สั่งจำคุกหมอเถื่อน ฉีดเต้าสาวช็อกดับ


เพิ่มเพื่อน    


    ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 2-5 ปี หมอเถื่อนคลินิกศัลยกรรมเสริมความงาม ฉีดเสริมเต้า ลูกค้าสาวช็อกดับ
    เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ที่ห้องพิจารณา 709 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมอเถื่อนคลินิกเสริมความงาม หมายเลขดำ อ.415/2562 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้องนายทศพล สว่างจิตร อายุ 37 ปี และ น.ส.วรทมล สว่างจิตร หรือวราลัญช์ เจริญศรี อายุ 39 ปี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และความผิดตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม
    คำฟ้องระบุ กรณีเมื่อวันที่ 23 มี.ค.2559 จำเลยทั้งสองซึ่งร่วมกันประกอบวิชาชีพการทำศัลยกรรม การฉีดยา บำบัด วินิจฉัย เพื่อการเสริมสวยโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจำเลยได้ร่วมกันฉีดยาหรือสสาร 2 เข็มเข้าไปในร่างกายของ น.ส.ศุภกร กิ้ง เพื่อเสริมเต้านมสวย โดยไม่ตรวจดูว่า น.ส.ศุภกรแพ้ยาชนิดใด ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังของจำเลย จนทำให้ น.ส.ศุภกรเกิดอาการกระตุก ชักเกร็ง กัดฟัน และถึงแก่ความตายในที่สุด เหตุเกิดที่แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสอง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 291 และ พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม
    วันนี้ศาลเบิกตัวจำเลยทั้งสองจากเรือนจำมาฟังคำพิพากษา โดยเป็นการนัดฟังคำพิพากษาในส่วนของ น.ส.วรทมล จำเลยที่ 2 เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายทศพล จำเลยที่ 1 ได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ศาลพิพากษาจำคุกฐานกระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นเวลา 8 ปี และฐานร่วมกันประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นเวลา 2 ปี รวม 10 ปี รับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา 
    ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 ไปพบผู้ตายและสามีผู้ตายที่ห้องเลขที่ 503 แก้วสุภาพอพาร์ทเม้นต์ ซอยรามคำแหง 68 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ เนื่องจากผู้ตายประสงค์จะเสริมหน้าอกในราคา 30,000 บาท โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้ฉีดยาชาเข้าที่ใต้ราวนมซ้ายและขวา ก่อนผู้ตายจะเกิดอาการชักเกร็งในเวลาต่อมา และนำตัวส่งรักษาที่ รพ.รามคำแหง กระทั่งวันที่ 29 มี.ค.2559 พบว่าผู้ตายเสียชีวิตจากอาการระบบหัวใจล้มเหลว ปอดอักเสบ ติดเชื้อในกระแสเลือด โดยจำเลยได้ชดใช้เงินให้สามีผู้ตาย และตรวจสอบการกระทำของจำเลยทั้งสองแล้วไม่พบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมและใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ 
    จำเลยที่ 2 กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือไม่ ศาลเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยตามสมควร ว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ส่วนความผิดฐานร่วมกันประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต จากการสืบพยานและพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 2 ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยร่วมกับจำเลยที่ 1 ในการเตรียมอุปกรณ์ อยู่ในที่เกิดเหตุ และทำการโฆษณาเรื่องการศัลยกรรมให้แก่ลูกค้า ถือเป็นการประกอบเวชกรรม โดยจำเลยที่ 2 ไม่ได้รับใบอนุญาต พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคง ฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 ในการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม ให้จำคุก 2 ปี.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"