จัดงานรวมพลเด็กแว้น วัยรุ่นหลายจังหวัดไปร่วมดื่มกินกันเต็มที่ โดยมีเบียร์ดังเปิดบูธ ขากลับ จยย. 2 คันชนกันเอง คนขี่กระเด็นโดยสิบล้อขยี้หัวดับ 2 ศพ เจ็บอีก 2 ตีนผีเผ่นหนี อีกรายรถอเนกประสงค์แซงซ้ายบนทางด่วนพุ่งชนมิราจท้ายหายไปครึ่งคัน ชายหญิงที่อยู่ในรถกระเด็นตกพงหญ้าเสียชีวิต ผู้ก่อเหตุปีนรั้วหนี
    เมื่อเวลา 01.15 น. วันที่ 22 กันยายนนี้ ร.ต.อ.ไกรสิทธิ์ ยังคีรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านในหูต ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน มีคนตายและบาดเจ็บ บนถนนเอเชีย 41 หมู่ที่ 11 ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยหลังสวน ที่เกิดเหตุบนถนนช่องทางขาขึ้นบริเวณจุดกลับรถ “แยะโกลักษณ์” พบศพนายธีรภัทร์ วรสิงห์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/5 หมู่ 1 ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง เป็นนักศึกษาแผนกช่างยนต์ ปวช.3 สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.ชุมพร สภาพศพเป็นแผลเหวะหวะ กะโหลกแตก ห่างไปราว 50 เมตร พบศพนายปาริน กลิ่นหอม อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121 หมู่ 4 ต.บางใหญ่ อ.กระบุรี จ.ระนอง เป็นนักเรียนมัธยมศึกษาชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ระนอง สภาพศพกะโหลกะแตก โดยมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ ทะเบียน ป้ายแดง 11-277 อันดามันกรุ๊ป ชนอัดติดอยู่กับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า CBR สีส้ม ทะเบียน 1 กค 6797 ชุมพร
    เจ้าหน้าที่ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 2 ราย หน่วยกู้ภัยหลังสวนรีบนำส่งโรงพยาบาลหลังสวน ชื่อนายศุภกิต สติพา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 5 ต.เขิน อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ และนางสาวมัตติกา คงแสงแก้ว อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 352 หมู่ 7 ต.หลักช้าง กิ่ง อ.หลักช้าง จ.นครศรีธรรมราช
    จากการสอบสวนเพื่อนผู้ตายที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ขณะที่ผู้ตายทั้ง 2 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 2 คัน ถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นถนนเลนคู่ ด้านหน้ามีรถบรรทุกสิบล้อวิ่งอยู่เลนขวาตีคู่ขนานอยู่กับรถกระบะที่วิ่งในเลนซ้าย นายปาริน กลิ่นหอม ได้ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า CBR มาด้วยความเร็วจึงเบรกกะทันหัน ขณะที่นายธีรภัทร์ วรสิงห์ ขี่จักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ ตามจี้หลังมาอย่างกระชั้นชิด ทำให้เบรกไม่ทันพุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า CBR อย่างจัง ทำให้รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน เสียหลักล้มไถลไปข้างหน้า ส่วนคนขี่รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน ได้กลิ้งกระเด็นเข้าใต้ท้องรถบรรทุกสิบล้อ ถูกทับร่างลากไปเกือบ 100 เมตร เสียชีวิต 
    ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวไม่ได้หยุดดูแต่อย่างใด รีบเร่งเครื่องขับหลบหนีไป ส่วนผู้ที่รับบาดเจ็บอีก 2 คนนั้น ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังมาแล้วประสบเหตุซ้ำซ้อนจนรถเสียหลักล้มทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง และติดตามรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวมาสอบสวนถึงสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
     มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ผู้เสียชีวิตทั้งสอง รวมทั้งผู้บาดเจ็บ ได้ไปร่วมงาน “รวมพลรถคลาสสิก” ที่มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์แบบคลาสสิกและแต่งซิ่ง ทั้งใน จ.ชุมพร และจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมงานจำนวนมาก โดยจัดขึ้นที่บริเวณสี่แยกสามหม้าย ริมถนนเอเชีย 41 ห่างจากที่เกิดเหตุเพียง 1 กิโลเมตร ในงานมีวงดนตรีวัยรุ่นมาร้องบรรเลงให้เต้นรำกันอย่างเต็มที่ และมีเบียร์ดังยี่ห้อหนึ่งเป็นสปอนเซอร์สนับสนุน
    ข่าวแจ้งว่า นโยบายกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ห้ามจัดงานลักษณะดังกล่าวอย่างเด็ดขาด แต่ผู้จัดงานซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วว่าเคยจัดงาน รวมพลเด็กแว้น รวมรถคลาสสิกในหลายจังหวัด ได้ขอใบอนุญาตจัดงานจากเจ้าหน้าที่ของ อ.หลังสวน และ สภ.บ้านในหูต อ้างว่าขอจัดงานผลไม้ 1 วัน จึงได้รับใบอนุญาต และก่อให้เกิดโศกนาฏกรรม
    วันเดียวกัน เวลา 06.30 น. ตำรวจทางหลวงรามอินทรารับแจ้งอุบัติเหตุบนถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันออก (ทล.9) มุ่งหน้าบางปะอิน กม.32+400 เบี่ยงจากทางพิเศษจตุโชติ ประมาณ 1 กม. จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด เอเวอเรสต์ ทะเบียน 7 กง 1726 กรุงเทพมหานคร ชนกับรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ สีเทา ทะเบียน งฉ 8831 ชลบุรี จนท้ายรถเก๋งมิตซูบิชิฉีกขาด ยุบหายไปเกือบครึ่งคัน มีผู้เสียชีวิต 2 คน ร่างกระเด็นตกพงหญ้าข้างทาง เป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน 
    ร.ต.อ.จำเริญ หนูรัก รองสารวัตรสอบสวน ทางหลวงรามอินทรา เปิดเผยว่า เบื้องต้นสอบถามพลเมืองดีผู้เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลว่า ชายคนขับรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ ขับแซงซ้ายออกมาแล้วชนเข้ากับรถยนต์มิราจที่จอดอยู่ในช่องทางฉุกเฉินเต็มแรง จากนั้นคนขับรถฟอร์ดได้ปีนรั้วหลบหนีไป
    ต่อมาตำรวจได้ตรวจสอบผู้ครอบครองรถยนต์ฟอร์ดจนทราบชื่อแล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และติดตามตัวผู้ขับขี่มาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
    เวลา 13.02 น. ร.ต.อ.สุพรรณ โสภี รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาจอมเทียน รับแจ้งรถเก๋งชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต บนถนนสายหลักชุมชนบ้านหนองจับเต่า บริเวณหน้าสวิส ชีพ ฟาร์ม (SWISS SHEEP FARM) ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงไปตรวจสอบ พบร่าง น.ส.กมลทิพย์ โคตรภัทร อายุ 29 ปี พนักงานฟาร์มแกะดังกล่าว นอนหายใจรวยริน พร้อมจักรยานยนต์ ทะเบียน ขลล 634 ระยอง สภาพหน้ารถพังยับเยิน ห่างออกไป 10 เมตร พบรถเก๋งมิตซูบิชิ มิราจ สีแดง ทะเบียน งย 2050 ชลบุรี มีร่องรอยการชน โดยมีนายศราวุฒิ สีหราช อายุ 24 ปี คนขับ 
    เบื้องต้น น.ส.นิภาพร เฉียงใต้ อายุ 30 ปี พยาบาล รพ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา และ น.ส.ชไมพร ขจร อายุ 30 ปี พยาบาล รพ.วิภาราม จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ขับรถผ่านมาประสบเหตุ ได้เร่งเข้าไปช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บด้วยการปั๊มหัวใจร่วมกับหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ก่อนนำตัวส่ง รพ.วัดญาณสังวรารามวรวิหาร แต่ น.ส.กมลทิพย์ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา สอบสวนนายศราวุธให้การว่า ขับรถจะไปพัทยา ระหว่างทางรถผู้ตายได้เร่งเครื่องแซงรถบัส ข้ามเลนมาพุ่งชนรถตนเอง ซึ่งกล้องหน้ารถสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ เข้าใจว่าผู้ตายเร่งเครื่องแซงข้ามเลนเพื่อหวังจะเลี้ยวเข้าที่ทำงานโดยไม่ทันระวังรถวิ่งสวนทาง.