โจรใต้บึ้มจนท.เจ็บ4นาย รับ‘บิ๊กป้อม’ตรวจยะลา


เพิ่มเพื่อน    

 โจรใต้ลอบวางระเบิดที่ยะลารับ "บิ๊กป้อม" ลงพื้นที่ เจ้าหน้าที่เจ็บ 4 นาย รถพังทั้งคัน ขณะส่งกำลังพลป่วยเป็นไข้หวัดไปโรงพยาบาล

    เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 26 ตุลาคม 2562 ศูนย์วิทยุ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด ชป.ร้อย.ทพ.3301 ฉก.ทพ.33 ขณะเดินทางด้วยรถยนต์ที่ บ.วังหิน ม.8 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10ยะลา เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
         ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บค 4058 ยะลา สภาพถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหาย ห่างจากตัวรถที่บริเวณพงหญ้าริมถนน พบหลุมที่เกิดจากแรงระเบิด จึงได้กั้นบริเวณเพื่อทำการตรวจเก็บหลักฐาน 
    ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.บันนังสตา ทราบชื่อคือ ส.ต.ดำรงค์ฤทธิ์ ศิริภานุกูล มีอาการแน่นหน้าอก ปวดหู, อส.ทพ.ธนวัฒน์ เจ้ากลดี อาการเจ็บขา หูอื้อ แน่นหน้าอก, อส.ทพ.อนุชน เป็นดล อาการหูอื้อ และ อส.ทพ.มนตรี ศิริ อาการหูอื้อ
         จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 นายกลับจากไปส่งกำลังพลที่ป่วยเป็นไข้หวัดที่ รพ.บันนังสตา เพื่อกลับฐานฯ ร้อย.ทพ.3301 เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายซึ่งนำระเบิดมาซุกไว้ได้จุดชนวนขึ้นทันที เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นเชื่อเป็นฝีมือของคนร้ายที่ต้องการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน ขณะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามงานพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมืองฯ จ.ยะลา
    ทั้งนี้ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อ 09.00 น. พล.อ.ประวิตรและคณะได้เดินทางไปตรวจติดตามการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยรับฟังการบรรยายสรุปจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ณ ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.)อ.เมืองฯ จ.ยะลา สรุปภาพรวมการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และทรัพยากรมนุษย์ในพื้นที่ จชต. มีความก้าวหน้าเป็นรูปธรรมอย่างมากในทุกมิติ 
    ภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ พล.อ.ประวิตรแถลงข่าวว่า การตรวจและติดตามงานด้านการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้รับทราบงานนโยบายของรัฐบาลที่นำไปปฏิบัติในพื้นที่จนเกิดเป็นผลสำเร็จหลายโครงการ รวมทั้งการเตรียมการไว้เพื่อดำเนินการในระยะต่อไป ได้แก่ การพัฒนาเศรษฐกิจ ส่วนราชการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะร่วมมือกันขับเคลื่อน โครงการเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรที่หลากหลาย ให้เกษตรกรในพื้นที่มีรายได้รายวัน รายเดือน รายปี ให้ได้ผลเป็นรูปธรรม 
    "เราต้องร่วมมือกันเต็มที่เพื่อคืนลูกหลานให้กับพ่อแม่และครอบครัว พร้อมกับการเดินหน้าเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ผู้นำศาสนา และสถานศึกษา เพื่อมีส่วนร่วมการป้องกันยาเสพติด การแก้ไขปัญหาโรคระบาดที่สามารถป้องกันได้ด้วยการแพทย์ปัจจุบัน การแก้ไขปัญหาทุพโภชนาการที่ดีในเด็กเล็ก การเสริมสร้างพัฒนาการให้เหมาะสมกับช่วงวัย โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งโรงเรียน และหนึ่งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน และการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทุกฝ่าย ทุกคน จะต้องร่วมใจกันสืบสาน รักษา ต่อยอด ให้เป็นไปตามพระปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว"
    รองนายกฯ กล่าวว่า ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่ประชุม ในวันนี้มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญต่อประเด็นการพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชนในพื้นที่ให้มากที่สุด การทำงานต้องเชื่อมโยงการพัฒนาเข้าสู่งานอาชีพ ผ่านโครงการของรัฐที่ทำงานร่วมกับเอกชน อาทิ โครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ทั้ง 4 เมืองต้นแบบ ต้องสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับเยาวชนในพื้นที่ได้
    พล.อ.ประวิตรได้กล่าวนำปรารถนาดีและความห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ถึงความเป็นหนึ่งเดียวกัน ส่งกำลังใจมายังพี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยรองนายกรัฐมนตรีย้ำขอให้ ศอ.บต.เดินหน้างานพัฒนาไปพร้อมกับงานความมั่นคง โดยให้ขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ที่เกิดจากการส่งเสริมความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่าย ร่วมกันสืบสาน รักษา และต่อยอด ให้เป็นไปตามพระปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
    พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการให้โอกาสและคงสิทธิของประชาชนในพื้นที่ให้มีเท่าเทียมกัน ไม่ถูกกดทับจากกลุ่มอิทธิพลใดๆ และให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชนในพื้นที่ให้มากที่สุด ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนศูนย์ประสานงานสตรีและเด็ก จชต. เพื่อเป็นศูนย์กลางการนำองค์กรที่มิใช่ภาครัฐมาร่วมทำงานกันด้วยความเข้าใจ ทั้งนี้ ขอให้ฝ่ายปกครองต้องร่วมดูแลความเป็นธรรมและเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงที่ผ่านมา ที่เน้นประสิทธิภาพและความเข้าใจร่วมกันให้มากขึ้น
    นอกจากนี้ ขอให้ ทส. ศอ.บต. และ มท. โดยเฉพาะฝ่ายปกครองระดับอำเภอและกำนันผู้ใหญ่บ้าน ต้องทำหน้าที่เป็นกลไกหลัก เร่งผลักดันขับเคลื่อนงานตามแผนงานโครงการสำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่มีผลต่อประชาชนโดยตรง ทั้งการจัดสรรเอกสารสิทธิที่ดินทำกินให้สำเร็จ เป็นผลโดยเร็ว เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีสิทธิที่เท่าเทียมกัน มีที่ยืนในสังคม และสามารถทำกินกันอย่างเสมอภาค ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ที่ต้องช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มวิสาหกิจในพื้นที่ สู่การแปรรูปสินค้าเบื้องต้น และช่วยหาตลาดรองรับกันอย่างจริงจัง
    จากนั้น พล.อ.ประวิตรได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความร่วมมือการส่งเสริมการปลูกกาแฟ (ครบวงจร) ในพื้นที่ ระหว่าง ศอ.บต. สภาเกษตรกรแห่งชาติ และบริษัท ปตท. (ธุรกิจคาเฟ่ อเมซอน) และเปิดสวนอุตสาหกรรมแห่งแรกใน จชต. (Industrial Park) เพื่อส่งเสริมพัฒนานักธุรกิจรุ่นใหม่ ให้ทำงานร่วมกันด้วยเทคโนโลยีการผลิตในการพัฒนาสินค้าฮาลาล โดยความร่วมมือจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ต่อยอดไปยังสถาบันการศึกษา ให้จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถเชื่อมไทยและเชื่อมโลกได้ พร้อมทั้งได้ร่วมมอบพันธุ์ไผ่ให้กับตัวแทนเกษตรกรในพื้นที่ ในการเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนโครงการปลูกไผ่เศรษฐกิจ “พืชเศรษฐกิจแห่งอนาคต” ที่มีเกษตรกรเข้าร่วมเกือบ 1,000 คน.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"