ล่ากระชั้น2ฆาตกร ดอดกดเงิน1.2ล.


เพิ่มเพื่อน    


    ตำรวจเชียงใหม่เร่งคลี่คดีฆาตกรรมเศรษฐินีใจบุญถูกฆ่ายัดศพในตู้เย็น ได้เบาะแส 2 คนร้ายนำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายตระเวนกดเงินแล้วกว่า 1 ล้านในหลายจังหวัด ล่าสุดเผ่นเข้าระยอง เชื่อฝีมือคนใกล้ชิดมุ่งชิงทรัพย์ รุมทำร้ายให้บอกรหัสเอทีเอ็ม จากนั้นก็ฆ่าปิดปาก
    พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ออกมายืนยันเมื่อวันจันทร์ ว่าเหตุฆาตกรรมหญิงยัดศพไว้ในตู้เย็น เบื้องต้นจากการตรวจสอบสภาพศพน่าจะเป็น น.ส.วรรณี จิรเจริญยิ่ง อายุ 58 ปี เศรษฐินีจากจังหวัดสมุทรปราการที่ไปปฏิบัติธรรมยังวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ แต่ยังต้องรอการตรวจพิสูจน์ทางการแพทย์เพื่อยืนยันตัวตน ส่วนสาเหตุยังพุ่งเป้าไปที่การฆ่าชิงทรัพย์ โดยเบื้องต้นพบทรัพย์สินที่หายไปคือรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู สีขาว และโทรศัพท์มือถือ
    น.ส.วรรณีได้ไปซื้อห้องแถวสร้างใหม่ เลขที่ 90/3 หมู่บ้านหลวง ในซอยเยื้องกับวัดพระธาตุศรีจอมทอง เพื่อสะดวกแก่การปฏิบัติธรรม กระทั่งเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ญาติไม่สามารถติดต่อได้ จนวันที่ 27 ต.ค. พี่ชายได้เดินทางไปที่ตึกแถว พบ น.ส.วรรณีเป็นศพมีถุงคลุมศีรษะ เทปกาวปิดปากและพันรอบตัว มัดมือมัดเท้ายัดไว้ในตู้เย็นที่ยังเปิดใช้งาน โดยมีปูนซีเมนต์โรยทับ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วคาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์  
    จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายมาซื้อตึกแถวไว้เมื่อราว 4-5 เดือนที่ผ่านมา เพื่อเป็นที่พักอาศัยระหว่างเดินทางมาปฏิบัติธรรม มีฐานะในขั้นเศรษฐินี เคยบริจาคเงิน 10 ล้านบาท ร่วมสร้างตึกอาพาธสงฆ์ของ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ และเพิ่งซื้อรถโฟล์คสวาเกนป้ายแดงถวายเจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทอง เพื่อใช้เป็นพาหนะในกิจของสงฆ์ 
    ในช่วงบ่าย พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.5 เดินทางไปติดตามความคืบหน้าทางคดีที่ สภ.จอมทอง เบื้องต้นพบว่านอกจากรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู X1 และโทรศัพท์มือถือของผู้ตายที่หายไปแล้ว คนร้ายยังได้ถอดกล้องวงจรปิดในบ้านที่เกิดเหตุไปด้วย ทั้งนี้ คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนรู้จักกับผู้ตายและประสงค์ต่อทรัพย์ โดยมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี เนื่องจากรู้ระบบรักษาความปลอดภัยของตัวอาคารที่มีการติดตั้งคีย์การ์ด รหัสนิรภัย และติดกล้องวงจรปิด
    มีรายงานต่อมาว่า พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.5 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้งหมด โดยตั้งเป้าประเด็นเดียว คือฆ่าชิงทรัพย์ ซึ่งในวันเกิดเหตุคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ได้จับผู้ตายไว้แล้วอาจจะทำร้ายร่างกาย บีบบังคับให้บอกรหัสเอทีเอ็ม ซึ่งเมื่อผู้ตายยอมบอกรหัส  คนร้ายก็ร่วมกันฆ่าปิดปากแล้วอำพรางศพ และจากการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ตาย พบว่าหลังจากที่คนร้ายก่อเหตุแล้ว คนร้ายได้ขับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูของผู้ตายวนเวียนไปมาระหว่างสามจังหวัดคือ เชียงราย เชียงใหม่ และลำปาง 
    เจ้าหน้าที่พบด้วยว่า ในวันที่ 11 ต.ค. เวลาประมาณ 12.56 น. คนร้ายได้เอาบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปกดเงินครั้งแรก ที่ตู้เอทีเอ็มหน้าห้างมินิโลตัส สาขาฮอด และตระเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็มอีกหลายที่ทั้งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย และลำปาง ซึ่งคนร้ายน่าจะรู้เรื่องอาชญากรรมเป็นอย่างดี และรู้ว่าตู้เอทีเอ็มมีกล้องติดไว้ ขณะจะกดเงินก็จะใช้มือบังหน้ากล้องที่ตู้เอทีเอ็มไว้ตลอด ล่าสุดจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ตาย พบว่าในวันนี้ได้มีการกดเงินออกจากตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ จ.ระยอง ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายน่าจะหลบหนีไปที่ จ.ระยองแล้ว โดยบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายมีหลายใบ มีอยู่ 1 บัญชีที่คนร้ายได้กดเงินผู้ตายไปแล้ว 1.2 ล้านบาท
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก บก.ภ.จว.เชียงใหม่ ถึงเหตุฆาตกรรม น.ส.วรรณี จิรเจริญยิ่ง ซึ่งมาปฏิบัติธรรมที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง และได้พักอาศัยที่ตึกแถวเลขที่ 90/3 หมู่ 3 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เมื่อประมาณ 1 ปี ระหว่างอยู่ในพื้นที่จอมทอง น.ส.วรรณีใช้รถยนต์เก๋งบีเอ็มดับบลิว สีขาว ทะเบียน 9 กจ 3769 กทม. เป็นยานพาหนะขับขี่ ต่อมาวันที่ 16 ต.ค.62 น.ส.วรรณีได้ส่งข้อความทางไลน์หานางอารียา รัตนเสรี ซึ่งเป็นเพื่อนว่าจะไปเวียดนาม แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับ น.ส.วรรณีได้อีก นายวรพันธ์ จิรเจริญยิ่ง พี่ชาย น.ส.วรรณี ทราบเรื่องจากนางอารียา เห็นว่าผิดปกติจึงตรวจสอบที่บ้านของ น.ส.วรรณี ในตัวเมืองเชียงใหม่ ไม่พบตัว น.ส.วรรณี จึงไปตรวจสอบที่บ้านเกิดเหตุ ได้กลิ่นเหม็นเน่าภายในบ้าน จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน 
    เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ร่วมตรวจสอบที่บ้านเกิดเหตุ ซึ่งได้กลิ่นเหม็นออกมาจากตู้เย็น 2 ประตูแนวนอน ตั้งอยู่บนพื้นในห้องครัวภายในบ้าน จึงแจ้งตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ แพทย์ประจำโรงพยาบาลจอมทอง ร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุ เก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ บันทึกตรวจที่เกิด และชันสูตรพลิกศพ 
    จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบศพเน่า ไม่ทราบเพศ ชื่อและสกุล สภาพสวมใส่เสื้อผ้า ถูกมัดมือ ไขว่หลัง มัดเท้า มัดหัวด้วยเทปกาวพลาสติก มีถุงพลาสติกคุมหัว นอนคว่ำหน้าขดคู้อยู่ในตู้เย็นปิดทับด้วยผงปูนซีเมนต์ แพทย์ประจำโรงพยาบาลจอมทองได้ตรวจชันสูตรศพแล้ว จึงได้ส่งศพไปตรวจชันสูตรโดยละเอียดที่นิติเวชศาสตร์โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง และตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนตัวบุคคล และตรวจเก็บพยานหลักฐานที่ศพต่อไป
    รองโฆษก ตร.กล่าวว่า ประเด็นการฆาตกรรมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง คงต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง และแนวทางในการติดตามจับผู้ต้องหานั้น ก็ต้องดำเนินการควบคู่กันระหว่างฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวน ซึ่งในชั้นยังไม่สามารถอาจเปิดเผยข้อมูลได้มากนัก สำหรับพี่น้องประชาชนที่มีข้อมูลหรือพบเบาะแสของผู้ที่กระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลข 1599 หรือสถานีตำรวจภูธรจอมทอง หมายเลข 0-5334-1193.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"