“คลัง” สุดปลื้มธนาคารโลกขยับอันดับทำธุรกิจไทย 6 อันดับ


เพิ่มเพื่อน    

25 ต.ค.2562 นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ได้เผยแพร่การจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจประจำปี 2563 (Doing Business 2020) ของประเทศต่าง ๆ รวม 190 ประเทศ ปรากฏว่า ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ 21 ดีขึ้น 6 อันดับ จากอันดับที่ 27 ในปีที่แล้ว โดยประเทศไทยได้รับคะแนน 80.10 คะแนน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1.65 คะแนน ถือเป็นอันดับที่ดีที่สุดของไทยในรอบ 6 ปี และมีคะแนนขึ้นมาใกล้เคียงกับประเทศสิงคโปร์ ซึ่งอยู่อันดับที่ 2 ที่ 86.20 คะแนน และมาเลเซีย ซึ่งอยู่อันดับที่ 12 ที่ 81.50 คะแนน

ทั้งนี้ การที่ประเทศไทยมีอันดับดีขึ้นในครั้งนี้เป็นผลจากความพยายามของภาครัฐในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ ทั้งความพยายามลดขั้นตอนการขออนุมัติ หรือการนำระบบดิจิทัลเข้ามาให้บริการภาครัฐ รวมถึงการปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับบริบททางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ดีขึ้น รวมถึงการคุ้มครองผลประโยชน์ของนักลงทุน

“รายงานฉบับนี้สะท้อนถึงความสำเร็จของประเทศไทยในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการประกอบธุรกิจในรอบปีที่ผ่านมา” นายอุตตม กล่าว

โดยด้านที่ไทยได้รับอันดับดีขึ้นและคะแนนสูงขึ้นมีอยู่ 2 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านการขออนุญาตก่อสร้าง (Dealing with Construction Permits) ที่ประเทศไทยมีอันดับดีขึ้นจากอันดับที่ 67 ที่ 71.86 คะแนน ในปีที่แล้ว เป็นอันดับที่ 34 ที่ 77.30 คะแนน ในปีนี้ เป็นผลมาจากการดำเนินการลดขั้นตอนในการขออนุญาตก่อสร้าง (Procedures) ลงจาก 19 ขั้นตอน เหลือ 14 ขั้นตอน และลดระยะเวลาดำเนินการ (Time) ลงจาก 118 วัน เหลือ 113 วัน

และ 2. ด้านการคุ้มครองผู้ลงทุนเสียงข้างน้อย (Protecting Minority Investors) โดยประเทศไทยมีอันดับที่ดีขึ้นจากอันดับที่ 15 ที่ 75.00 คะแนนในปีที่แล้ว เป็นอันดับที่ 3 ที่ 86.00 คะแนนในปีนี้ จากคะแนนด้านการคุ้มครองสิทธิของผู้ถือหุ้น (Ease of Shareholder Suits Index) ที่เพิ่มขึ้นจาก 8 คะแนนเป็น 9 คะแนน โดยมีคะแนนเต็มอยู่ที่ 10 คะแนน 

อย่างไรก็ดี ประเทศไทยยังจำเป็นต้องดำเนินการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้มีความสะดวกและเอื้อต่อการแข่งขันของผู้ประกอบการในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ในระยะยาว และผลประโยชน์จากการปฏิรูปสภาพแวดล้อมทางธุรกิจจะนำมาซึ่งการเพิ่มการลงทุนและมีการจ้างงานคุณภาพมากขึ้นในอนาคต

“อันดับด้านการชำระภาษีของไทยในปีนี้ ลดลงมาอยู่ที่ 68 จากปีก่อนอยู่ที่อันดับ 59 แต่คะแนนใกล้เคียงกับของเดิม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะธนาคารโลกยังใช้ข้อมูลประกอบการพิจารณาของปี 2561 แม้ว่าปัจจุบันกรมสรรพากร ซึ่งรับผิดชอบในส่วนนี้จะมีการพัฒนาและปรับปรุงระบบให้ทันสมัยมากขึ้นแล้ว จึงได้กำชับกรมสรรพากรและกรมจัดเก็บที่เกี่ยวข้องในการสร้างความเข้าใจผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ และการเข้าถึงบริการที่พัฒนามากขึ้น” นายอุตตม กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"