ทหาร ตำรวจ ปะทะเดือดคาราวานยาเสพติดลักลอบเข้าไทยทางด้าน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ คนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปได้ ทิ้งยาบ้าไว้กว่า 1 ล้านเม็ด
    เมื่อวันที่ 10 กันยายนนี้ ชุดปฏิบัติการพิเศษศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.ปส.ชน.) ร่วมกับ บก.ควบคุม ศป.ปส.ชน.ที่ 1, ชป.ศป.ปส.ชน.ที่ 2, ชุดสกัดกั้นยาเสพติดภาค 5 พื้นที่แนวชายแดนและเข้าสู่พื้นที่ตอนใน (สกส.ภาค 5) และตำรวจ สภ.เชียงดาว ได้สนธิกำลังซุ่มจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดตามคำสั่งของ พล.ต.บรรณวัฒน์ พรหมจรรย์ ผบ.ศป.ปส.ชน. ที่ได้รับรายงานว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดอ้อมผ่านจุดตรวจแก่งปันเต๊า ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อส่งมอบให้กลุ่มเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน
    เจ้าหน้าที่ได้วางกำลังคอยสังเกตยานพาหนะขนยาเสพติดเป้าหมายตามสายลับแจ้งอยู่ที่ด่านตรวจแก่งปันเต๊าเพื่อทำการสกัดจับกุม ต่อมาชุดตรวจยึดได้รับแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมจากสายลับว่าขบวนการขนยาเสพติดได้เปลี่ยนแผนการขนลำเลียงยาเสพติด โดยใช้วิธีเดินเท้าลัดเลาะตามแนวป่าเพื่ออ้อมหลบด่านแก่งปันเต๊าเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจค้นจับกุม ชุดตรวจยึดจึงได้กระจายกำลังซุ่มสังเกตและวางกำลังซุ่มตามจุดที่คาดว่ากลุ่มขนยาเสพติดจะใช้เป็นทางผ่าน
    กระทั่งเวลา 05.45 น. ชุดดักซุ่มนำโดย พ.ต.ท.สุริยะดิษฐ์ สุริยะธง กับพวก ได้เข้าแสดงตัวขอทำการตรวจค้นคนกลุ่มหนึ่งที่เดินลัดเลาะฝ่าความมืดมาตามทางเดินเท้าลัดป่าเขาทางด้านทิศใต้ของด่านตรวจแก่งปันเต๊า แต่ปรากฏว่ากลุ่มคนร้ายไม่ยอมหยุดให้ตรวจค้น และอาศัยความมืดและความชำนาญพื้นที่ยิงใส่ตำรวจและทหารที่ซุ่มอยู่ เกิดการยิงโต้ตอบกันนาน 4-5 นาที คนร้ายวิ่งหลบหนีไปได้ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ปลอดภัย 
    เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบกระสอบสีรุ้งดัดแปลงใส่สายสะพายเป็นเป้ จำนวน 4 ใบ ภายในบรรจุยาเสพติด ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบกระสอบสีรุ้งดัดแปลงใส่สายสะพายลักษณะเดียวกันอีก 4 ใบ ตกห่างจากจุดแรกไปประมาณ 50 เมตร รวมยาเสพติดที่ตรวจยึด 8 ใบ คาดว่าเป็นยาบ้าประมาณ 1,100,000 เม็ด จึงได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงดาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.