กระบะชนพนักงาน รพ.ภูมิพลฯ ยอมใช้ใช้ค่าเสียหายให้คนเจ็บแล้ว เผยผู้ก่อเหตุเป็นผู้หญิงอ้างไม่รู้ว่าเฉี่ยวชนจักรยานยนต์ กระทั่งมีผู้โพสต์ภาพลงสื่อออนไลน์ ตำรวจตั้งข้อหาหนักชนแล้วหนี ด้านคู่กรณีนามสกุล "ชัยจินดา" อาการหนัก หน้าแตก เลือดออกในสมอง ซี่โครงหักทิ่มม้าม
    เมื่อวันที่ 4 กันยายนนี้ ที่ สน.วิภาวดี นางทิพย์สุคนธ์ แก้วบุญเป็ง อายุ 50 ปี อาชีพรับจ้างเลี้ยงเด็ก เป็นผู้ก่อเหตุขับรถกระบะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ล้ม ทำให้ น.ส.วรัชยา ชัยจินดา อายุ 44 ปี ผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วนางทิพย์สุคนธ์หลบหนี ก่อนที่จะติดต่อกับผู้เสียหายและนัดเจรจาค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลกับ น.ส.วรัชยา โดยมี พ.ต.ท.ผดุงเกียรติ พันศิลป รอง ผกก.สอบสวน สน.วิภาวดี เป็นคนกลาง
    เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 14 สิงหาคม 62 บนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า ก่อนถึงสำนักงานเขตจตุจักร ซึ่งต่อมามีการแชร์คลิปเหตุการณ์โพสต์ลงในสื่อออนไลน์
    น.ส.วรัชยาเปิดเผยว่า ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการโรงพยาบาลภูมิพลฯ ในวันเกิดเหตุได้ขี่จักรยานยนต์ออกจากบ้านพักย่านสายไหม เพื่อจะไปส่งอาหารให้ผู้ป่วยย่านเกียกกาย โดยใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าห้าแยกลาดพร้าว เมื่อมาถึงใกล้สำนักงานเขตจตุจักร มีรถกระบะมาเฉี่ยวชน จากนั้นก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น มารู้สึกตัวอีกวันที่ รพ.เปาโลฯ ก่อนถูกส่งไปรักษาต่อที่ รพ.ภูมิพลฯ โดยมีบาดแผลที่ใต้ตาและยังปิดไม่สนิท มีอาการเวียนหัว ซี่โครงหักไปทิ่มม้าม และมีเลือดออกในสมอง แพทย์แจ้งว่าต้องใช้เวลารักษา 3-6 เดือน ส่วนฝั่งซ้ายของร่างกายยังมีอาการชาอยู่
    ด้านนางทิพย์สุคนธ์ เจ้าของรถกระบะ ทะเบียน 6 กญ 197 กรุงเทพมหานคร เมื่อเจอหน้าก็ยกมือไหว้ น.ส.วรัชยา พร้อมกล่าวขอโทษ ยืนยันจะชดใช้ค่าเสียหายให้ทุกอย่างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่ได้ตั้งใจ แต่ตนมองไม่เห็น ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถไปส่งลูกที่คลองเตย เมื่อมาถึงจุดดังกล่าวได้ยินเสียงสะดุด แต่ก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติ จึงไม่ได้จอดรถหยุดดู กระทั่งลูกชายมาบอกหลังเกิดเหตุอีก 3 วัน มีคลิปปรากฏในโลกโซเชียล จึงได้ติดต่อมายังตำรวจ ยืนยันไม่รู้จริงๆ ว่าขับเฉี่ยวชน  
    ขณะที่ น.ส.วรัชยาพร้อมยกโทษให้ และขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถ จะได้ไม่ทำให้คนอื่นได้รับความเดือดร้อน เพราะอย่างกรณีของตนได้รับความเดือดร้อนทั้งครอบครัว รวมไปถึงคนไข้เนื่องจากไม่สามารถนำอาหารไปส่งได้
    นายชัยพฤกษ์ ปัญญาสิทธิ์ สามี น.ส.วรัชยา กล่าวว่า มีคนขับรถคันหนึ่งและเห็นเหตุการณ์ นำภาพขณะเกิดเหตุมามอบให้ จึงตัดสินใจโพสต์ลงโซเชียลเพื่อช่วยตามหาคนขับรถคู่กรณี ผ่านมา 3-4 วัน คู่กรณีจึงติดต่อมา แต่ยังไม่ได้คุย เพราะภรรยาอาการยังไม่ดีขึ้น ต้องไปทำกายภาพ และเดินไม่สะดวกต้องใข้เครื่องช่วยพยุง หมดค่ารักษาที่โรงพยาบาลเปาโลฯ 39,000 บาท โดยวันนี้นัดคู่กรณีมาตกลงค่าเสียหาย ทั้งค่ารักษาพยาบาลและเงินซ่อมรถจักรยานยนต์
    พ.ต.ท.มานิตย์ จันทร์ประดิษฐ์ รอง ผกก.สอบสวน สน.วิภาวดี เปิดเผยว่า ได้แจ้งข้อหานางทิพย์สุคนธ์ ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ทรัพย์สินเสียหาย และไม่หยุดให้การช่วยเหลือตามสมควร  
    อีกกรณีหนึ่ง ผู้ใช้เฟซบุ๊ก @Parinyaporn Srikun โพสต์คลิปวิดีโอรถตู้ฮุนได ป้ายแดง ถอยชนรถเก๋งฮอนด้าจนได้รับความเสียหาย แต่กลับขับหนีไป เหตุการณ์เกิดที่ลานจอดรถภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ต่อมา น.ส.ปริญญาภรณ์ ศรีคุณ อายุ 35 ปี เจ้าของรถเก๋งที่เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 3 ก.ย. ตนขับรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ทะเบียน กค 7168 แพร่ ไปจอดทำธุระที่ห้าง เมื่อกลับมา พบกันชนหน้าหลุด มีร่องรอยการเฉี่ยวชน ซึ่ง รปภ.แจ้งว่ามีพลเมืองถ่ายคลิปรถตู้ป้ายแดงที่ขับชนเอาไว้ได้ มีชายแต่งชุดซาฟารีสีน้ำเงินเป็นคนขับ จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อให้ตำรวจช่วยติดตามตัวคนขับรถตู้มารับผิดชอบ 
    พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า หลังผู้เสียหายได้มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เมื่อบ่ายวันที่ 4 ก.ย.นี้ ทางเจ้าของรถตู้ได้ประสานมายังพนักงานสอบสวน ว่าเพิ่งทราบเรื่องที่เกิดขึ้น โดยลูกน้องขับรถไปยังห้างสรรพสินค้าดังกล่าวและเฉี่ยวชนรถคู่กรณี ก่อนจะขับรถกลับมาโดยไม่ได้ตกลงกับคู่กรณี ตนจึงยินยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น โดยในวันที่ 5 ก.ย. เวลาประมาณ 18.00 น. จะเดินทางมายัง สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อเจรจากับผู้เสียหาย.