แทงเกาหลีไส้ไหล ไม่แตะเงิน4แสน!


เพิ่มเพื่อน    


    นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีถูกคนร้ายแทงยับ 17 แผลไส้ทะลักเลือดโชกอยู่ในรถบีเอ็ม โชคดีเจอแท็กซี่ผ่านไปพบนำส่งโรงพยาบาลเยียวยาทัน เผยเป็นโปรกอล์ฟหันมาทำธุรกิจสปาที่พัทยา ตำรวจคาดขัดแย้งธุรกิจเพราะทิ้งเงิน 4 แสนไว้ รู้ตัวแล้วเป็นคนชาติเดียวกัน เร่งสกัดตามชายแดน สนามบินกันหลบหนี 
    เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 24 ตุลาคมนี้ ร.ต.อ.โรมรัน ศรีไกรภักดิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนสายโรงหมู ซอยเขาตาโล ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ พบนายปาร์ค จินฮุง (PARK JIN HYUNG) อายุ 28 ปี สัญชาติเกาหลี ถูกของมีคมแทงเข้าที่ร่างกายรวม 17 แผลจนลำไส้ทะลัก นอนจมกองเลือด อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเร่งให้การปฐมพยาบาลก่อนเคลื่อนย้ายตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน
    จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 5 สีขาว หมายเลขทะเบียนป้ายแดง ม 9933 กรุงเทพมหานคร จอดไว้ในลักษณะสวนเลน โดยที่ประตูด้านหลังถูกเปิดทิ้งไว้และที่เบาะหลังยังมีคราบเลือดจำนวนมาก นอกจากนั้นยังพบอาวุธมีด 1 เล่ม และถุงมือตกอยู่บริเวณคอนโซล นอกจากนี้ยังพบกุญแจรีโมตรถยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ และเงินสดอีกจำนวน 4 แสนบาทตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
    นายวิเชียร วิยาสิงห์ อายุ 33 ปี คนขับแท็กซี่พลเมืองดี ให้การว่า ขณะกำลังขับรถกลับที่พัก สังเกตเห็นรถยนต์คันดังกล่าวจอดเปิดไฟส่องสว่างอยู่ในเลนของตัวเอง จึงชะลอรถดู แต่ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่ามีผู้ชายวิ่งออกจากรถในสภาพเลือดโชกไปทั้งตัว มานั่งอยู่หน้ารถตน พร้อมตะโกนให้ช่วยเหลือ บอกว่าถูกคนในรถที่หลบหนีไปแล้วทำร้าย
    ส่วน น.ส.อำพา พากิ่ง อายุ 31 ปี แฟนสาวของผู้บาดเจ็บ หลังทราบเหตุได้เดินทางไปที่โรงพยาบาล และให้ปากคำตำรวจว่า สาเหตุการทำร้ายในครั้งนี้ตนไม่ทราบ เพราะแฟนหนุ่มไม่เคยมีปัญหากับใคร
    จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ตำรวจพบว่ามีลักษณะค่อนข้างเปลี่ยว และขณะนี้ผู้บาดเจ็บยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเนื่องจากอาการโคม่า ส่วนสาเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพุ่งเป้าไปที่การขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ หรือปัญหาส่วนตัว เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ประสงค์ต่อทรัพย์ และคาดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 คน ทั้งนี้ ยังได้เก็บหลักฐานจากลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายที่คาดว่าน่าจะหลงเหลืออยู่ที่ตัวรถ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    ต่อมาช่วงเที่ยง พล.ต.ท.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่ จ.ชลบุรี พร้อมหน่วยพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัด พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา และตำรวจ สภ.หนองปรือ ตรวจเก็บหลักฐานเพิ่มเติมและประชุมคลี่คลายคดีนี้ 
    พล.ต.ท.เชษฐากล่าวว่า คดีอุกฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว ทางตำรวจท่องเที่ยวจึงเข้ามาสนับสนุนตำรวจท้องที่ สภ.หนองปรือ เพื่อช่วยสืบสวน เบื้องต้นจากการสอบถามข้อมูลผู้บาดเจ็บก็พอจะทราบตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว น่าจะเป็นคนสัญชาติเดียวกัน ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ ส่วนจะมีใครนั่งมาในรถด้วยกี่คนนั้น อยู่ระหว่างการสืบสวน พร้อมกันนี้ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตามช่องทางทั้งด้านสนามบินและชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนีออกนอกประเทศ ส่วนชนวนเหตุสันนิษฐานไว้ทั้งเรื่องชิงทรัพย์และขัดแย้งส่วนตัว
    พล.ต.ท.เชษฐากล่าวด้วยว่า อาการของผู้บาดเจ็บยังอยู่ในขั้นตอนการรักษาของแพทย์โรงพยาบาลชลบุรีอย่างใกล้ชิด ทราบว่าผู้บาดเจ็บเคยเป็นโปรกอล์ฟ มาเที่ยวพัทยาบ่อย และทำธุรกิจเกี่ยวกับสปา.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"