริญ อายุ 32 ปี ถูกคนร้ายขโมยเงินสดไปประมาณ 36,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่เตรียมจะไปซื้อของมาขายในหมู่บ้าน อีกรายคือนายบุญมี ลามพัด อายุ 62 ปี ถูกคนร้ายขโมยเงินไป 8,000 บาท สร้อยคอทองคำน้ำหนักสองสลึง และนายวิชิต ชนะชัย ถูกคนร้ายพยายามงัดบ้าน แต่ไม่ได้ทรัพย์สิน
    ร.ต.อ.นัฐพงษ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว ทั้งนี้ ในรายละเอียดยังคงไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ เพราะจะกระทบกับสำนวนการสอบสวน ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.