
5 ก.ย.62 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.1870/2558 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท ไทยเดย์ ด็อท คอม จำกัด, นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล และนายพชร สมุทวณิช ผู้บริหารบริษัทฯ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันส่งวิทยุกระจายเสียงหรือวิทยุโทรทัศน์เพื่อให้บริการสาธารณะหรือชุมชนโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาต
อัยการโจทก์ฟ้องว่า ระหว่างเดือน ก.ย. 2548 ถึงวันที่ 3 ก.พ. 2549 จำเลยทั้งสามร่วมกันประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ โดยร่วมกันทำการบันทึกรายการภาพและเสียง หรือทำการถ่ายทอดสดรายการตามที่มีกำหนดไว้ในผังรายการ แล้วส่งข้อมูลสัญญาณภาพและเสียงผ่านทางสายเคเบิลใยแก้ว ซึ่งเช่าจากบริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เพื่อส่งต่อไปที่เกาะฮ่องกง ประเทศจีน จากนั้นมีการส่งสัญญาณภาพและเสียงต่อไปยังดาวเทียม NSS6 แล้วดาวเทียมส่งข้อมูลสัญญาณภาพและเสียงกลับมาที่ประเทศไทยทางสถานีวิทยุโทรทัศน์เอเอสทีวี ช่องนิวส์วัน ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถซื้อจานรับสัญญาณดาวเทียมเพื่อดูรายการโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย อันเป็นการส่งวิทยุกระจายเสียงหรือวิทยุโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2559 โดยเห็นว่าพยานโจทก์ที่นำมาเบิกความ รวม 4 ปาก ไม่มีพยานคนใดเบิกความให้ศาลเห็นว่าการประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์โดยการส่งภาพและเสียง กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ.2498, พ.ร.บ.วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2530 และ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 พิพากษายกฟ้อง
ต่อมาอัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2560 ว่า คดีนี้โจทก์นำพยานมาเบิกความในชั้นศาลรวม 4 ปาก ไม่มีพยานคนใดเบิกความให้เห็นว่า การประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์โดยการส่งภาพและเสียงของจำเลยทั้งสามในขั้นตอนใดที่จะถือได้ว่า จำเลยทั้งสามได้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ.2498 แต่โจทก์มีคำให้การในชั้นสอบสวนของ นายอานนท์ ลอยกุลนันท์ เจ้าหน้าที่กรมประชาสัมพันธ์ พยานโจทก์สรุปได้ความว่า สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีของจำเลยที่ 1 มีการส่งสัญญาณภาพและเสียงผ่านสายเคเบิลใยแก้ว ซึ่งจำเลยที่ 1 เช่าสายเคเบิล จากบริษัท กสท. และเป็นการส่งข้อมูลสัญญาณภาพและเสียงในประเทศไทย จากนั้นส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังสายเคเบิลใต้น้ำจากประเทศไทย ไปที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน
จากนั้นส่งสัญญาณภาพและเสียงไปยังดาวเทียม NSS-6 และส่งสัญญาณจากดาวเทียวดังกล่าวกลับมายังประเทศไทย แม้คำให้การในชั้นสอบสวนดังกล่าวเป็นเพียงพยานบอกเล่า ซึ่งห้ามมิให้ศาลรับฟัง แต่ก็มิได้ห้ามโดยเด็ดขาด และเหตุที่โจทก์ไม่สามารถนำตัวเจ้าหน้าที่กรมประชาสัมพันธ์ดังกล่าวมาเบิกความได้ เป็นเพราะอาการป่วยต้องให้ออกซิเจน อันเป็นเหตุจำเป็นเข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาอาญา มาตรา 226/3 (2) พยานหลักฐานโจทก์จึงฟังได้ว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันส่งวิทยุโทรทัศน์หรือ ประกอบกิจการโทรทัศน์โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
พิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ.2495 มาตรา 3, 5, 17 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จำคุกจำเลยที่ 2 และ 3 คนละ 2 ปี และปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 90,000 บาท ทางนำสืบของจำเลยทั้งสาม เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง กรณีมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละ 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 2 และ 3 คนละ 1 ปี 4 เดือน และปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 60,000 บาท กับให้ปรับจำเลยทั้งสามเป็นรายวันๆ ละ 2,000 บาท นับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2548 - 23 ม.ค. 2549
ต่อมาจำเลยฎีกาสู้คดี วันนี้ศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษาแล้ว พิพากษาว่า การกระทำของจำเลยที่ 1-3 มีความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ.2495 มาตรา 3, 5, 17 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แต่ที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 และ 3 โดยไม่รอลงอาญานั้นเห็นว่าหนักเกินไป เนื่องจากขณะนั้นก็ยังไม่มีหน่วยงาน กสช.มาทำหน้าที่ออกใบอนุญาต จึงควรปรับโทษให้เหมาะสม โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้คนละ 3 ปีและปรับจำเลยที่ 2 และ 3 คนละ 60,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และผู้ก่อตั้งสื่อเครือเอเอสทีวี ผู้จัดการ (บ.ไทยเดย์ ด็อท คอม) เดินทางมาศาลเพื่อให้กำลังใจนายจิตตนาถ บุตรชายของนายสนธิ หลังนายสนธิได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) ในการพักโทษคดีกระทำความผิด พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ ต่อสื่อมวลชน
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |