ชุมชนเบอร์ 5


เพิ่มเพื่อน    

                การใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันนั้นค่อยข้างมีความเสรี เนื่องจากการเข้าถึงที่มากขึ้น ทำให้ประชาชนทั่วไปนั้นสามารถจะใช้ไฟได้อย่างไม่จำกัดหากมีกำลังซื้อเพียงพอ และธุรกิจพลังงานเองก็เติบโตอย่างต่อเนื่องเพราะความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นว่าบางทีคนที่ใช้พลังงานก็อาจจะไม่ได้คำนึงถึงการประหยัดเลยก็ได้  เนื่องจากมองว่าเป็นสิ่งที่ยังสามารถใช้ได้ไปอีกหลายปี และจะมีเทคโนโลยีอื่นๆ มาทดแทน

                แต่ทั้งนี้คนเหล่านั้นลืมคำนึงไปว่าต้นทุนที่จะต้องนำเข้าเชื้อเพลิงเพื่อมาผลิตไฟฟ้านั้นก็มีมาตลอดเวลา และแนวโน้มก็จะเพิ่มขึ้นหากความต้องการใช้ไฟฟ้านั้นสูงขึ้นด้วย จึงทำให้เป็นปัญหาตามมาในอนาคต ขณะที่ในส่วนของผู้ใช้ทั่วไปนั้นก็จะได้รับผลกระทบหากต้นทุนจะต้องเพิ่มขึ้นก็จะมากระทบกับค่าไฟฟ้าทั้งระบบ ขณะที่พลังงานทดแทนเองที่เข้ามาในระบบก็ไม่ได้มีราคาที่ถูก

                จึงเป็นจุดที่ต้องติดตามความชัดเจนและวิธีการแก้ไขปัญหาว่าจะทำอย่างไรให้การใช้พลังงานนั้นอยู่ในสัดส่วนที่พอดี  และไม่ส่งผลกระทบต่อในอนาคตและผู้ใช้ทั่วไปที่อาจจะไม่มีกำลังซื้อมากนัก แม้ที่ผ่านมาจะมีโครงการที่ช่วยกันรณรงค์การประหยัดไฟมาอย่างต่อเนื่อง แต่การที่จะให้เห็นเป็นรูปธรรมนั้นจะต้องให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมและดำเนินการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการติดตามผลอย่างใกล้ชิด

                ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่มีกำลังซื้อมากพอ ก็ต้องมีแนวทางการดำเนินชีวิตแบบไม่ให้เดือดร้อนตัวเอง โดยอาศัยการประหยัดพลังงานเข้ามาเป็นเครื่องมือ ซึ่งเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ดำเนินการพัฒนาต้นแบบชุมชนประหยัดพลังงานเบอร์ 5 แห่งแรกในภาคกลาง ที่ชุมชนเทศบาลตำบลเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี

                ซึ่งเป็นการขยายผลเพื่อปลูกจิตสำนึกและส่งเสริมให้ชุมชนใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจัดกิจกรรมรณรงค์ผ่านสถานศึกษาที่เป็นเครือข่ายในโครงการห้องเรียนสีเขียวของ กฟผ. ไปสู่ชุมชนรอบโรงเรียน ซึ่ง กฟผ.ร่วมให้ความรู้ ให้คำปรึกษา และช่วยวางแผนการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพให้กับชุมชน เพื่อยกระดับพัฒนาให้เป็นชุมชนต้นแบบการประหยัดพลังงานและเป็นศูนย์กลางถ่ายทอดความรู้ ขยายผลไปสู่ชุมชนใกล้เคียงได้มาศึกษาเรียนรู้ อันจะช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนด้านการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

                นายประเสริฐ อินทับ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ กล่าวว่า ตำบลเอราวัณนับเป็นชุมชนประหยัดพลังงานเบอร์ 5 แห่งแรกในภาคกลาง ซึ่งในระยะแรกนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการถึง 56 ครัวเรือน นำร่องจาก 4 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนตลาดสดเทศบาล ชุมชนบ้านเอราวัณ ชุมชนทิวไผ่ และชุมชนจามจุรี โดยภายในชุมชนได้จัดให้มีแหล่งเรียนรู้ชุดสาธิตเปรียบเทียบหลอดไฟ บ้านประหยัดพลังงานเบอร์ 5 ซึ่งเป็นบ้านตัวอย่างการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย รวมถึงร้านค้าจำหน่ายหลอดไฟที่ติดฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ซึ่งจากการร่วมแรงร่วมใจกันของทุกภาคส่วน ช่วยให้สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในชุมชนได้ประมาณ 8,075 หน่วยต่อปี หรือคิดเป็นมูลค่า 40,375 บาทต่อปี

                และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 4,700 กิโลกรัมต่อปี ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีชุมชนประหยัดพลังงานเบอร์ 5 แล้วจำนวน 2 ชุมชนในภาคเหนือและภาคใต้ ได้แก่ ชุมชนบ้านปวงสนุก จังหวัดเชียงใหม่ และชุมชนบ้านคลองยาง จังหวัดกระบี่ โดย กฟผ.มีเป้าหมายให้เกิดชุมชนประหยัดพลังงานเบอร์ 5 ทั่วประเทศ ประมาณ 10 ชุมชน ภายในปี 2565

                อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่างถือว่าเป็นเรื่องที่ควรสนับสนุนและต่อยอด โดย กฟผ.เองก็จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้เปิดเชิญชวนให้ชุมชนทุกแห่งทั่วประเทศร่วมเป็นหนึ่งในชุมชนประหยัดพลังงานเบอร์ 5 เพื่อรณรงค์ให้เกิดการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าภายในชุมชนอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ช่วยลดค่าใช้จ่าย ตลอดจนเป็นการปลูกจิตสำนึกการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมให้กับประชาชน อันจะนำไปสู่การขยายผลต่อชุมชนใกล้เคียงและประเทศอย่างยั่งยืน. 

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"