ชัยวัฒน์ปัดอุ้มบิลลี่ลั่นไม่หนี


เพิ่มเพื่อน    

 ดีเอสไอยันหลักฐานวิทยาศาสตร์คดี "บิลลี่" มัดแน่น มีกลุ่มผู้ต้องสงสัยแล้ว แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผย "วราวุธ" จ่อย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ ด้าน "ชัยวัฒน์" รู้ชะตากรรมลั่นไม่หนีไปไหน หลังจากนี้เตรียมตัวต่อสู้ทางกฎหมายต่อไป แย้งดีเอสไอจุดพบกระดูกคือจุดลอยอังคาร

    พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของดีเอ็นเอไมโตคอนเดรียของชิ้นส่วนกระดูก ตรงกับดีเอ็นเอของนางโพเราะจี รักจงเจริญ แม่ของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย ว่าการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ให้ความสำคัญ โดยเป็นการยืนยันว่าดีเอ็นเอที่ตรวจพบตรงตามสายพันธุ์ที่สืบทอดจากแม่สู่ลูก ในชั้นสอบสวนดีเอสไอก็เชื่อว่าจะต้องมีข้อโต้แย้งเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จึงได้สอบสวนจนครบถ้วนสมบูรณ์ว่าแม่ของนายบิลลี่มีลูกทั้งหมดกี่คน ซึ่งได้รับการยืนยันว่าทั้งหมดยังมีชีวิต ยังไม่มีใครเสียชีวิต 
    หลังจากนี้เมื่อคดีขึ้นสู่ศาลจะเป็นการต่อสู้กันด้วยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานแวดล้อมที่ดีเอสไอรวบรวมได้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2-3 เดือนจะสามารถสรุปสำนวนสั่งคดีได้ ในระหว่างนี้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ขอเวลา 1 เดือนเต็มในการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากชิ้นส่วนกระดูก 20 ชิ้นที่งมขึ้นมาได้จากลำน้ำในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
    พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวอีกว่า มอบหมายให้ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อให้กำลังใจ น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือมึนอ ภรรยาของนายบิลลี่ ที่บ้านโป่งลึก อ.แก่งกระจาน โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ดีเอสไอเปิดให้สื่อมวลชนติดตามเข้าไปรายงานข่าวได้
    แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ภายหลังดีเอสไอออกมาแถลงข่าวตรวจสอบถังน้ำมันและชิ้นส่วนกระดูกจากก้นลำน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน ปรากฏว่ามีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ โดยมีการจัดกลุ่มคนเข้าไปลอยอัฐิ หรือลอยอังคารภายในลำน้ำ เพื่อแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการนำอัฐิของผู้เสียชีวิตมาลอยอังคารกันเป็นปกติ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือหลักฐานที่ดีเอสไอค้นพบ 
    ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์เผยว่า เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน ได้ลงพื้นที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย ตำลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เพื่อสอบพยานที่เป็นชาวบ้าน และกลุ่มญาติของนายบิลลี่ เพื่อติดตามคดี หาหลักฐานในพื้นที่ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ของบิลลี่ที่หายไปพร้อมกับเจ้าตัว ยืนยันว่ามีกลุ่มผู้ต้องสงสัยแล้ว แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผย
    ขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า เหตุการณ์ช่วงนั้นคาบเกี่ยวกับช่วงการเกิดรัฐประหาร โดยได้หารือร่วมกับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าในระยะเวลาที่เกิดเหตุ มีบุคลากรคนใดบ้างที่เกี่ยวข้อง อาจจะขอให้ย้ายออกจากพื้นที่ เพื่อให้เกิดความสบายใจต่อทุกฝ่าย แต่ไม่ได้แปลว่าเป็นการลงโทษ หรือพวกเขาเหล่านี้เป็นบุคคลที่กระทำผิด แต่เพื่อให้ชาวบ้านหรือประชาชนในพื้นที่เกิดความสบายใจ จากนี้ต้องรอทางอธิบดีรายงานมาว่าผลการดำเนินการเป็นอย่างไร
    “หากทางดีเอสไอประสานงานขอความช่วยเหลือมาทางกระทรวงเราก็ยินดี และขอยืนยันว่าสิ่งไหนที่ผิดก็ผิด สิ่งที่ถูกก็ต้องว่าไปตามตัวบทกฎหมาย หากมีข้าราชการในกระทรวงเข้าไปเกี่ยวข้อง ผมยืนยันว่าจะไม่มีการอุ้มช่วยอย่างแน่นอน” นายวราวุธกล่าว
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการและต้องสืบสวนสอบสวนต่อไปว่าเป็นอย่างไร ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังตรวจสอบไม่ได้และยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ซึ่งก็ต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนต่อไป
    ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ขณะนี้สังคมเพิ่งทราบว่านายบิลลี่เสียชีวิต ดังนั้นสิ่งที่ทำได้คือการเยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 โดยตนได้สั่งการให้นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวนายบิลลี่แล้ว
          อย่างไรก็ตาม ต้องให้คณะกรรมการพิจารณาให้เสร็จโดยเร็วว่าเป็นไปตามเงื่อนไขได้รับเงินเยียวยาหรือไม่ เพราะนายบิลลี่หายไป 5 ปี แต่เพิ่งพบว่าเสียชีวิต ในส่วนของคดีความถือเป็นผลงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หากมีผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง ดีเอสไอก็ต้องดำเนินการไปตามพยานหลักฐานให้ชัดเจน
    วันเดียวกันนี้ กลุ่มเครือข่ายกะเหรี่ยงและชาวเลในประเทศไทย นำโดยนายสมชาย รักษ์สองพูล และนายประยงค์ ดอกลำไย ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) เข้ายื่นหนังสือขอบคุณและขอให้เร่งสืบสวนคดีหาผู้ต้องหากระทำผิดกรณีการเสียชีวิตของนายบิลลี่ โดยมีพ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร  รองอธิบดีดีเอสไอ มารับหนังสือ
    นายเกรียงไกร ชีช่วง ชาวกะเหรี่ยง กล่าวว่า ชาวบ้านรู้สึกเห็นใจเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่เข้ามารับช่วงทำคดีของบิลลี่หลังจากเวลาผ่านไปแล้ว 3-4 ปี แต่ยังพยายามค้นหาหาหลักฐาน วัตถุและพยานจนทำให้พิสูจน์ได้ว่าคดีการหายไปของบิลลี่เป็นคดีที่เกิดจากการฆาตกรรมอำพราง จึงขอให้กำลังใจ และคดีนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวกะเหรี่ยงและกลุ่มชาติพันธุ์กล้าลุกขึ้นมาทวงถามความยุติธรรมจากรัฐไทย
    ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์กล่าวว่า ดีเอสไอพยายามสืบสวนเพื่อนำตัวคนผิดมาลงโทษ ซึ่งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้ดีเอสไอเร่งดำเนินการ ระหว่างนี้พนักงานสอบสวนยังอยู่ในพื้นที่เพื่อตรวจสอบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม  คาดว่าจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เมื่อพยานหลักฐานทุกอย่างเพียงพอ ก็จะเรียกผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ  ขอยืนยันว่าพยานหลักฐานที่ดีเอสไอมีอยู่ ทั้งภาพถ่ายกล้องวงจรปิด และอื่นๆ ที่เก็บรักษาไว้ จะไม่มีใครสามารถเข้าตัดตอนได้อย่างเด็ดขาด และแม้ว่าคดีดังกล่าวจะผ่านมา 5 ปีแล้ว แต่พนักงานสอบสวนดีเอสไอไม่เคยละความพยายามในการสืบสวน ขอให้มั่นใจว่าดีเอสไอจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา
    ขณะที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) 9 อุบลราชธานี อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ว่า ขอให้ทุกคนคิดเอาเองแบบพื้นๆ เลยว่า หากตัวเองได้กระทำผิดร้ายแรงแบบนั้นจริงๆ การเอาศพไปทิ้งไว้ในพื้นที่แบบนั้น ซึ่งเป็นที่ที่อยู่ใกล้ตัว แล้วใครจะกล้าทำ  ต่อให้ยิ่งใหญ่จากไหนก็ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้ รู้สึกน้อยใจ โดยเฉพาะน้อยใจแทนลูกน้องที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรต้องมาพลอยรับผลกับสิ่งที่ไม่รู้เรื่องด้วย
       เขากล่าวว่า ลำพังตนเองไม่เท่าไร เพราะมีคนจ้องด้วยเรื่องนี้มานานแล้ว ที่ผ่านมาก็พิสูจน์มาแล้วว่าไม่เกี่ยวข้อง เรื่องหนึ่งที่ขอตั้งข้อสังเกตก็คือ บริเวณสะพานที่ทางดีเอสไออ้างว่าเจอกระดูกนั้น เป็นบริเวณที่ชาวกะเหรี่ยงบางกลอยจะเอากระดูกของคนตายมาลอยอังคารกันอยู่แล้ว 
    "การตรวจโดยวิธีไมโตคอนเดรียนั้น ใช้วงเลือดมาพิสูจน์อย่างเดียวว่ากระดูกชิ้นนั้นเป็นของบิลลี่ ผมว่ามันไม่น่าจะพอ และสรุปออกมาแบบนี้ หลังจากนี้ก็คงต้องเตรียมตัวต่อสู้ทางกฎหมายต่อไป คงทำอะไรและพูดอะไรได้ไม่มากกว่านี้แล้ว วันนี้ก็ไม่ได้ไปไหน ยังทำงานตามปกติ" นายชัยวัฒน์กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"