แม่พาลูกสาววัย 16 นศ.อาชีวะเข้าแจ้งความ คนร้ายสูงอายุขับเก๋งปาดหน้าลูกสาวขณะขี่จักรยานยนต์จะกลับบ้าน ทำทีเป็นตำรวจขอตรวจใบขับขี่ ยาเสพติด ก่อนบังคับพาไปขืนใจในโกดังร้างข้างทางกลางวันแสกๆ 
    เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ นางไก่ (นามสมมติ) ชาว ต.ดงพลอง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ได้พา น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี บุตรสาว นักศึกษาสถาบันอาชีวะแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความ ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ กิจไธสง รอง สว. (สอบสวน) สภ.สตึก ว่าได้ถูกชายอายุประมาณ 45-50 ปี ผิวดำแดง ผมเกรียน รูปร่างท้วม สูงประมาณ 170 เซนติเมตร แต่งตัวภูมิฐาน ทำทีเหมือนเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตามประกบแล้วปาดหน้าขณะ น.ส.บีขี่รถจักรยานยนต์จะกลับบ้าน แล้วบังคับพาไปกระทำชำเราในโกดังร้างข้างทางตอนกลางวันแสกๆ
    น.ส.บีเล่าว่า เวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 2 พ.ย.นี้ ตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปร่วมกิจกรรมเดินพาเพรดงานแข่งเรือยาวที่​ อ.สตึก​ หลังเสร็จงานก็ขี่รถไปส่งเพื่อนที่บ้าน แล้วจะขี่รถกลับบ้านที่บ้านป่าหนาม ต.ดงพลอง อ.แคนดง โดยขากลับขี่มาคนเดียว พอมาถึงจุดเกิดเหตุบริเวณริมถนนสายสตึก-แคนดง ระหว่างบ้านตลาด ต.นิคม​ อ.สตึก-บ้านปอแดง ต.หัวฝาย อ.แคนดง​ ก็ได้มีรถเก๋งขับตามประกบแล้วปาดหน้า จากนั้นได้มีชายคนหนึ่งเดินลงมาจากรถแล้วมาขอดูใบขับขี่ พร้อมกับบอกกับตนเองว่า ทำไมไม่ใส่หมวกกันน็อก ไม่รู้เหรอว่าผิดตามกฎหมาย ตอนนั้นตนก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่รู้ว่าชายคนดังกล่าวเป็นตำรวจจริงหรือไม่ แต่ด้วยน้ำเสียงที่ดุดันและการแต่งกาย ตนเข้าใจว่าน่าจะเป็นตำรวจ 
    จากนั้นชายคนดังกล่าวได้บังคับให้ น.ส.บีขึ้นรถเก๋ง บอกว่าจะพาไปสถานีตำรวจ พร้อมทั้งได้ยึดกุญแจรถจักรยานยนต์เอาไว้ แต่พอขึ้นรถเก๋งไปด้วย ชายคนดังกล่าวกลับถามว่ามียาเสพติดหรือไม่ น.ส.บียืนยันว่าไม่มี เพราะไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ชายคนดังกล่าวก็พาเข้าไปในโกดังร้างข้างทางบอกจะขอตรวจค้นตัว หากไม่มียาเสพติดจะปล่อยตัวไป แต่พอเข้าไปในโกดังร้าง ชายคนดังกล่าวกลับจับหน้าอก และใช้อวัยวะเพศสอดใส่ ทั้งขู่ว่าห้ามขัดขืนและห้ามนำเรื่องไปบอกใคร ไม่งั้นจะยัดข้อหายาเสพติด ด้วยความกลัวว่าจะถูกทำร้ายหรือถูกฆ่าทิ้งจึงไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ร้องไห้ ระหว่างที่ชายคนดังกล่าวกำลังลงมือกระทำชำเรา ก็มีชาวบ้านขับรถไถเข้ามาบริเวณโกดังพอดี คนร้ายจึงบอกให้ตนเองรีบใส่เสื้อผ้า ก่อนจะขับรถเก๋งไปส่งจุดเดิมที่จอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้
    ด้านนางไก่กล่าวว่า รู้สึกตกใจและเสียใจมากที่ลูกสาวมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ไม่คิดว่าคนร้ายจะกล้าก่อเหตุตอนกลางวันแสกๆ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย หัวอกคนเป็นแม่รู้สึกเจ็บปวดมาก ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ทั้งฝากเตือนวัยรุ่น หญิงสาว ว่าให้ระมัดระวังตัว หากเป็นไปได้อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว  
    ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อนำข้อมูลไปติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะถือเป็นภัยต่อสังคม.