ปล่อยตัว “สนธิ ลิ้มทองกุล” แล้วหลังถูกจำคุก 3 ปี 1 เดือน จากคำพิพากษา 20 ปี “ณรัชต์” แจงไม่มีนอกมีในหรือใบสั่ง แต่เป็นหลักกฎหมายเข้าเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษ    

    เมื่อวันที่ 4 ก.ย. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แถลงว่า ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ปล่อยตัวนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อายุ 72 ปี ผู้ต้องขังชั้นเยี่ยมที่ต้องคดีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และอื่นๆ ซึ่งรับโทษมาแล้ว 3 ปี 1 เดือนแล้ว โดยขณะที่นายสนธิอยู่ภายในเรือนจำมีความประพฤติดี ช่วยเหลืองานของทางราชการหลายอย่าง และมีความก้าวหน้าในเรื่องการฝึกอบรมในหลักสูตรต่างๆ ของกรมครบถ้วนเรียบร้อย ประกอบกับเป็นผู้ที่มีอายุเกินกว่า 70 ปี และมีโรครุมเร้าหลายอย่าง 
พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวอีกว่า ตามข้อเท็จจริง นายสนธิน่าจะได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานอภัยโทษเนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2562 เนื่องจากอายุเกิน 70 ปีบริบูรณ์ ซึ่งเข้าข่ายต้องได้รับการปล่อยตัวไปตามมาตรา 6 (2)(จ) แต่มีการตีความทางกฎหมายว่านายสนธิกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ตามบัญชีแนบท้าย จึงเข้าข้อยกเว้นไม่ปล่อยตัว เพียงแค่ลดโทษลงแทน 
ต่อมามีนักโทษชายรายหนึ่งยื่นอุทธรณ์คำสั่งของคณะกรรมการอภัยโทษ โดยโต้แย้งว่าเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมิใช่สถาบันการเงิน ดังนั้นจึงไม่เข้าองค์ประกอบตามที่ระบุไว้ในบัญชีแนบท้าย กรมราชทัณฑ์จึงได้ยื่นเรื่องขอหารือการตีความข้อกฎหมายดังกล่าวต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา และในวันที่ 3 ก.ย. เวลา 13.30 น. ได้มีการประชุม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาทั้ง 3 ท่าน หัวหน้าผู้พิพากษาแผนกคดีค้ามนุษย์ หัวหน้าผู้พิพากษาแผนกคดียาเสพติด ผู้แทนอัยการสูงสุด และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งที่ประชุมยืนยันการตีความทางกฎหมายเป็นคุณกับผู้ร้อง คำร้องของผู้ร้องฟังขึ้น และเมื่อนำมาเทียบเคียงกับกรณีของนายสนธิแล้ว พบว่าข้อเท็จจริงเป็นลักษณะเดียวกัน ดังนั้น นายสนธิจึงเข้าข่ายได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวข้างต้น 
“กรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่า การปล่อยตัวในครั้งนี้เป็นเรื่องของความคลาดเคลื่อนในการตีความทางกฎหมายโดยแท้ ได้มีการหารือกับผู้พิพากษาชั้นผู้ใหญ่และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดรอบคอบ ไม่ได้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือมีใบสั่งจากผู้ใด รวมทั้งไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมืองแต่อย่างใดทั้งสิ้น” พ.ต.อ.ณรัชต์ระบุ
     ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2559 ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาจำคุกนายสนธิ 20 ปี ในคดีร่วมกันทำรายงานการประชุมเท็จของบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด เมื่อปี 2540 เพื่อค้ำประกันการกู้เงินธนาคารกรุงไทย จำนวน 1,078 ล้านบาท 
    ขณะที่บริเวณด้านหน้าทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ ภายหลังมีความชัดเจนเรื่องการปล่อยตัวนายสนธิ ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางคลองเปรม นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล บุตรชายของนายสนธิ และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ได้มารอรับตัวนายสนธิที่ด้านหน้าทัณฑสถาน ซึ่งเรือนจำได้ปล่อยตัวนายสนธิไปในเวลา 15.00 น.