จับมือเผาแฟนสาว


เพิ่มเพื่อน    


    กองปราบฯ ตามจับหนุ่มโหดหนีกว่า 17 ปีคดีบุกทำร้าย นศ.ปวส.แฟนสาวแล้วจุดไฟเผาคาหอพักจนกลายเป็นผู้พิการป่วยติดเตียง ให้การปฏิเสธทุกข้อหา แม่ผู้เสียหายเตรียมพาลูกสาวไปดูหน้า
    เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมนี้ ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. มอบหมาย พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย สว.กก.5 บก.ป., พ.ต.ต.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5 บก.ป. แถลงผลจับกุมนายคำรณ หรือบังหนิด สมญาพิทักษ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/2 หมู่ 14 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 181/2547 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2547 ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน จับกุมได้ในตลาดเทศบาลหนองหญ้าไซ หมู่ 5 ต.หนองหญ้าไซ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี
    พ.ต.อ.เนติกล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2545 ได้มีคนร้ายใช้ของแข็งตี น.ส.วรรณา ศรียาไพ ขณะนั้นอายุ 20 ปี เป็นนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยพาณิชย์ชื่อดังใน จ.นครศรีธรรมราช จนสลบ ก่อนจุดไฟเผา แล้วหยิบเอาเงินสด 4,500 บาท และทองรูปพรรณของผู้เสียหาย รวมกว่า 2 หมื่นบาทหลบหนีไป เหตุเกิดภายในหอพักแห่งหนึ่ง หลังถนนสายอ้อมค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังเกิดเหตุผู้เสียหายมีสภาพบาดแผลถูกไฟเผาตามตัวบาดเจ็บสาหัส กลายเป็นผู้พิการป่วยติดเตียง แขนขาลีบ ไม่สามารถสื่อสารได้ โดยมีนางกอลิเย๊าะ ศรียาไพ อายุ 63 ปี มารดาเป็นผู้ดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำและพาไปรักษาตัว ทำกายภาพบำบัดจนเวลาผ่านไป 6 เดือน น.ส.วรรณาก็สามารถให้การว่าคนที่ก่อเหตุคือนายคำรณ หรือบังหนิด แฟนเก่าที่โกรธแค้นที่ตนขอแยกทาง
    พ.ต.อ.เนติกล่าวว่า จากนั้นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้สอบถามพยานรายหนึ่งจนทราบว่า วันเกิดเหตุเห็นนายคำรณขี่จักรยานยนต์มาหา น.ส.วรรณา ที่หอพัก แล้วได้ยินเสียงทะเลาะกัน สักพักก็เงียบไป กระทั่งเห็นนายคำรณรีบขี่จักรยานยนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมหลักฐานก่อนเสนอศาลขออนุมัติออกหมายจับนายคำรณ และสามารถตามจับกุมมาส่งฟ้องศาล ระหว่างนั้นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ลาออก ทำให้ส่งผัดฟ้องไม่ทัน ผู้ต้องหาจึงหลบหนีไปนานกว่า 17 ปี กระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา นางกอลิเย๊าะได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ และเมื่อเดือนที่แล้วได้มาร้องตำรวจกองปราบปรามให้ช่วยติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี เพราะคดีใกล้หมดอายุความ
    ต่อมาตำรวจกองปราบปรามได้ลงพื้นที่หาข่าวของผู้ต้องหา จนทราบว่าก่อนหน้านี้ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่กับญาติในหลายจังหวัด ไม่ทำบัตรประชาชนและไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ กระทั่งล่าสุดสืบทราบว่าหนีไปขายพริกแกงใต้อยู่กับญาติที่ตลาดเทศบาลหนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี จนมีภรรยาและลูกชาย 1 คน จึงวางแผนเข้าจับกุมได้ดังกล่าว จากการสอบสวนนายคำรณให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงนำส่ง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    ด้านนางกอลิเย๊าะกล่าวภายหลังทราบข่าวว่าตำรวจกองปราบฯ ตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุทำร้ายบุตรสาวของตัวเองจนกลายเป็นผู้พิการว่า ต้องขอขอบคุณ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. ที่ตามจับกุมผู้ต้องหาที่ทำร้ายลูกสาวตนเองมาดำเนินคดีได้ เพราะเวลาผ่านมา 17 ปี ผู้ต้องหายังลอยนวล ทั้งนี้ ตนร้องเรียนไปตามหน่วยงานต่างๆ หลายที่ แต่เรื่องเงียบทุกครั้ง เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทั่งกองปราบปรามเข้าช่วยเหลือจับกุมได้ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลังจับกุมคนร้ายได้ ตนบอกกับลูกสาวในเรื่องนี้ ปรากฏว่าลูกสาวแสดงสีหน้าดีใจจนน้ำตาซึม จากนั้นจะพาครอบครัวและลูกสาวเดินทางไปยัง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดูหน้าคนร้ายด้วย. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"