(นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสอบถามราคาว่าจ้างรถตุ๊กๆ ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2562 / Mladen ANTONOV / AFP)

    กรุงเทพฯ ครองแชมป์เมืองที่ชาวต่างชาติมาเยือนมากที่สุดในโลกเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน จากการจัดอันดับดัชนีเมืองจุดหมายปลายทางของโลกประจำปี 2019 โดยมาสเตอร์การ์ด ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวเกือบ 23 ล้านคน มากกว่ากรุงปารีสและลอนดอน 
    ผลการสำรวจของมาสเตอร์การ์ดเผยแพร่ที่นิวยอร์กเมื่อวันพุธที่ 4 กันยายน 2562 ระบุว่า ปี 2561 ที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติมาเยือนและพักค้างคืนในกรุงเทพฯ ถึง 22.78 ล้านคน และทำนายว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเทพฯ ในปี 2562 นี้จะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 3.34%
    รายงานของซีเอ็นเอ็นกล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเทพฯ มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ชาวจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อินเดีย และสหราชอาณาจักร ตามลำดับ โดยแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมนั้นมีอาทิ พระบรมมหาราชวัง, วัดอรุณราชวรารามฯ และทริปท่องเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวกที่ใช้เวลาไป-กลับใน 1 วัน
    เมืองอื่นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติรองลงมาใน 10 อันดับแรก ได้แก่ 2.กรุงปารีสของฝรั่งเศส 19.10 ล้านคน 3.กรุงลอนดอนของอังกฤษ 19.01 ล้านคน 4.นครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 15.93 ล้านคน 5.สิงคโปร์ 14.67 ล้านคน 6.กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย 13.79 ล้านคน 7.นครนิวยอร์กของสหรัฐ 13.60 ล้านคน 8.นครอิสตันบูลของตุรกี 13.40 ล้านคน 9.กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น 12.93 ล้านคน และ 10.เมืองอันตัลยาของตุรกี 12.41 ล้านคน
    การจัดอันดับจุดหมายปลายยอดนิยมประจำปีของมาสเตอร์การ์ดนั้นพิจารณาจากจำนวนผู้มาเยือนแบบค้างคืนทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางมาทำธุรกิจ กับการจับจ่ายใช้สอย โดยสำรวจเมืองใหญ่ 200 เมืองทั่วโลก
    รายงานปีนี้พบว่า จำนวนชาวต่างชาติเดินทางเยือนและพักค้างคืนในประเทศอื่นๆ เพิ่มขึ้นในภาพรวม โดยเพิ่ม 76% นับจากปี 2552 นอกจากนี้ เมืองในประเทศแถบเอเชีย-แปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นมากที่สุด 9.4% นับแต่ปี 2552 ในขณะที่จุดหมายยอดนิยม 10 อันดับแรกนั้น มีเพียงกรุงลอนดอนเมืองเดียวที่จำนวนผู้มาเยือนในปีที่แล้วลดลงจากปีก่อนหน้านั้น 4% 
    ในแง่ของการใช้จ่าย นครดูไบครองอันดับหนึ่ง โดยผู้มาเยือนแบบค้างคืนใช้จ่ายเฉลี่ยวันละ 553 ดอลลาร์ คิดเป็นจำนวนรวมทั้งปีเกือบ 31,000 ล้านดอลลาร์ ตามด้วยนครมักกะฮ์ของซาอุดีอาระเบีย มียอดใช้จ่ายรวม 20,090 ล้านดอลลาร์ และกรุงเทพฯ 20,030 ล้านดอลลาร์.