
"ครม." เคาะโครงการชิมช้อปใช้ เฟส 2 เปิดลงทะเบียนรอบใหม่เพิ่มอีก 3 ล้านคน แบ่งเป็น 2 รอบ เช้าเริ่ม 06.00 น. เย็น 18.00 น. วันละ 1 ล้านคน ดีเดย์ตั้งแต่ 24 ต.ค.นี้ "คลัง" เผยแจกเงิน 1 พันบาทเข้ากระเป๋าเหมือนเดิม "สมคิด" มั่นใจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจดีขึ้น
เมื่อวันที่ 22 ต.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ซึ่งติดภารกิจเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ถึงโครงการชิมช้อปใช้เฟส 2 ว่า ที่ประชุม ครม.ได้พิจารณาโครงการชิมช้อปใช้ เฟส 2 และได้อนุมัติแล้ว
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (รมว.การคลัง) แถลงว่า ครม.ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2562 หรือมาตรการชิมช้อปใช้ ระยะที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจจากมาตรการระยะแรก โดยมาตรการชิมช้อปใช้เฟส 2 จะเปิดให้ผู้ที่ไม่เคยรับสิทธิ์มาลงทะเบียนรอบใหม่เพิ่มอีก 3 ล้านคน โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค.นี้
นายอุตตมกล่าวว่า กระทรวงการคลังได้ปรับเวลาลงทะเบียนใหม่ จากเดิม 00.00 น. โดยแบ่งเป็น 2 รอบ รอบละ 5 แสนราย รอบแรกเริ่ม 06.00 น. และรอบที่ 2 ลงทะเบียน 18.00 น. โดยจะยังจำกัดจำนวนวันละ 1 ล้านคน ซึ่งมาตรการชิมช้อปใช้เฟส 2 สามารถใช้สิทธิ์ได้ถึงวันที่ 31 ธ.ค. ขณะที่ร้านค้าก็สามารถรับสมัครได้ถึง 31 ธ.ค.ด้วยเช่นกัน
"ผู้ที่ลงทะเบียนชิมช้อปใช้ เฟส 2 จะได้รับเงินสนับสนุน 1,000 บาท เข้ากระเป๋า G-Wallet ที่ 1 และเงินชดเชย (Cash Back) 15% หรือ 4,500 บาท ของยอดใช้จ่ายไม่เกิน 3 หมื่นบาท ในกระเป๋า G-Wallet ที่ 2 และจะได้รับสิทธิ์เงินชดเชย 20% ของยอดใช้จ่าย ตั้งแต่ 30,001 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท หรือ 4,000 บาท โดยสิทธิ์นี้จะครอบคลุมถึงผู้ที่ลงทะเบียนร่วมโครงการ 10 ล้านคนแรกด้วย" นายอุตตมกล่าว
รมว.การคลังกล่าวว่า คลังได้ตั้งงบประมาณอุดหนุนมาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 2 อีก 2,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับความสนใจจากประชาชนใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งสาเหตุที่ไม่สามารถรับเพิ่มได้เกิน 3 ล้านคน เพราะต้องมีงบประมาณให้ใช้อย่างจำกัด โดยพยายามเต็มที่ในการออกชุดมาตรการเพื่อประคองเศรษฐกิจ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าเศรษฐกิจโลกมีปัญหา ทำให้บอกไม่ได้ 100% ว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเป็นอย่างไร แต่กระทรวงการคลังก็จะพยายามทำให้เต็มที่ที่สุด เพื่อให้การขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้เติบโตได้ใกล้เคียงที่เป้าหมาย 3% ซึ่งคลังจะมีการติดตามข้อมูลแบบไตรมาสต่อไตรมาสและสิ้นปีก็จะมาดูผลของมาตรการอีกครั้ง
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ในส่วนมาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 1 ที่เปิดรับลงทะเบียน 10 ล้านคน และให้มีการใช้จ่ายภายใน 14 วัน ขณะนี้มียอดใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 1 แล้วกว่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนผู้ลงทะเบียนทั้งหมด มีผู้ที่ไม่ใช้สิทธิ์หรือนำเงินไปใช้จ่ายได้ทันในกำหนดเวลารวมกว่า 9 แสนราย
“ขณะนี้ สศค.อยู่ระหว่างการสรุปในรายละเอียดกับ รมว.การคลัง เพื่อสรุปจำนวนคนที่ลงทะเบียนเพิ่ม โดยเบื้องต้นจะได้สิทธิ์ใช้เงิน g-Wallet ในกระเป๋าเงินช่องที่ 2 เท่านั้น แต่จะมีการสิทธิ์จูงใจเพิ่มเติมจากคืนเงินให้ 15% ของการใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท หรือได้เงินคืน 4,500 บาท เป็นได้คืนเงิน 20% โดยหากฝ่ายนโยบายเห็นชอบก็จะให้สิทธิ์ดังกล่าวกับผู้ที่ได้สิทธิ์ในเฟส 1 ด้วย”นายลวรณกล่าว
ผอ.สศค.ยืนยันว่า เป้าหมายของมาตรการชิมช้อปใช้นั้น เป็นการพยุงเศรษฐกิจไทยในระยะสั้นไม่ให้ชะลอตัวลงตามเศรษฐกิจโลก ผ่านการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว
ส่วนนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ยืนยันธนาคารมีความมั่นใจว่าระบบแอปพลิเคชันของธนาคารทั้งถุงเงินและเป๋าตังมีความพร้อมในการรองรับร้านค้า และผู้ลงทะเบียนรับสิทธิได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นในเฟสที่ 2 KTB ขอเชิญชวนผู้รับสิทธิตามมาตรการชิมช้อปใช้ เมื่อใช้จ่ายผ่านกระเป๋า G-Wallet 1 รับสิทธิ 1,000 บาทครบแล้ว ยังสามารถใช้สิทธิในกระเป๋า G-Wallet 2 เพื่อรับเงินคืนสูงสุด 20% หรือประมาณ 8,500 บาท โดยขั้นตอนจะต้องเติมเงินผ่านการสแกน QR Code ด้วยแอปฯ ของทุกธนาคาร โดยเข้าไปที่แอปฯ เป๋าตัง เลือกกดสัญลักษณ์รูป QR Code (เติมเงิน G-Wallet ) ด้านบนมุมซ้าย ต่อมาทำการบันทึกรูปภาพ QR Code ลงในโทรศัพท์ หลังจากนั้นเข้าแอปฯ ธนาคารของท่าน และกดเลือกสแกน QR-Code จากรูปภาพที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์ และใส่จำนวนเงินที่ต้องการเติมเงิน
นายผยงกล่าวว่า มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเฟสที่ 2 ขั้นตอนการลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิจะเหมือนเฟสที่ 1 โดยลงทะเบียนผ่าน WWW. ชิมช้อปใช้.com กรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัว พร้อมเลือกจังหวัดที่ประสงค์จะเดินทางไปใช้สิทธิ โดยไม่ใช่จังหวัดตามสำเนาทะเบียนบ้าน หลังจากนั้นภายใน 3 วันธนาคารจะส่ง SMS เพื่อให้โหลดแอปฯ "เป๋าตัง" โดยไม่ต้องมีบัญชีธนาคารกรุงไทย เพื่อรับสิทธิ 1,000 บาท ผ่านกระเป๋า G- Wallet 1
"ผู้ได้รับสิทธิสามารถเติมเงินในกระเป๋า G- Wallet 2 ใช้จ่ายในร้านที่ร่วมโครงการชิมช้อปใช้ได้ทุกจังหวัดที่ไม่ตรงกับทะเบียนบ้าน เพื่อรับสิทธิเงินคืน โดยยอดใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท รับเงินคืน 15% และยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท รับเงินคืน 20% หรือสูงสุด 8,500 บาท โดยผู้รับสิทธิตามมาตรการชิมช้อปใช้ เฟสที่ 1 และเฟสที่ 2 สามารถใช้จ่ายผ่านกระเป๋า G- Wallet 2 ได้ถึงวันที่ 31 ธ.ค.62" กก.ผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทยกล่าว
ขณะที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการชิมช้อปใช้ เฟส 2 ยังจำเป็นต้องแจกเงิน 1,000 บาทให้แก่ผู้ลงทะเบียน เพราะเป็นเครื่องมือหนึ่งในการส่งเสริมให้ประชาชนใช้จ่ายเงินกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น และที่ผ่านมามองว่าประชาชนใช้จ่ายเงินคล่องมากขึ้น นับว่าการออกโครงการชิมช้อปใช้เป็นวิธีการที่ได้ผล เพราะดึงดูดให้ประชาชนผู้ลงทะเบียนออกไปใช้จ่ายต่างจังหวัดมากขึ้น และยังดึงดูดให้ร้านค้ารายย่อย รายใหญ่ รายใหม่นับแสนรายเข้ามาร่วมโครงการมากขึ้น รัฐบาลจึงต้องเร่งพัฒนาระบบข้อมูล Big Data เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกับหลายหน่วยงานของรัฐเพื่อรองรับการให้สวัสดิการรูปแบบต่างๆ เพิ่มเติม
"ตัวเลขการส่งออกเดือนกันยายน แม้ติดลบร้อยละ 1.4 ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีสำหรับประเทศไทย เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และไทยยังมีสินค้าอีกหลายกลุ่มสามารถทำตลาดเพื่อการส่งออกได้ เช่น สินค้าเกษตร และสินค้าทำตลาดเฉพาะกลุ่มในประเทศเป้าหมาย" นายสมคิดกล่าว
นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยไม่ได้แย่เหมือนที่หลายฝ่ายกังวล เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังเข้มแข็ง และการชะลอตัวลักษณะดังกล่าวเป็นแบบนี้มานานหลายปี เศรษฐกิจไทยยังดำเนินอยู่ไปได้ เศรษฐกิจไทยจึงไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด สิ่งที่หลายฝ่ายกังวลคือ กำลังซื้อของรายย่อยที่ขาดหายไป จึงต้องเติมกำลังซื้อรูปแบบต่างๆ เช่น ชิมช้อปใช้ เพื่อให้ภาคเกษตร ร้านค้ารายย่อย วิสาหกิจชุมชน มีอำนาจซื้อเพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด เพื่อประคองเศรษฐกิจไทยให้เหมาะสม ยอมรับว่าเงินบาทแข็งค่าส่งผลดีต่อการลงทุน นำเข้าเครื่องมือเครื่องจักรเข้ามาขยายการลงทุน เพื่อพัฒนาโครงสร้างหลักของประเทศ.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |