สลด!13อนาคตชาติดับ เมาฉลองชน'เสาไฟฟ้า'


เพิ่มเพื่อน    


    เศร้า! "นศ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ" กินเลี้ยงฉลองฝึกงานเสร็จจนเมา แห่ขึ้นรถกระบะไปดูหมอลำต่อ ขากลับเจอรถอีกคันซิ่งแข่งก่อนเสียหลักชนเสาไฟฟ้า ร่างกระเด็นเสียชีวิตเกลื่อนถนน 13 ศพ บาดเจ็บ 5 ราย "เลขาฯ กอศ." เสียใจส่ง สอศ.ช่วยเหลือเบื้องต้นศพละ 3,000 บาท "รองโฆษก ตร." เตือนเป็นอุทาหรณ์เมาไม่ขับ
    เมื่อวันที่ 29 ก.ย. เวลา 01.00 น. พ.ต.ท.สำราญ ช่วยท้าว สารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทางพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย ที่บริเวณถนนกิ่งแก้ว ปากทางเข้าซอยกิ่งแก้ว 21 มุ่งหน้าลาดกระบัง ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง หน่วยดับเพลิง อบต.ราชาเทวะ ไปตรวจสอบ
    ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมคซ์ ซูเปอร์แค็บ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ผจ 5322 ระยอง พลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้าอยู่ริมถนนในสภาพพังยับเยิน ใกล้กันมีร่างผู้เสียชีวิตกระจายเกลื่อนพื้นถนนจำนวน 12 ราย และยังพบผู้บาดเจ็บอาการสาหัสติดคาอยู่ในรถจำนวน 6 ราย เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 ต่อมาผู้ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิตเพิ่มอีก 12 ราย รวมมีผู้เสียชีวิต 13 ราย บาดเจ็บ 5 ราย
    สอบสวนทราบว่ารถกระบะคันดังกล่าวมีนายนิตยา สุขจันทร์ อายุ 27 ปี เป็นคนขับ ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ที่ถูกส่งมาฝึกงานที่อู่ซ่อมรถประกันกลาง ชื่ออู่ภัทร บอดี้ เซอร์วิส ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยกิ่งแก้ว 22/2 อำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ และในวันนี้เป็นการฝึกงานวันสุดท้ายของนักศึกษาทั้งหมด ทางอู่จึงได้จัดงานเลี้ยงส่งให้กับนักศึกษาที่มาฝึกงานกันที่อู่ดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนถึงช่วงหัวค่ำ ทุกคนต่างดื่มเหล้าดื่มเบียร์กันอย่างสนุกสนาน 
    กระทั่งในช่วงดึกผู้ตายและผู้บาดเจ็บได้ชักชวนกันไปดูคอนเสิร์ตหมอลำซิ่ง ที่แสดงอยู่ภายในซอยกิ่งแก้ว 2 ซึ่งระหว่างนั้นได้มีการพูดคุยกันผ่านไลน์ และก่อนที่กลุ่มผู้ตายจะเดินทางกลับยังได้มีการถ่ายรูปนั่งและยืนกันอยู่ที่ท้ายรถกระบะคันดังกล่าวส่งมาให้เพื่อนๆ ดู และพิมพ์ข้อความว่ากำลังกลับห้องพัก จนกระทั่งมาทราบอีกทีว่ารถกระบะคันดังกล่าวมาพลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จึงได้รีบเดินทางมาดูในที่เกิดเหตุ
    โชเฟอร์แท็กซี่ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้เห็นรถกระบะคันดังกล่าวขับออกมาจากซอยกิ่งแก้ว 2 ด้วยความเร็ว จนออกมาถนนกิ่งแก้วได้มาพบรถกระบะอีกคันหนึ่งที่แต่งซิ่ง ทั้งสองจึงได้ขับแข่งกันมาด้วยความเร็ว จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุรถนักศึกษาขับมาทางด้านเลนขวา อยู่ๆ ได้หักเข้ามาทางด้านเลนกลางอย่างกะทันหัน จึงทำให้รถเสียหลักพุ่งขึ้นไปปีนฟุตปาธข้างทาง ก่อนชนรั้วบ้านจนได้รับความเสียหาย และรถก็หมุนหลายตลบ กระแทกกับแท่งปูนแบริเออร์ที่กั้นอยู่เกาะกลางถนน จนล้มและกระเด็นกลับมาชนเข้ากับเสาไฟฟ้าข้างทางจนเสาไฟฟ้าขาดไป 2 ต้น ทำให้คนที่นั่งท้ายกระบะหลุดจากรถไปคนละทิศละทางเสียชีวิต รวมทั้งรถก็พลิกคว่ำทำให้คนที่นั่งอยู่ในตัวรถได้รับบาดเจ็บสาหัส
ญาติเศร้ารับศพนักศึกษา
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต 13 ราย ประกอบด้วย 1.นายโชคชัย ทานนท์ อายุ 21 ปี 2.นายสุริยัน สีถาน อายุ 20 ปี 3.นายนพรัตน์ ไชยรัตน์ อายุ 20 ปี 4.นายศุภพัชชา ดอกโศก อายุ 20 ปี 5.นายเทียนชัย ชนกเนตร อายุ 20 ปี 6.นายวีรวัฒน์ กล้าจริง อายุ 20 ปี 7.นายโกวิทย์ สิมลี อายุ 20 ปี 8.นายสุทิน จันทร์สมุทร อายุ 21 ปี 9.นายสุประชัย วรรณทวี อายุ 19 ปี 10.นายจักรพงษ์ มะโนรัตน์ อายุ 20 ปี 11.นายอุดม สานุการ อายุ 20 ปี 12.นายศุภวัฒน์ มาเสมอ อายุ 21 ปี 13.นายวรายุทธ ไชยปัญญา อายุ 21 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาลบางพลี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ประกอบด้วย 1.นายนิตยา สุขจันทร์ อายุ 25 ปี (คนขับรถ) 2.นายพุฒธพงษ์ รินรมย์ อายุ 21 ปี 3.นายรัณชัย สุขจันทร์ อายุ 21 ปี 4.น.ส.ยุพิน กรินกระโทก อายุ 21 ปี 5.นายวานนาค หม่อง (VANNAK MONG ) สัญชาติพม่า อายุ 20 ปี
    ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตทั้ง 13 รายได้ส่งไปชันสูตรที่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ อ.บางพลี โดยมี 9 รายเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ
    ต่อมานายชาติชาย อุทัยพรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมนางศศิวิมล อุทัยพรรณ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางมายังโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 เยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถกระบะชนเสาไฟฟ้าบนถนนกิ่งแก้ว บริเวณปากซอยกิ่งแก้ว 21 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จำนวน 3 ราย และเดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่ส่งโรงพยาบาลศิครินทร์ ซึ่งมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย และโรงพยาบาลบางพลี 1 ราย 
    นายชาติชายกล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ารถคันดังกล่าวมีประกันภัยหรือไม่อย่างไร รวมถึง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุและครอบครัวของผู้สูญเสีย
    ที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ พนักงานสอบสวนได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดวินาทีรถกระบะบรรทุกนักศึกษาฝึกงานวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าบริเวณซอยกิ่งแก้ว มาตรวจสอบรายละเอียด รวมทั้งเตรียมสอบปากคำผู้บาดเจ็บเพื่อนำไปประกอบสำนวน และเรียกพยานที่เห็นรถกระบะคันเกิดเหตุขับออกจากซอยกิ่งแก้วด้วยความเร็วสูง และขับเปลี่ยนเลนกะทันหัน ทำให้รถเสียหลักหมุนชนเสาไฟฟ้าข้างทาง มาให้ปากคำ 
    วันเดียวกัน แฟนเพจเฟซบุ๊ก ลำดวนมีเดีย วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า "กลับบ้านเรานะ ทั้ง 13 คน พี่น้องศรีสะเกษรออยู่" โดยมีข้อความเพิ่มเติมว่า "เวลา 14.00 น. จะนำร่างผู้เสียชีวิตเดินทางกลับ จ.ศรีสะเกษ ทั้งหมด 13 ราย รายละเอียดรอทางโรงพยาบาลแถลงข่าวอีกทีครับ"
    ที่บ้านหนองระเยียว ต.โนนปูน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของนายเทียนชัย ชนกเนตร อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้น ปวส.2 แผนกช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต มีญาติๆ และเพื่อนบ้านมาร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวจำนวนมาก รวมทั้งได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อรอรับศพจาก รพ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อสวดศพในช่วงค่ำ
    นายนิกร ลุมาศ อายุ 27 ปี ญาติของนายเทียนชัย กล่าวว่า ครอบครัวมีพี่น้อง 3 คน นายเทียนชัยเป็นลูกคนที่ 2 เป็นคนนิสัยดี ใช้งานง่าย ชอบช่วยงาน คนในหมู่บ้านต่างรักและชื่นชม ขณะทำงานน้องก็จะส่งเงินมาให้ทางบ้านทุกๆ เดือน เดือนละ 10,000 บาท ปกติน้องจะเป็นคนไม่ค่อยชอบกินชอบเที่ยว แต่ครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะไปเพราะถูกเพื่อนๆ ชวน คงเห็นว่าไปฉลองก่อนจบฝึกงาน
ชี้อุทาหรณ์เมาแล้วขับ
    ด้านนายอักษรศิลป์ แก้วมหาวงศ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ กล่าวว่า หลังทราบข่าวคณะครูต่างรู้สึกเสียใจมาก ต้องยอมรับว่าเด็กๆ ที่ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ทุกคนล้วนเป็นเด็กนิสัยดี เบื้องต้นได้เรียกประชุมคณะครูด่วน พร้อมแบ่งคณะครูออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ ชุดที่ 1 จะไปประสานงานเรื่องต่างๆ กับโรงพยาบาล และส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ง่ายต่อการที่ญาติๆ จะไปขอรับตัว, ชุดที่ 2 จะลงพื้นที่ตามบ้านของเด็กนักเรียน เพื่อดูแลช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ และชุดที่ 3 จะเป็นกลุ่มที่จะคอยประสานงานกับผู้ปกครองที่มีความพร้อมและพาไปรับตัว รับศพเด็กนักศึกษาที่ประสบอุบัติเหตุในครั้ง
    "จะขอความอนุเคราะห์ไปยัง ดร.ฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ ประธานมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในการรับศพมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อเยียวยาและลดค่าใช้จ่ายวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ขอรับปากจะช่วยน้องๆ ญาติๆ ผู้ประสบเหตุอย่างเต็มที่ และให้ดีที่สุด" ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษกล่าว
    ขณะที่นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งทาง กอศ.ได้มอบหมายให้มีการจัดแบ่งคณะดูแลช่วยเหลือเป็น 13 ชุด ตั้งแต่การนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศล และเรื่องที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะมีคำสั่งมอบหมายผู้รับผิดชอบอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นทาง สอศ.จะช่วยเหลือค่าชันสูตรศพ 3,000 บาทต่อราย
    ส่วน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอยากให้ยกเป็นอุทาหรณ์ถึงผู้ใช้รถใช้ถนน การโดยสารในกระบะหลังที่ไม่มีที่นั่งและเข็มขัดนิรภัยมีความเสี่ยงสูงที่จะบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตหากเกิดอุบัติเหตุ ประกอบกับการขับรถในลักษณะสุ่มเสี่ยง ใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แซงตัดหน้ากระชั้นชิด ขับรถหย่อนประสิทธิภาพ หรือเมาสุรา รวมไปถึงผู้โดยสารนั่งท้ายรถกระบะมีการดื่มสุราหรือหย่อนขาขณะรถวิ่ง อย่ากระทำเด็ดขาดเพราะเป็นอันตราย
    "พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการกองบัญชาการทุกภาคส่วนให้ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลด้านความปลอดภัยบนท้องถนน ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมาย พร้อมสร้างช่องทางในการรับรู้ให้กับประชาชนเล็งเห็นความสำคัญในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย เคารพกฎจราจร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งตัวผู้ขับขี่และผู้ร่วมทางเพื่อสร้างความปลอดภัย" รองโฆษก ตร.กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"