แห่ลงทะเบียน ชิมช้อปใช้เฟส2 จำกัด3ล้านคน


เพิ่มเพื่อน    

 นายกฯ ขอดูฟีดแบ็ก “ชิมช้อปใช้ เฟส 2" ค่อยผุดมาตรการใหม่ ลั่นไม่ได้ทำงานด้วยปากเปล่า แต่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วย อ้างธนาคารโลกจัดอันดับหลายอย่างดีขึ้น “อุตตม” ปลื้ม! เฟส 2 ยังแรง ประชาชนให้ความสนใจล้นหลาม ยันจำกัดแค่ 3 ล้านคนไม่มีขยายเพิ่ม ระบุเป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้ว

    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 24 ตุลาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงโครงการชิมช้อปใช้ เฟส 2 ที่ได้รับความนิยมจากประชาชน จะมีอะไรเพิ่มเติมออกมาอีกหรือไม่ ว่าต้องดูงบประมาณที่รัฐบาลมีอยู่ ดูผลตอบแทน การประเมินวิเคราะห์ต่างๆ ซึ่งต้องทำงานร่วมกันทั้งหมด และวันนี้ไม่ได้ทำงานด้วยปากเปล่าหรือเอกสารอย่างเดียว แต่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วย หากมองตัวเลขจีดีพีอาจจะดูว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก จะขึ้นนิดขึ้นหน่อยไม่เป็นไร ถือเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายเงินหมุนเวียนในระบบให้ทั้งผู้ผลิต ผู้ซื้อ ผู้ใช้ การกระจายสินค้าและการขนส่งให้มีรายได้เพิ่มขึ้นในวงจร โดยเฉพาะการลงทุนขนาดใหญ่ จะทำให้เพิ่มมากขึ้น 
    "หากย้อนไปดูสถิติที่ธนาคารโลกจัดลำดับมา หลายอย่างเราดีขึ้น และมีหลายอย่างที่เขาเตือนอาเซียนหลายประเทศที่มีรายได้สูง จีดีพีลดลงทุกประเทศ เนื่องจากสงครามการค้าเป็นประเด็นสำคัญ เพราะทั้งหมดต้องพึ่งปลายทางคือตลาดโลก โดยเฉพาะสินค้าเกษตร แต่ตอนนี้ทุกชนิดมีปัญหาหมด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
     นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ได้เปิดให้มีการลงทะเบียนมาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 2 เป็นวันแรก โดยรอบแรกเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 06.00 น. จำกัดจำนวนที่ 5 แสนคน พบว่ามีผู้ลงทะเบียนครบตามจำนวนที่เวลา 07.18 น. ถือว่ามาตรการได้รับความสนใจเป็นอย่างดี โดยจะมีการเปิดให้ลงทะเบียนอีกรอบในเวลา 18.00 น. อีกจำนวน 5 แสนคน ซึ่งมองว่าการกำหนดจำนวนผู้ลงทะเบียนมาตรการชิมช้อปใช้ในเฟส 2 ที่จำนวน 3 ล้านคน เป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้ว และยังไม่มีแนวคิดที่จะขยายจำนวนผู้ลงทะเบียนเพิ่ม
     ทั้งนี้ เป้าหมายของมาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 2 คือต้องการกระตุ้นให้ผู้ได้สิทธิ์ใช้จ่ายเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ 2 (g-wallet 2) จึงมีการให้แรงจูงใจเพิ่ม จากเดิมการใช้จ่าย 30,000บาทแรก จะได้รับเงินชดเชย 15% หรือไม่เกิน 4,500 บาท แต่ในเฟส 2 ขยายเพิ่ม โดยการใช้จ่ายในส่วนที่เกิน 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท จะได้รับเงินชดเชย 20% หรือไม่เกิน 4,000 บาท น่าจะเป็นแรงจูงใจเพียงพอ ทำให้คนมาใช้จ่ายผ่าน g-wallet 2 มากขึ้น
    “หลังจากนี้ต้องขอเวลาประเมินผลของมาตรการอีกระยะหนึ่ง เพราะได้มีการขยายเวลามาตรการจากเดิมสิ้นเดือน พ.ย. ไปถึง สิ้นเดือน ธ.ค.2562 ถือเป็นช่วงเวลาที่มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น” นายอุตตมกล่าว
    รมว.การคลังกล่าวว่า นอกจากนี้มาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 2 ยังได้รับความร่วมมือจากธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารพาณิชย์ในการลงพื้นที่เพื่อจูงใจให้ร้านค้าและผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงมาเข้าร่วมในมาตรการมากขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้จ่ายผ่าน g-wallet 2 โดยเฉพาะในช่วงการท่องเที่ยวช่วงสิ้นปี
     ขณะเดียวกัน ได้ขยายสิทธิให้ผู้ประกอบการโรงแรม เช่ารถ บริษัททัวร์ในธุรกิจท่องเที่ยว สามารถนำสาขาทุกแห่งที่มีอยู่เข้าร่วมในมาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 2 ได้ทั้งหมด จากเดิมที่กำหนดว่าจะต้องเลือกเพียงจังหวัดเดียว ก็จะทำให้ผู้ได้สิทธิ์มีทางเลือกในการใช้จ่ายและท่องเที่ยวมากขึ้น เช่น ผู้ประกอบการโรงแรมมีสาขาเปิดอยู่ทั่วประเทศ 13 แห่ง ก็สามารถนำสาขาที่มีอยู่ทั้งหมดเข้าร่วมมาตรการได้
     นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า เชื่อว่าผู้ได้สิทธิ์จะมีการใช้จ่ายเงินผ่านกระเป๋าเงินช่องที่ 2 มากขึ้น เนื่องจากมีการให้สิทธิประโยชน์มากขึ้น มีการใช้เงินชดเชยเพิ่มขึ้น 20% จะเป็นแรงจูงใจที่ดีขึ้น การเติมเงินเข้ากระเป๋า 2 ง่ายขึ้น และจำนวนร้านค้าเข้าร่วมโครงการมีมากขึ้น เปิดกว้างขึ้น สามารถจัดโปรโมชั่นร่วมการขายได้ การปรับเวลาการลงทะเบียน จะทำให้ได้กลุ่มคนทำงาน ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น รวมถึงร้านค้าที่ร่วมโครงการจะไม่ถูกตรวจสอบภาษี
    ทั้งนี้ ประเมินว่าถ้าคนที่ได้สิทธิ์ตามมาตรการชิมช้อปใช้มีการใช้จ่ายเงินในกระเป๋า 2 เฉลี่ยคนละ 5,000 บาท ก็จะทำให้มียอดใช้จ่ายสูงถึง 5 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมกับวงเงินในกระเป๋าเงินช่องที่ 1 อีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จะทำให้มีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจช่วงปลายปีถึง 6 หมื่นล้าน
     “ยืนยันว่าผู้ลงทะเบียนชิมช้อปใช้เฟสแรกจำนวน 9.3 แสนคน ที่ได้สิทธิ์ แต่ไม่มีการใช้เงินผ่านกระเป๋าเงินช่องที่ 1 และ 2 จะถูกตัดสิทธิ์ และไม่สามารถมาลงทะเบียนในเฟส 2 ได้” นายลวรณ กล่าว.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"