‘เมียกี้ร์’แจ้งเท็จ คุก2ด.-ริบ42ล. สั่งออกหมายจับ


เพิ่มเพื่อน    

 ศาลฎีกาสั่งจำคุก 2 เดือน "ระพิพรรณ" เมียกี้ร์-อริสมันต์ ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ เท็จ ชี้ปกปิดอำพรางแหล่งที่มาของทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรส พร้อมริบทรัพย์ 42 ล้านบาท รวยผิดปกติ สั่งออกหมายจับรับโทษหลังเจ้าตัวไม่มาศาล

    เมื่อวันที่16 กันยายน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง  องค์คณะผู้พิพากษา 9 คนนัดอ่านคำพิพากษาคดียื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ หมายเลขดำที่ อม.1/2562 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ร้อง ได้ยื่นขอให้ศาลวินิจฉัยว่านางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง อายุ 46 ปี อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นภรรยาของนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แนวร่วม นปช. กรณีกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบด้วย ซึ่งขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542  มาตรา 34 และมีบทลงโทษทางอาญา มาตรา 119
    โดยนางระพิพรรณ ผู้ถูกกล่าวหา ทราบนัดโดยชอบแล้ววันนี้ตัวไม่มาศาล ศาลจึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (วิ อม.) พ.ศ.2560 มาตรา 40 วรรคสอง อ่านคำพิพากษาลับหลังผู้ถูกกล่าวหา และถือว่าผู้ถูกกล่าวหาทราบคำพิพากษาแล้ว
    ศาลเห็นว่านางระพิพรรณแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน โดยระบุว่ามีหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ คือสัญญาที่นางระพิพรรณกู้ยืมเงินจำนวน 3 ฉบับ รวม 13 ล้านบาท แต่ไม่ได้มีการกู้ยืมเงินกันจริง, แสดงรายได้ตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 15 ล้านบาท โดยนางระพิพรรณไม่ได้รับเงินจริง, แสดงรายได้จากสัญญาจ้างทำของของนายอริสมันต์ คู่สมรส จำนวน 27 ล้านบาท โดยไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักน่าเชื่อว่านายอริสมันต์ได้มีการรับจ้างงานดังกล่าวจริง ดังนั้นจึงเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำขึ้นเพื่อปกปิดอำพรางแหล่งที่มาของทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรส
    นอกจากนี้ นางระพิพรรณ ผู้ถูกกล่าวหา ไม่ได้ระบุในบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินว่า เงินลงทุนของผู้ถูกกล่าวหาในบริษัท เฮ้าส์ ออฟ ฮาร์ท พร็อพเพอร์ตี้ 2012 จำกัด มูลค่า 25 ล้านบาท เป็นหุ้นที่ยังไม่ได้ชำระเงินค่าหุ้น จึงทำให้เข้าใจว่าผู้ถูกกล่าวหานำเงินไปลงทุนในบริษัทตามมูลค่าหุ้นดังกล่าว  อันเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ จึงมีความผิดฐานจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ โดยมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินตามคำร้อง
    พิพากษาให้จำคุกนางระพิพรรณ ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเวลา 2 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ และห้ามไม่ให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ขณะที่ศาลได้ออกหมายจับ ให้ติดตามตัวนางระพิพรรณมาบังคับตามคำพิพากษาโดยไม่มีกำหนดอายุความด้วย
    วันเดียวกัน องค์คณะผู้พิพากษา 9 คนยังได้อ่านคำพิพากษาคดีริบทรัพย์ หมายเลขดำ อม.77/2561 ที่อัยการสูงสุด ผู้ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งริบทรัพยสินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของนางระพิพรรณ ผู้ถูกกล่าวหา รวมมูลค่า 42,816,226 บาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 38 
    โดยกรณีนี้สืบเนื่องจาก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนางระพิพรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสาร ประกอบกรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ รวมมูลค่า 42,816,226.64 บาท ซึ่ง ป.ป.ช.ส่งสำนวนเอกสารหลักฐานให้อัยการยื่นฟ้องศาลฎีกาฯ เมื่อเดือน พ.ค.61 
    ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่จะตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินหรือหนี้สิน เมื่อพ้นตำแหน่งว่าเพิ่มขึ้นผิดปกติไปจากกรณีเข้ารับตำแหน่งหรือไม่นั้น ตามธรรมดาย่อมจะต้องพิจารณาถึงเหตุแห่งการได้มา การโอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สินในระหว่างดำรงตำแหน่งนั้นมีอย่างไร ซึ่งศาลพิจารณาข้อเท็จจริง พบว่าผู้ถูกกล่าวหามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติอย่างมีนัยสำคัญรวม  42,816,226.64 บาท.
    


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"