ทอนเคลียร์บลายด์ทรัสต์ พปชร.ข้องใจจี้โชว์อีเมล


เพิ่มเพื่อน    

  อัยการสั่งไม่ฟ้อง "ธนาธร" กับพวกไลฟ์สดวิจารณ์พลังดูด คสช. "ช่อ" ไม่แปลกใจ เผยยังมีอีกหลายคดี ชวน ปชช.จับตากระบวนการยุติธรรมปลอดการแทรกแซงทางการเมืองหรือไม่  "ธนาธร" ดิ้นแก้ตัวไม่ได้ทำบลายด์ทรัสต์ เปิด จม.ขอโทษบริษัทตั้งแต่ 26 ส.ค. อ้างเหตุศาล รธน.สั่งห้ามปฏิบัติหน้าที่ "ทิพานัน" จับผิดแค่ “ขอโทษ” ไม่ใช่ “ขอเลื่อน” สงสัยเลิกสัญญาแล้ว เหตุจดหมายแจ้งเงื่อนไขลงนามใหม่อีกรอบหากได้กลับเข้าสภา

    ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 1 ตุลาคม พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา นัดฟังคำสั่งคดีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, นายไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนพรรค และ น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรค ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในข้อหาที่พนักงานสอบสวน ปอท.นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องในความผิดฐานร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 (แก้ไขฉบับที่ 2 พ.ศ.2560) มาตรา 14 (2) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จากกรณีผู้ต้องหาร่วมกันจัดรายการ “คืนวันศุกร์ให้ประชาชน” ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ในเพจอนาคตใหม่-The Future We Want และเพจ Thanathorn Juangroongruangkit วิจารณ์กระแสข่าวกรณีพลังดูดของรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
    ในวันนี้ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความของนายธนาธร,  น.ส.จารุวรรณ และนายไกลก้อง รับมอบอำนาจเดินทางมาฟังคำสั่งคดีจากพนักงานอัยการ โดยนายกฤษฎางค์เปิดเผยว่า วันนี้อัยการได้แจ้งว่าอธิบดีอัยการสำนักคดีอาญามีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายธนาธร, นายไกลก้อง และ น.ส.จารุวรรณ ส่วนรายละเอียดเหตุผลนั้น ทางอัยการสำนักงานคดีอาญายังไม่ได้แจ้งความเห็นมา เนื่องจากขั้นตอนหลังจากนี้ อัยการจะต้องส่งความเห็นสั่งไม่ฟ้องดังกล่าวไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อทำความเห็นกลับมายังพนักงานอัยการว่าเห็นพ้องกับอัยการหรือเห็นแย้ง  หากตำรวจเห็นพ้องด้วย คดีถือเป็นอันยุติ แต่หากตำรวจเห็นแย้ง  ตามขั้นตอนก็ต้องนำความเห็นส่งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดต่อไป 
    เมื่อถามว่า หากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เห็นพ้องด้วย หรือสุดท้ายแล้วคดีชี้ขาดไม่ฟ้อง จะมีการดำเนินคดีกลับต่อเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องหรือผู้แจ้งความหรือไม่ นายกฤษฎางค์กล่าวว่า เรายังไม่ได้คุยกันถึงเรื่องนี้ ที่อัยการสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากต้องเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่การกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีการไลฟ์สดจริง สุดท้ายแล้วเราก็ต้องค่อยพิจารณาหลังจากที่คดีนี้มีความเห็นเด็ดขาดสิ้นสุดลงก่อน แต่คดีนี้ผู้ต้องหาก็ถือว่าได้รับความเสียหายไปแล้ว
    น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตนและพรรคอนาคตใหม่ไม่แปลกใจที่อัยการมีความเห็นไม่สั่งฟ้องคดีนี้ เพราะเชื่อมั่นว่าเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะการวิจารณ์รัฐบาลทหาร ที่ใช้ภาษีประชาชนโดยขาดการตรวจสอบถ่วงดุลจากสภา เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ และพรรคการเมืองยิ่งควรทำ ในฐานะตัวแทนของประชาชน
    “นี่เป็นคดีแรกที่แกนนำพรรคอนาคตใหม่ถูกยกฟ้อง แต่ยังมีอีกหลายคดี ขอให้ประชาชนช่วยกันจับตา เพราะการตัดสินใจของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกกระบวนการของคดี จะเป็นบทพิสูจน์ว่ากระบวนการยุติธรรมไทยปกป้องคุ้มครองประชาชนได้จริงหรือไม่ ปลอดจากการแทรกแซงทางการเมืองจริงหรือไม่” น.ส.พรรณิการ์กล่าว
    ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีที่ยังไม่โอนทรัพย์สินให้บลายด์ทรัสต์ว่า "ผมยืนยันเจตจำนงเดิมที่จะนำทรัพย์สินให้บุคคลที่สามบริหารในรูปแบบ Blind Trust" สืบเนื่องจากการที่มีสื่อมวลชนบางสำนักตั้งข้อครหาหลังจากที่ผมเปิดเผยทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ตามกฎหมายเมื่อต้นเดือนกันยายน ว่าผมไม่ได้โอนทรัพย์สินเข้า Blind Trust ตามที่เคยพูดไว้กับประชาชน เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของผม ผมขอแนบจดหมายที่ผมส่งถึงบริษัทที่ผมตั้งใจมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินแทนผมเพื่อให้สาธารณะตัดสินเจตนารมณ์ของผมอย่างเป็นกลาง
    จดหมายนี้ผมเขียนขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม และส่งทางอีเมลให้บริษัทดังกล่าววันที่ 26 สิงหาคม เดิมทีจดหมายนี้เขียนเพื่อขอโทษและชี้แจงต่อผู้บริหารบริษัทสองบริษัทที่จะเกี่ยวข้องกับธุรกรรมดังกล่าวเป็นการส่วนตัว แต่การโจมตีเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของผมทำให้ผมตัดสินใจเปิดเผยจดหมายฉบับนี้
    ผมยืนยันเจตนาที่จะทำงานการเมืองที่โปร่งใส ผมกล่าวขอโทษบริษัททั้งสองที่เกิดการล่าช้าของการทำตามแผน เพราะการสั่งห้ามผมปฏิบัติหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ผมเขียนชัดเจนว่าหากคำสั่งห้ามปฏิบัติหน้าที่ถูกยกเลิก ผมจะทำตามแผนที่เราวางไว้โดยเร็ว จดหมายถูกส่งทางอิเล็กทรอนิกส์ สามารถสอบทานวันเวลาส่งได้ ปลายทางสามารถยืนยันวันเวลาส่งได้เช่นกัน วันที่ดังกล่าวเกิดก่อนการตั้งข้อครหาจากสื่อบางสำนัก ดังนั้นจดหมายนี้น่าจะพอยืนยันเจตนาของผมที่ตั้งใจทำสิ่งที่พูดไว้ได้
    ผมและชาวอนาคตใหม่ตั้งพรรคนี้ขึ้นมาเพื่อสร้างประชาธิปไตยที่ยั่งยืน, ปฏิรูปกองทัพ ยุติวงจรรัฐประหารอุบาทว์, ปฏิรูประบบรัฐราชการรวมศูนย์, สร้างรัฐสวัสดิการ ให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตที่มั่นคง และคงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์, สร้างเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมก้าวหน้า ยกเลิกทุนผูกขาดให้หมดสิ้น และปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้คนทุกคนเสมอภาคอย่างแท้จริงต่อหน้ากฎหมาย
    "ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าผมไม่ได้ตั้งพรรคนี้มาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือเพื่อพวกพ้อง ผมตั้งพรรคนี้เพื่อทำให้ความฝันเหล่านั้นเป็นจริง ผมจะพิสูจน์ให้กลุ่มคนที่โจมตีผมด้วยอคติเพื่อให้ประชาชนเกลียดชังผมดู ว่าพวกเขาคิดผิดขอให้ทุกท่านหนักแน่น และเดินทางด้วยกันต่อไป จนกว่าฝันของเราจะเป็นจริง"
    นอกจากนี้ นายธนาธรได้เผยแพร่ แปลภาษาไทยของจดหมาย ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2019 ถึง : ฝ่ายบริหารของบริษัท... เรื่อง : ทิศทางของแผนการจัดการทรัพย์สิน เรียน : คุณ... ระบุว่า ผมเขียนจดหมายนี้ขึ้นมาเพื่อยืนยันความตั้งใจในการเดินหน้าแผนการบริหารจัดการทรัพย์สินที่เราได้ตกลงร่วมกันไว้ ผมเข้าใจว่าสถานการณ์การเมืองในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาทำให้คุณอาจมีข้อสงสัยถึงอนาคตของแผนดังกล่าว 
    ไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร ความตั้งใจแต่แรกเริ่มของผมยังคงแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลง นั่นก็คือการพยายามสร้างบรรทัดฐานใหม่ของความโปร่งใสตรวจสอบได้ สำหรับนักธุรกิจที่หันมาทำงานการเมือง ผมต้องการพิสูจน์ตัวเองว่าการเข้าสู่การเมืองของผมไม่เคยเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ส่วนตน แต่มีเป้าหมายสูงสุดคือการรับใช้ประชาชนของประเทศอันเป็นที่รักของเรา และสร้างประชาธิปไตยที่ยั่งยืนสถาพรให้กับคนรุ่นต่อไป
    ด้วยเหตุดังที่กล่าวมานี้ หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ์ผมในฐานะสมาชิกรัฐสภา เราจะระงับแผนการจัดการทรัพย์สินดังกล่าวจนกว่าผมจะดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ซึ่งหวังว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ แต่หากศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ผมกลับมาทำหน้าที่สมาชิกรัฐสภาตามเดิม เราจะลงนามในสัญญาและเริ่มต้นการบังคับใช้แผนการดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ผมขอมอบอำนาจในการจัดการตกลงรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับสัญญา ให้กับ... หากยังมีข้อติดขัดใดๆ หลงเหลืออยู่ และโปรดเตรียมสัญญาให้พร้อม เพื่อบังคับใช้ได้ทันทีในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่เป็นคุณกับผม
    "สุดท้ายนี้ โปรดรับคำขอโทษจากผม ที่ผมไม่สามารถบอกกล่าวข้อความสำคัญนี้กับคุณด้วยตัวเองได้ ทุกวันนี้เวลาเป็นสิ่งมีค่าที่ผมขาดแคลนอย่างมาก หวังว่าคุณจะเข้าใจและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในเรื่องนี้" จดหมายระบุ 
     ขณะที่ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า จดหมายที่นายธนาธรเปิดเผยนั้น อาจเป็นเพียงจดหมายส่วนตัวเพื่อขอโทษที่ไม่ทำตามข้อตกลงนำทรัพย์สินเข้าบลายทรัสต์เท่านั้น ไม่น่าจะเป็นหนังสือขอเลื่อนการปฏิบัติตามข้อตกลงตามที่กล่าวอ้าง เพราะจดหมายส่วนตัวดังกล่าวลงวันที่ 22 สิงหาคม 2562 หลังจากวันที่นายธนาธรทราบคำสั่งศาลให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ถึง 3 เดือน และจดหมายส่วนตัวดังกล่าวใช้เวลาเกือบ 1 สัปดาห์ในการส่งทางอีเมลโดยที่ไม่แสดงหลักฐานการส่งอีเมลด้วย การที่นายธนาธรโพสต์ข้อความพร้อมจดหมายดังกล่าวน่าจะหวังผลในการประชาสัมพันธ์ชวนเชื่อกู้ภาพลักษณ์ของตน เพราะจดหมายดังกล่าวไม่มีผลทางกฎหมาย
    "เมื่ออ่านและแปลใจความย่อหน้าที่ 3 โดยละเอียด สามารถเข้าใจว่าจดหมายนี้กล่าวถึงการพักการดำเนินการตามแผนในกรณีที่นายธนาธรถูกตัดสิทธิ์ในฐานะสมาชิกรัฐสภาเหตุขาดคุณสมบัติ (disqualify) ไม่ใช่จดหมายการขอเลื่อนการปฏิบัติตามข้อตกลง เพราะถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราว (suspension) ตามที่เคยอ้าง และเมื่ออ่านข้อความต่อมาในย่อหน้าเดียวกัน ที่ระบุว่า  “หากศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้ผมกลับมาทำหน้าที่สมาชิกรัฐสภาตามเดิม เราจะลงนามในสัญญาและเริ่มต้นการบังคับใช้แผนการดังกล่าวโดยเร็วที่สุด” นั้น เมื่อพิจารณาความหมายในประโยค “... we would sign the deals ...” จึงเกิดความสงสัยว่า ที่ผ่านมานายธนาธรได้ลงนามแล้วจริงหรือไม่ หรืออาจมีการทำหนังสือทางการเพื่อขอยกเลิก MOU ที่ลงนามโชว์สื่อไปแล้ว ดังนั้นจึงต้องมีการลงนามในสัญญาหากศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่"
     น.ส.ทิพานันกล่าวทิ้งท้ายว่า การเปิดเผยเพื่อความโปร่งใส ควรเป็นการเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนทราบก่อนที่ข้อมูลนั้นจะถูกเปิดเผยและตั้งคำถามโดยสาธารณชน การที่นายธนาธรชี้แจงรายละเอียดเป็นเพียงการตอบคำถามที่ประชาชนสงสัยถึงปมการปกปิดข้อมูลเท่านั้น ไม่น่าจะถือว่าเป็นมาตรฐานจริยธรรมทางการเมืองใหม่ที่มีความโปร่งใสหรือเปิดเผยแต่อย่างใด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"