'เหวง'ชม'ลูกชาย'เพ้อ'ชิมช้อปใช้'ปูพื้นสู่ค่ายกักกัน เป็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์!


เพิ่มเพื่อน    

3 ต.ค 62 - นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) แชร์โพสต์นายสลักธรรม โตจิราการ บุตรชาย พร้อมโพสต์ข้อความว่า "ความรู้วิทยาศาสตร์ ที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยทุกๆคน และเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ในโลกนี้ทุกๆคน เพื่อรักษาสิทธิแห่งความเป็นมนุษย์ขั้นพื้นฐาน ของมนุษย์ทุกๆคนที่เท่าเทียมกันครับ"

สำหรับโพสต์ของนายสลักธรรม ระบุว่า "จากการเขียนสตาตัสเรื่อง “สแกนหน้าในชิมช้อปใช้” ทำให้มีหลายท่านมาแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งจะขออนุญาตตอบเฉพาะที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ ส่วนที่โจมตีเรื่องส่วนตัวอื่นๆ ผมคิดว่าคงเพราะไม่สามารถถกเถียงอย่างเป็นวิทยาศาสตร์กับผมได้ ก็คงได้แค่แผ่เมตตา เพราะสติปัญญาคงไม่เพียงพอที่จะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดได้

เดี๋ยวจะอธิบายเป็นข้อๆนะครับ

-“รัฐบาลมีภาพของเราที่ถ่ายตอนทำบัตรประชาชนอยู่แล้ว เราถ่ายภาพให้รัฐบาลไปอีกรอบไม่น่าจะมีผลอะไรมั้ง?”

ตอบ: ประเด็นของเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเก็บภาพคนซึ่งรัฐมีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่คือการทดลองเอารูปถ่ายในสถานการณ์จริงที่ไม่ได้มีการควบคุม(รูปที่ถ่ายเพื่อเปิด”ชิมช็อปใช้”) เปรียบเทียบกับรูปในฐานข้อมูลของรัฐที่มีอยู่ (ตัวอย่างที่เอามาได้เช่นรูปจากฐานข้อมูลบัตรประชาชน) เวลาถ่ายแล้ว “ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน” ก็สามารถเอาข้อมูลตรงนี้มาปรับปรุง “ระบบจดจำใบหน้า” ให้แม่นยำขึ้น

-“กูเกิล เฟซบุค ก็มีการพัฒนาการจดจำใบหน้าอยู่แล้วเหมือนกัน”

ตอบ:ลองคิดดูนะครับว่า หากรัฐบาลไทยมีข้าราชการทุจริตจำนวนไม่น้อยสิงสู่อยู่ เกิดมีศักยภาพในการใช้ระบบจดจำใบหน้าทัดเทียมกับกูเกิล เฟซบุค น่ากลัวแน่นอน

-“ถ้าเราเป็นคนดี ระบบจดจำใบหน้าที่รัฐบาลไทยทำไม่น่ากลัวหรอกมั้ง?”

ตอบ: ระบบจดจำใบหน้าแบบนี้อาจถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเอาไปใช้ ถ้าผนวกกับระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ และใส่ชื่อเราเป็นบุคคลที่”ต้องสงสัย”แค่เราก้าวเท้าไปไหนที่มีกล้องวงจรปิด กล้องจะส่งภาพและตำแหน่งของเราไปให้”ส่วนกลาง” เรื่องนี้น่ากลัวอย่างไร ผมจะยกตัวอย่างซัก2อันให้เห็นความน่ากลัวนะครับว่าอะไรจะเกิดขึ้น

ตัวอย่างที่ 1 ถ้าเราไปรื้อเรื่องทุจริตของข้าราชการหรือตำรวจระดับสูงที่เข้าถึงข้อมูลพวกนี้ ข้าราชการกังฉินคนนั้นรู้โดยอัตโนมัติว่าเราอยู่ไหน แปลว่าเขาจับตาเราได้ทุกฝีก้าว อยากจะอุ้มฆ่าเราเมื่อไหร่ก็ได้สบายเลยครับ

ตัวอย่างที่ 2 หากผู้นำทางการเมืองอย่างประยุทธ์เกิดอยากจะจับกุมคนเห็นต่างทางการเมือง ก็ย่อมรู้โดยอัตโนมัติว่าผู้เห็นต่างทางการเมือง หรือผู้ร่วมชุมนุมอยู่ที่ไหน แล้วสามารถตามจับได้ รวมถึงตามคุกคามพ่อแม่พี่น้องญาติสนิทมิตรสหายโดยง่าย

ถ้าคุณคิดว่า “ระบบนี้ดีเอาไว้จัดการพวกเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมืองหรือพวกซอมบี้ส้ม” ผมอยากให้คุณลองคิดดู “เกิดวันหน้าทักษิณหรือธนาธรขึ้นมามีอำนาจแล้วลุแก่อำนาจใช้วิธีแบบนี้ขึ้นมา จะน่ากลัวแค่ไหน?” ถ้าคุณไม่อยากเสี่ยงจะโดนเล่นงานในอนาคต ก็ลองฟังที่ผมว่ามาบ้างเถอะครับ

ผมเองเสนอว่า ในการใช้ฐานข้อมูลระบบจดจำใบหน้า รัฐต้องมีความโปร่งใส ถ้าจะสร้างต้องมีการขอจากสภาเป็นเรื่องราว มีคณะกรรมการตรวจสอบจากภายนอกว่าจะใช้เพื่อกิจการใด และผู้ที่ถูกระบบจดจำใบหน้าของรัฐละเมิดต้องมีสิทธิ์เอาผิดรัฐและเจ้าหน้าที่รัฐที่ละเมิดได้โดยง่ายและรวดเร็ว"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"