จับปล้นทอง4ล. เปิดห้องปาร์ตี้ยา


เพิ่มเพื่อน    

    จับแล้ว หนุ่มชุมพรควงปืนชิงทองร้านออโรร่าในห้างตั้งฮั่วเส็ง กวาดทองไปกว่า 4 ล้านบาท หนีไปจนมุมในโรงแรมย่านงามวงศ์วานขณะจัดปาร์ตี้ยาเสพติดกับพรรคพวก อ้างทำคนเดียวเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้และซื้อยาเสพ ค้นประวัติเคยก่อเหตุลักทรัพย์นายจ้าง ล่าสุดถูกจับค้ายาก่อนประกันตัวมาก่อเหตุ
    นายอัศวิน หรือเอก บุญเมือง อายุ 44 ปี ชาวจังหวัดชุมพร ถูกจับกุมเมื่อคืนวันอาทิตย์ในคดีบุกชิงทองรูปพรรณหนัก 179 บาท มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะซ่อนตัวอยู่ในห้องพักโรงแรมอลิซ ถนนงามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ตำรวจยึดปืนของกลางและทองรูปพรรณหนักกว่า 90 บาท ยังขาดอีกราว 50 บาท นอกจากนี้ยังคุมตัวผู้ต้องสงสัย 6 คน เป็นชาย 4 คนและหญิง 2 คน ซึ่งอยู่ในห้องเดียวกับนายอัศวินไปสอบสวนด้วย
    จากการสอบสวน นายอัศวินรับสารภาพว่าก่อเหตุเพียงคนเเดียว เพราะต้องการเงินไปใช้หนี้และซื้อยาบ้าเสพ โดยตระเวนดูลาดเลาหน้าร้านขายทองออโรร่าซึ่งอยู่ในห้องสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ย่านบางพลัด มา 3 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคม และต้นเดือนกันยายน ก่อนลงมือก่อเหตุ
    ต่อมาพนักงานร้านทองออโรร่าได้เดินทางไปที่ สน.บางพลัด เพื่อชี้ตัวผู้ต้องหา ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกันที่ก่อเหตุ และเคยทำทีเข้ามาขอดูทองก่อนหน้าเกิดเหตุ ส่วนทองรูปพรรณที่หายไป น้ำหนัก 179 บาท จำนวน 3 ถาด ส่วนใหญ่เป็นทองรูปพรรณ สร้อยคอและสร้อยข้อมือ
    สำหรับพฤติการณ์การหลบหนีของนายอัศวิน หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปที่หัวลำโพง ทิ้งเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนที่จะให้คนขี่รถจักรยานยนต์ไปทิ้งไว้ที่ตลาดคลองเตย และหลบหนีไปกบดานที่โรงแรมในจังหวัดนนทบุรี เปลี่ยนที่หลับนอนทุกวัน จนกระทั่งตำรวจชุดจับกุมนำกำลังไปปิดล้อม แต่นายอัศวินได้ใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ตำรวจ 1 นัด กระสุนถูกกระจกภายในห้องพักแตกเป็นรู ก่อนปีนระเบียงหลังห้องหลบหนีเข้าไปอยู่อีกห้องหนึ่งที่ติดกัน ก่อนจะยอมมอบตัวในที่สุด
    จากการตรวจสอบประวัติ พบว่านายอัศวินเคยต้องโทษคดีร่วมกันลักทรัพย์นายจ้างในเวลากลางคืน ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เมื่อปี 2556 ล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถูกตำรวจจังหวัดชุมพรจับกุมข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่าย อยู่ระหว่างประกันตัวออกมาสู้คดี ก่อนมาก่อเหตุบุกชิงทอง    
    บ่ายวันที่ 9 กันยายน ที่ร้านทองออโรร่า สาขาตั้งฮั่วเส็งธนบุรี พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.น.7, พ.ต.อ.ปัญญา กุลไทย (ผกก.สส.บก.น.7), พ.ต.อ.วีรศักดิ์ กลั่นเกิด ผกก.สน.บางพลัด ร่วมกันควบคุมตัวนายอัศวิน หรือเอก บุญเมือง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันที่ จ.322/2562 ลงวันที่ 6 กันยายน 2562 กระทำผิดฐาน “ชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อหลบหนี” ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 
    พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า จากการสอบถามนายอัศวิน ผู้ต้องหา ยอมรับว่าได้ก่อเหตุจริง ซึ่งคนร้ายได้เดินทางมาดูลาดเลาที่ร้านทอง ก่อนที่ในวันก่อเหตุจะขี่จักรยานยนต์พาผู้หญิงคนหนึ่งมานั่งกินอาหารที่ร้านข้าน้อยขอชาบู ที่ห้างดังกล่าว และส่งผู้หญิงกลับไป จากนั้นจึงเข้าไปก่อเหตุปล้นทองโดยใช้ปืนจี้และถือกระดาษขู่พนักงาน พร้อมกวาดทองก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีกลับมาที่บ้านพักย่านหัวลำโพง เพื่อถอดเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุทิ้งไว้หน้าบ้าน และให้ลูกน้องนำรถจักรยานยนต์ไปทิ้งที่ตลาดคลองเตย พร้อมนำทองไปแลกกับยาเสพติด ก่อนจะนัดพบกันที่โรงแรมดังกล่าว
    ผบช.น.กล่าวว่า คนร้ายอ้างว่ามีแผนจะนำทองที่ปล้นมาได้ไปใช้หนี้สินและแลกกับยาเสพติด โดยจะนำทองบางส่วนไปหลอมเพื่อขายเป็นเงินและนำไปซื้อยาเสพติด ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ ยังอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติมอีกครั้ง เนื่องจากนายอัศวินมีประวัติคดีค้ายาเสพติดที่ จ.ชุมพร แต่เป็นเพียงผู้ค้ารายย่อย สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้ เจ้าตัวรับว่าทำเป็นครั้งแรก และอ้างว่าลงมือก่อเหตุคนเดียว ไม่ได้ร่วมวางแผนกับพวกที่เหลืออีก 5 คน ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมที่โรงแรม พบว่ากลุ่มของผู้ต้องหากำลังปาร์ตี้ยาเสพติดกันอยู่ แต่เมื่อตรวจปัสสาวะนายอัศวิน พบว่าไม่มีสีม่วง จึงไม่ได้แจ้งข้อหายาเสพติด ต่อจากนี้เจ้าหน้าที่จะสอบปากคำบุคคลอื่นที่ถูกจับกุมได้อย่างละเอียดอีกครั้ง และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"