ถือเป็นอิสรภาพแห่งความคิดจริงๆ นะจ๊ะ กับวิธีคิดและวิธีทำของศิลปินที่รังสรรค์รูปภาพ "พระอุลตร้าแมน" จนเป็นเรื่องเป็นราววิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานา

      องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิได้สอนให้ใคร "ยึดติด" กับวัตถุ ฉะนั้นใครจะจินตนาการความรัก ความนับถือและความศรัทธาของตัวเองให้เป็นรูปร่างหน้าตาอย่างไร ..คงจะไปห้ามกันไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะ "เสพ" ผลงานของศิลปินเหล่านั้นได้หรือไม่ ..ก็เท่านั้น!!

      เพราะนี่มันเป็นยุคดิจิตอลแล้วจ้า!!

      ยุคที่มนุษย์ป้าต้องอ้าปากค้างเลยทีเดียว เมื่อได้ไปนั่งฟังงานสัมมนางานหนึ่งเกี่ยวกับโลกที่เปลี่ยนไป เพราะมึนกับศัพท์ใหม่  Digital Nomad                   

      ไปค้นหาในวิกิพีเดีย เขาให้จำกัดความ Digital Nomad ว่า ผู้เร่ร่อนดิจิตอล แต่พอสอดส่ายหาข้อมูลก็ทำให้เข้าใจได้ว่า มันเป็นศัพท์เฉพาะสำหรับไลฟ์สไตล์ หรือการใช้ชีวิตของเด็กในยุคนี้แท้ๆ

      Digital Nomad คือคนที่ใช้ชีวิตอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ของโลก ส่วนอาชีพก็คือการทำทุกอย่างที่ได้เงินโดยใช้ระบบออนไลน์ เพียงแค่มีแล็ปท็อปกับอินเทอร์เน็ต เพียงเท่านี้ก็สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้แล้ว บางคนอาจจะทำ E-commerce, Freelance, Remote Work ซึ่งไลฟ์สไตล์แบบนี้มันสนุกตรงที่สามารถทำงานด้วยแล้วก็เที่ยวด้วยได้

      มนุษย์ป้ากุมขมับเลย เพราะมันก็เท่ากับอาชีพฟรีแลนซ์ในยุคป้าหรือเปล่า 

      แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไร ป้าว่ามันคือสัมภเวสีที่หาหลักแหล่งลงตัวไม่ได้ เดี๋ยวก็ย้ายไปเรื่อยๆ ...จริงไหม เด็กๆ อาจจะเห็นแล้วเคือง แต่มันสะท้อนความเป็นจริงของชีวิตที่ไม่ยึดติด และไม่เป็นหลักเป็นแหล่งสำหรับคนยุคนี้จริงๆ

      ก็น่าสงสัยเหมือนกันนะคะว่า คนเหล่านี้จะลงเอยสร้างครอบครัวหรือเปล่า???

       ตั้งคำถามแล้วมนุษย์ป้าก็คิดได้ว่า สุดแต่ใจจะไขว่คว้า!!! คนอายุ 60 up อย่างพวกเราจะไปคิดกังวลแทนเด็กยุคดิจิตอลเขาทำไมกันหนอ  และขอเตือนไว้ตรงนี้เลยว่า พ่อแม่ ปู่ย่าตายายบางคนที่กำลังกลุ้มอกกลุ้มใจกับพฤติกรรมของลูกหลานที่ไม่ยอมไปสมัครงานให้เป็นหลักเป็นแหล่ง แต่เลือกที่จะนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทันทีที่ตื่นนอนนั้น อยากรู้จริงๆ ว่าทำไม?? ก็ลองเข้าไปถามเขาตรงๆ 

      เพราะถ้าบ่นมากโดยไม่สนใจหาข้อมูลเลยว่าเขาอาจจะเป็นคนประเภท Digital Nomad ..ผลลัพธ์ก็อาจจะกลายเป็นว่าเขาขอไปนั่งทำงานตามร้านกาแฟ หรือไม่ก็หายเข้ากลีบเมฆเป็นสัมภเวสีเต็มตัวเลยนะจ๊ะ

      มนุษย์ยุค 1.0 ต้องเฝ้ามองคนยุค 4.0 ด้วยความอดทนและอย่างมีสติค่ะ...อย่าลืม.

                                   

                                                              "ป้าเอง"