อุทธรณ์ยืนคุก10ปี ลุงวิศวะยิงวัยรุ่น


เพิ่มเพื่อน    

 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำคุกลุงวิศวะ 10 ปี ชี้สมัครใจที่จะวิวาทกับกลุ่มผู้ตาย ซึ่งหากจำเลยมีสติ รู้จักยับยั้งชั่งใจ จอดรถรอสักพักให้โทสะคลายลงแล้วค่อยขับออกไป เหตุทะเลาะวิวาทก็คงไม่เกิดขึ้นแน่นอน แต่กลับรีบตามไปยั่วยุเนื่องเพราะถือว่ามีปืนติดตัว กระทั่งเหตุการณ์รุนแรงจึงต้องชักปืนออกมายิง

    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ตุลาคมนี้ ที่ศาลจังหวัดชลบุรี นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 52 ปี เดินทางไปยังศาลพร้อมภรรยา เพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีตกเป็นจำเลยฆ่าผู้อื่น กรณีนายสุเทพมีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่น และถูกกลุ่มวัยรุ่นกรูเข้าล้อมรถเก๋งพยายามทำร้าย นายสุเทพจึงใช้ปืนยิงสวนจนเป็นเหตุให้นายนวพล หรือปอน ผึ่งผาย อายุ 17 ปี เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณสามแยกถนนอ่างศิลา ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 4 ก.พ.2561 โดยศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุกนายสุเทพ หรือลุงวิศวะ เป็นเวลา 15 ปี ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือ 10 ปี ปรับคดีอาวุธปืน 2,000 บาท ให้จ่ายค่าสินไหมทดแทน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี 
    จากนั้น ผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 2 ระบุว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า เมื่อพวกของผู้ตายขับรถยนต์ตู้มาจอดที่หน้าร้านขายของฝาก กีดขวางทางออกของจำเลย แล้วมีการโต้เถียงกันนั้น ยังไม่ปรากฏว่ามีถ้อยคำพูดที่ไม่สุภาพจากฝ่ายใด แต่หลังจากจำเลยกะพริบไฟใส่รถตู้ และบีบแตรหลายครั้ง จำเลยเริ่มใช้คำพูดไม่สุภาพ ในลักษณะยั่วโทสะของผู้ตาย โดยขณะนั้นจำเลยมีอาวุธปืนของกลางอยู่ใกล้ตัว แสดงว่าจำเลยและภริยามีโทสะ และพร้อมที่จะมีเหตุวิวาทกับพวกของผู้ตาย การที่จำเลยอุทธรณ์อ้างว่าเหตุการณ์ในขณะนั้นมีปากเสียงกันเพียงเล็กน้อยและจบลงแล้ว จึงฟังไม่ขึ้น 
    เมื่อพวกของผู้ตายขับรถยนต์ตู้และรถยนต์เก๋งออกไปแล้ว หากจำเลยมีสติ รู้จักยับยั้งชั่งใจอารมณ์ร้อนบ้าง โดยจอดรถรอสักพักหนึ่งก่อน เพื่อให้โทสะคลายลงแล้วค่อยขับรถออกไป เหตุทะเลาะวิวาทในคดีนี้คงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่จำเลยกลับขับรถตามไปในทันที ขับแซงรถยนต์ตู้บีบแตรยาวใส่ แสดงให้เห็นว่าจงใจเจตนายั่วโทสะพวกของผู้ตาย มิใช่การบีบแตรเตือน ดังที่จำเลยอ้างในอุทธรณ์
    จำเลยขับไปอยู่ด้านหน้า เมื่อพวกของผู้ตายซึ่งขับตามรถจำเลยมาบีบแตรยาวและเปิดไฟสูงใส่รถจำเลย อันเป็นการส่งสัญญาณความไม่พอใจและท้าทาย จำเลยก็ชะลอความเร็วลงจนเกือบจะหยุดรถ เพื่อให้พวกผู้ตายขับชนท้ายและบีบแตรรถในลักษณะส่งสัญญาณโต้ตอบกลับไป อันเป็นการรับคำท้าทายของฝ่ายผู้ตายกับพวก ทั้งมีเจตนายั่วโทสะฝ่ายผู้ตายให้เพิ่มมากขึ้น และไม่กรงกลัววจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน เหตุที่จำเลยมีพฤติการณ์เช่นนี้ ก็เนื่องจากจำเลยมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย แสดงให้เห็นถึงนิสัยและพฤติกรรมของจำเลยว่าพร้อมที่จะสมัครใจวิวาท
    นอกจากนี้ จำเลยยังขับรถปาดหน้าและขัดขวางมิให้รถยนต์เก๋งของพวกผู้ตายขับต่อไปได้ แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาวิวาทกับผู้ตายและพวกมาตลอดเส้นทาง จนกระทั่งถึงที่เกิดเหตุจำเลยก็ยังมีเจตนาวิวาทอยู่ เมื่อจำเลยเห็นว่าผู้ตายกับพวกมากันหลายคนก็เริ่มเกิดความกลัว แต่ยังคงพูดกับผู้ตายและพวกด้วยน้ำเสียงดุดัน ในลักษณะไว้ท่าทีว่าจะเอาเรื่อง มิใช่คำพูดในทำนองขอโทษการกระทำของตน หรือแสดงให้เห็นว่าไม่อยากมีเรื่องหรือให้เลิกแล้วกันไป แม้ฝ่ายผู้ตายกับพวกทำร้ายร่างกายจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นต่อเนื่องเชื่อมโยงกันมา ไม่ขาดตอนนับระยะเวลาตั้งแต่ต้นจนจบเพียง 5 นาทีเศษ ตามพฤติการณ์ เป็นกรณีจำเลยเป็นผู้เริ่มต้นก่อให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาท และเมื่อจำเลยยั่วโทสะท้าทายจนฝ่ายผู้ตายโต้ตอบ และสมัครใจร่วมวิวาทกับจำเลยแล้ว จำเลยจึงไม่อาจกล่าวอ้างว่าฝ่ายผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุ และเมื่อเหตุการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น จำเลยจึงจำต้องชักปืนออกมายิงเพื่อป้องกันชีวิตของจำเลยและคนในครอบครัว อันเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
    หลังคำพิพากษา นายสุเทพได้ให้ทนายความยื่นคำร้องขอประกันตัวเพื่อขอสู้คดีต่อในชั้นฎีกา ด้วยเงินสดจำนวน 874,000 บาท พร้อมกล่าวว่า ยอมรับในคำตัดสินของศาล แต่ต้องการสู้เพื่อให้ความจริงปรากฏ อีกทั้งตนยังมีปัญหาในเรื่องสุขภาพ เป็นโรคเบาหวานและอีกหลายโรค
    ขณะที่มารดาผู้เสียชีวิตกล่าวว่า รู้สึกพอใจคำตัดสินของศาล ทำให้เห็นถึงความยุติธรรมมีจริง ซึ่งรู้สึกเหนื่อยมากกับการเดินทางมาศาลในระยะ 2 ปี โดยหลังเกิดเรื่อง ทางฝ่ายจำเลยก็ยังไม่มีการพูดคุยกันเลย รวมถึงไม่มีการจ่ายสินไหมทดแทนอีกด้วย.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"