แม้รอบนี้ พรรคพลังชล ไม่ได้เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของ พรรคร่วมรัฐบาล แต่พรรคพลังชลก็ไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ในสารบบการเมือง รอจังหวะโอกาสหน้า ค่อยคิด ค่อยว่ากันอีกที

                ‘สุระ เตชะทัต’ จากโฆษกพรรค วันนี้พาสชั้นมาเป็นแม่บ้านพรรค คอยทำหน้าที่เลขาธิการพรรค ดูแลความเรียบร้อยทั้งเรื่องภายในพรรค เรื่องภายนอกพรรค เรื่องเกี่ยวกับข่าวสารบ้านเมือง ยังติดตามอย่างใกล้ชิด แต่เป็นพวกเฝ้ามองสถานการณ์ ไม่ค่อยอยากออกมาให้ความเห็นสักเท่าไหร่

                สิ่งที่อดเป็นห่วงไม่ได้ หนีไม่พ้นเรื่องชาวไร่ ชาวสวน ชาวนา ในฐานะที่ใกล้ชิดพี่น้องประชาชน แวะเวียนเดินทาง กรุงเทพฯ โคราช บ่อยครั้ง ยามกลับไปบ้าน สบโอกาสมีเวลา ก็ไปรับฟังเรื่องปัญหาพืชผลการเกษตรตกต่ำ พร้อมทั้งรับฟังเสียงสะท้อนเรื่องอื่นๆ ด้วย ทั้งเรื่องน้ำแล้ง น้ำไม่พอ หรือน้ำหลาก

                ไม่กี่วันก่อน ปะหน้าเจ้าตัว ยังไม่ทันไถ่ถามเหตุบ้านการเมือง เจ้าตัวชิงให้ความเห็นทันที

                "ที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนไม่ได้เจอแค่ปัญหาน้ำท่วมที่พี่น้องชาวอุบลราชธานี สกลนคร ขอนแก่น ประสบพบเจอ แต่พี่น้องชาวอีสานในสุรินทร์ บุรีรัมย์ ก็ต้องเจอกับปัญหาภัยแล้งเหมือนกันเพียงแต่ช่วงที่เกิด เรื่องน้ำท่วมใหญ่กว่า แต่ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ภัยแล้ง ก็ได้เห็นการเข้าไปให้ความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงาน รวมถึงจากประชาชนด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ภัยแล้ง น้ำท่วม แต่คนไทยไม่เคยแล้งน้ำใจ ไม่ว่าจะภัยแล้ง น้ำท่วม แต่สำหรับราคาพืชผลเกษตร มันสำปะหลัง ข้าวโพด ราคาก็ไม่ดีขึ้นมาเลย ชาวไร่ ชาวสวน ต่างบ่นออกมาเหมือนกัน"         ช่วงยังไม่ได้ลุยในสนามการเมืองเต็มตัว มีเวลาแวะเวียนไปหาพี่น้องชาวสวน ชาวไร่ น้ำไม่พอ น้ำขาด ปัญหาอื่นอีกจิปาถะ ด้วยความที่ยังพอมีพรรคพวก เพื่อนพี่น้องข้าราชการ อะไรที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรง ไม่ผิดกฎเกณฑ์ เดอะมืด ยกหูประสานงานอย่างทันท่วงที

                ซักซ้อมบทบาทมิสเตอร์คอนเน็กชั่น ติดต่อประสานงาน นอกสภาไปพลางๆ ก่อน 

ม้าไม้