ให้ออกสว.ค้ายาบ้า อ้างแค่รับจ้างขน


เพิ่มเพื่อน    


    จับ พ.ต.ท.สารวัตรอุทัยธานี จากมือปราบยาเสพติดหันมาค้าเสียเอง จนมุมคาด่านตรวจแม่สายพร้อมยาบ้าร่วม 2 แสนเม็ดขณะนั่งรถทัวร์ อ้างรับจ้างขนเข้ากรุงเทพฯ ในราคา 1 แสนบาท ต้นสังกัดให้ออกไว้ก่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบผู้บังคับบัญชาปล่อยปละละเลยหรือไม่ พร้อมสอบเชิงลึกพัวพันสารวัตรคนดังที่ตกเป็นข่าวมีผู้ส่งยาถึงบ้าน บิ๊กแป๊ะเต้นสั่งขุดรากถอนโคน
    เมื่อเวลา 05.20 น. วันที่ 11 กันยายนนี้ พ.ต.ท.วรเทพ คำดี สวป.สภ.แม่สาย, ร.ต.ท.ภุชงค์ เรือนแก้ว รอง สวป.สภ.แม่สาย นำกำลังตำรวจ พร้อมทหาร ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ปฏิบัติหน้าที่ด่านตรวจถ้ำปลา หมู่ 3 ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย บนถนนพหลโยธิน ห่างจากชายแดนประมาณ 15 กิโลเมตร เพื่อสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดเข้ามา ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจรถทัวร์โดยสารสายแม่สาย-กรุงเทพฯ หมายเลขทะเบียน 10-7937 นครสวรรค์ ที่ออกจากสถานีขนส่งแม่สาย พบกระเป๋าเดินทางสีน้ำเงินเข้มใบใหญ่ของผู้โดยสารที่นั่ง 1 เอ ภายในมีกระดาษฟอยล์กันกลิ่นที่คนร้ายมักใช้ห่อหุ้มยาเสพติด เมื่อเปิดออกดู พบกระสอบฟางสีรุ้ง บรรจุยาบ้า รวม 198,000 เม็ด โดยกระเป๋าดังกล่าวอยู่ในช่องเก็บของด้านล่าง จึงขึ้นไปเพื่อจะจับกุมผู้โดยสารคนดังกล่าว แต่ผู้โดยสารไหวตัววิ่งหลบหนีไปซ่อนตัวในพงหญ้าบริเวณหลังด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้
    จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าของกระเป๋าบรรจุยาบ้า คือ พ.ต.ท.สุรจิต ทาวุธ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 398/22 หมู่ 1 ต.เจริญผล อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เป็นสารวัตรกองกำกับการสืบสวน (สว.กก.สส.) ภ.จว.อุทัยธานี และถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตามคำสั่งศาลล้มละลายกลาง ในคดีหมายเลขแดงที่ ล.4188/2561 เจ้าหน้าที่จึงนำตัวพร้อมของกลางส่ง สภ.แม่สาย โดย พ.ต.อ.คมสันต์ สอาดล้วน ผกก.สภ.แม่สาย ได้สอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับยาบ้ามาจากนายโอ๊ด อยู่ชุมชนเกาะทราย หมู่ 7 ต.แม่สาย อ.แม่สาย ใกล้ชายแดนไทย-เมียนมา ติดลำน้ำสาย เพื่อจะนำไปส่งที่กรุงเทพฯ แลกกับเงินค่าจ้าง 100,000 บาท 
    ต่อมา พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 เดินทางไปตรวจสอบคดีที่ สภ.แม่สาย ก่อนจะเปิดเผยว่า ได้สั่งให้ตรวจสอบว่ากรณีนี้เกี่ยวพันกับสารวัตรนายหนึ่งที่มีข่าวพัวพันยาเสพติดหรือไม่ ทั้งนี้ มีข้อมูลว่าเครือข่ายดังกล่าวมีพฤติกรรมปรากฏในเขตพื้นที่ บช.ภ.6 มาก่อน และทางผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ก็เฝ้าติดตามพฤติกรรมมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งมีการจับกุมตัว พ.ต.ท.สุรจิต ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีหน้าที่ในการปราบปรามยาเสพติด แต่กลับขนยาเสพติดเสียเอง 
    ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก สภ.แม่สายถึงรายละเอียดของคดีแล้ว ซึ่งเบื้องต้น บช.ภ.6 จะมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พร้อมมีคำสั่งให้ตำรวจรายดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อน ประกอบกับมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ตามนัยคำสั่ง ตร.ที่ 1212/253 ว่ามีส่วนปล่อยปละละเลย ไม่กำกับดูแลให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปกระทำความผิดหรือไม่ อย่างไร
    พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดนั้น พนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อจับกุมเครือข่ายยาเสพติดที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด ผู้ว่าจ้าง นายทุนที่อยู่เบื้องหลัง ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กำชับให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ทำการสืบสวน ขยายผล จับกุมผู้ที่สนับสนุนหรือที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้รักษากฎหมาย แต่กระทำผิดกฎหมายเสียเอง เรื่องอย่างนี้ต้องถูกดำเนินคดีทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กร และขอยืนยันว่าจะไม่มีการปกป้องตำรวจที่กระทำความผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ต้องรับโทษมากกว่าบุคคลธรรมดา
    พ.ต.ท.สุรจิต เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 44 เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 60 ที่ผ่านมามีผลงานปราบปรามยาเสพติด แต่ภายหลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเสียเอง. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"