ชัดเจนอีกราย ผู้ต้องหาคดีหวย 30 ล้าน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.และคณะ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเป็นครั้งที่สอง แจ้งความดำเนินคดี พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี 
    ฐานความผิดตาม ม.157 ปฏิบัติหน้าที่มิชอบหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย
    หลังก่อนหน้านี้ตั้งโต๊ะครั้งแรกแถลงออกหมายจับ ครูปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ กับ เจ๊บ้าบิ่น-รัตนาพร สุภาทิพย์ แม่ค้าขายลอตเตอรี่ในตลาดเรดซิตี้  
    ข้อหาแจ้งข้อความเท็จต่อพนักงานสอบสวนเพื่อแกล้งให้บุคคลอื่นต้องรับโทษ รวม 4 ข้อหา
    คดีหวย 30 ล้าน ตอนนี้มีผู้ต้องหาแล้ว 3 ราย!!!!!        
    และดูแนวโน้มจะมี ผู้ต้องหา เพิ่มขึ้นอีก ตามข้อมูลคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ที่บอกเอาไว้เมื่อ 2-3 วันก่อน มีผู้เกี่ยวข้องที่จะถูกออกหมายจับอีก 2-3 ราย
    แม้พฤติการณ์ของผู้การกาญจนบุรี ตามที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ และ พล.ต.ท.ฐิติราช บอกจะไม่เกี่ยวกับเรื่องทุจริต ไม่เกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ 
    โดย พล.ต.ท.ฐิติราช บอกว่า.....    
    "การดำเนินคดี พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีนั้น เบื้องต้นไม่พบว่ามีการทุจริต แต่ทำงานด้วยวุฒิภาวะที่ต่ำ ขาดประสบการณ์ และทักษะในการสอบสวนคดี ซึ่งหลังจากเรื่องนี้ฝ่ายทนายความออกมาเคลื่อนไหวชี้ประเด็นที่เป็นข้อพิรุธ ทำให้ พล.ต.ต.สุทธิตกใจ จึงตัดสินใจกอดคอกับครูปรีชาเพื่อให้เรื่องไปจบที่ศาล"
    พร้อมกับอธิบายว่า พล.ต.ต.สุทธิใช้ความเชื่อในการทำคดี จึงเข้าไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขสำนวนคำให้การต่างๆ ตามความเชื่อของตัวเองว่า ครูปรีชาเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ เพราะทั้งหมดในคำพูดของครูปรีชาในคดีนี้เหมือนการสะกดจิตหมู่ คิดแค่ว่าเพื่อทำให้สำนวนออกไปให้พ้นตัวตำรวจก่อน แล้วพยานหลักฐานต่างๆ ค่อยไปว่ากันในชั้นอัยการและศาล โดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานที่มีอยู่
    เอาวะ...เมื่อระดับ พล.ต.อ.และ พล.ต.ท.บอกคนระดับนายพล ระดับยศ พล.ต.ต. เป็นถึงผู้บังคับการจังหวัด เป็นนายตำรวจชั้นใหญ่สุดของเมืองกาญจน์ 
    "วุฒิภาวะต่ำ"
    เป็นสาเหตุการทำคดีบิดเบี้ยว ไม่เกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ ไม่เกี่ยวกับเรื่องทุจริต แบบที่ลือๆ กันในทำบองแบ่ง 50-50 จากยอด 30 ล้าน ก็คงต้องพยายามเข้าใจ และพยายามเชื่อตามนั้น
    เพราะ ผบ.ตร.จักรทิพย์ ก็การันตีด้วยตัวเอง
    "ในยุคนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน มีแต่ปลดออกหรือไล่ออกเท่านั้น" 
    ก็เอาตามที่ท่านทั้งหลายสบายใจแล้วกัน
    เพราะทุกๆ อย่างของการดำเนินการคดีนี้ นอกจากหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว  เรื่องศักดิ์ศรี ความน่าเชื่อถือของตำรวจ ก็เป็นอีกหนึ่งเดิมพันที่ตำรวจต้องพิสูจน์ เพราะคดีหวย 30 ล้าน  "ตำรวจ" เป็นตัวการสำคัญในการแก้สำนวน แทรกแซงชี้นำคดี จนชาวบ้านหวาดผวา ขาดความเชื่อมั่น
    หากยังมียักคิ้วหลิ่วตา มีนอกมีใน ผลก็จะท้อนกลับมาฟ้องตัวตนตำรวจเอง.