จับสมุนแม่มณี ยึดอีก5.5ล้าน


เพิ่มเพื่อน    


    ปอส.รับแจ้งเหยื่อแชร์แม่มณีเป็นวันสุดท้าย ก่อนโอนสำนวนให้ดีเอสไอเดินหน้าต่อไป ด้าน ผอ.ธุรกิจการเงินนอกระบบเผยมีออกหมายจับเพิ่มแน่นอน ชี้ดาราชักชวนคนร่วมลงทุน ถือว่ามีความผิด ตำรวจอุดรฯ จับผู้ใกล้ชิดแม่มณีได้อีก 1 พร้อมยึดเงิน 5.5 ล้าน ด้านเท้าแชร์ "น้องปริมพารวย" เข้ามอบตัว ปลงพร้อมติดคุกเพราะไม่เหลือเงินแล้ว 
    ที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ถนนสาทร กทม. ตั้งแต่เช้าวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้ บรรดาผู้เสียหายต่างทยอยเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี นางสาววันทนีย์ ทิพย์ประเวช อายุ 28 ปี หรือเดียร์ เจ้าของวงแชร์ลูกโซ่แม่มณี และนายเมธี ชิณภา สามี รวมทั้งกลุ่มแม่ทีมวงแชร์ ที่หลอกลวงให้ร่วมลงทุน ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพิ่มเติมหลังมีการจับกุมตัวไปแล้วเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
    กลุ่มผู้เสียหายเปิดเผยว่า ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อแชร์แม่มณีกระจายตัวอยู่หลายภูมิภาคทั่วประเทศบางรายสูญเสียเงินไปกว่าแสนบาท ทั้งนี้ การรับแจ้งความร้องทุกข์คดีแม่มณีที่ บก.ปอศ.จะเปิดรับแจ้งความไปจนถึงวันที่ 7 พ.ย.เป็นวันสุดท้าย ก่อนเข้าสู่กระบวนการโอนสำนวนคดีไปอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ซึ่งผู้เสียหายสามารถไปแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมได้กับพนักงานสอบสวนของดีเอสไอ 
    นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า วันที่ 7 พ.ย.นี้ ดีเอสไอจะประกาศรายชื่อศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ 11 แห่งทั่วประเทศ ผ่านช่องทางต่างๆ ที่จะให้ผู้เสียหายจากแชร์แม่มณีเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ11 แห่งทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 11-22 พ.ย.นี้ คาดว่าจะใช้เวลาสอบผู้เสียหายทั้ง 4,000 คนแล้วเสร็จไม่เกิน 2 สัปดาห์ โดยเอกสารหลักฐานที่ผู้เสียหายต้องนำมาประกอบการสอบปากคำ คือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ข้อความการแช้ตทั้งในไลน์และเฟซบุ๊ก หลักฐานการโอนเงิน และต้องบอกรายละเอียดว่าลงทุนกับใคร พร้อมรูปถ่ายแม่ข่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเก็บข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อดูพฤติกรรมการเงินว่าเข้าข่ายแม่ทีมหรือแม่ข่ายหรือไม่ จึงจะออกหมายเรียกหรือหมายจับได้ โดยต้องทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากผู้เสียหายไปแจ้งความไว้ 2 ที่ 
    “เมื่อกระบวนการสอบสวนดำเนินการไปถึง 10% แล้วถึงจะชัดเจน กรณีลูกข่ายแม่มณี เชื่อว่าต้องมีการออกหมายเรียกและออกหมายจับเพิ่มเติมแน่นอน ส่วนดาราต้องดูว่าร่วมลุงทุนหรือถูกแอบอ้าง หากมีการเชียร์หรือสร้างความน่าเชื่อถือให้มาร่วมลงทุนถือว่าเข้าข่ายความผิด ส่วนการเฉลี่ยคืนเงินต้องดูว่ามีการยึดอายึดทรัพย์ได้แค่ไหน แต่การคืนเงินนั้น ไม่ได้คืนเต็ม 100% แน่นอน คดีนี้น่าจะเป็นบทเรียนให้สังคมอีกครั้ง” นายปิยะศิริกล่าว
    มีรายงานว่า เวลา 10.00 น. วันที่ 7 พ.ย.นี้ กลุ่มผู้เสียหายจากแชร์ลูกโซ่อีก 7 คดี รวมถึงแชร์ฟอเร็กซ์ 3D จะเข้ายื่นเรื่องต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ศูนย์ราชการฯ อาคาร A ชั้น 2 
    ที่ สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี แถลงจับกุมเครือข่ายแม่มณีเพิ่มเติม คือ น.ส.สุพรรณี นิกรกุล หรือแต๊ก อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันกู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
    พล.ต.ต.นันทชาติกล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแชร์แม่มณีเพิ่มอีก 1 ราย คือ น.ส.สุพรรณี ซึ่งเป็นแอดมินเพจอีกสายหนึ่ง และรับมอบอำนาจจากแม่มณีไปเบิกเงินจำนวนมาก พร้อมยึดเงิน 5.5 ล้านบาท ทองคำหนัก 10 บาท แหวนเพชร 2 วง ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายปิยะ ศีรีสุวรรณ อายุ 22 ปี และ น.ส.พรสวรรค์ ภูอินอ้อย อายุ 19 ปี ซึ่งจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การเป็นประโยชน์ โดยทั้ง 3 คน เป็นทั้งลูกจ้างและหุ้นส่วนของ น.ส.วันทนีย์ หรือแม่มณี โดยทั้งหมดรู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก
    พล.ต.ต.นันทชาติกล่าวอีกว่า สำหรับยอดผู้เสียหายที่มาร้องทุกข์ในคดีแม่มณีเฉพาะที่อุดรธานี ขณะนี้มีทั้งหมด 274 ราย ส่วนยอดความเสียหายประมาณ 137 ล้านบาท ส่วนเงินทั้งหมดที่ยึดมาได้จะมีการลงบันทึกไว้ตามขั้นตอนกฎหมาย ก่อนที่จะมีการมอบสำนวนและเงินทั้งหมดให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปดำเนินการต่อไป
    พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงการตรวจร่างกาย น.ส.วันทนีย์ที่อ้างว่าตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน ว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นจากผู้บัญชาการเรือนจำกลางอุดรธานี ซึ่งเป็นเรือนจำที่ทำการควบคุมตัว น.ส.วันทนีย์ จากการตรวจด้วยเครื่องตรวจที่ทางเรือนจำจัดเตรียมให้ พบว่า น.ส.วันทนีย์ไม่ได้ตั้งท้อง แต่ทางเรือนจำได้มีการพูดคุยกับ น.ส.วันทนีย์แล้วว่า ให้ไปตรวจกับแพทย์ที่คลินิกแม่และเด็กประจำจังหวัด ซึ่ง น.ส.วันทนีย์ไม่ยินยอมไปตรวจ กรณีนี้เป็นสิทธิของผู้ต้องขัง ทางเรือนจำไม่สามารถบังคับได้
    ด้าน น.ส.จุฑาทิพย์ นิ่มนวล หรือมะนาว ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายสงสัยว่าจะเป็นแม่ข่ายคนหนึ่งของแม่มณีด้วยหรือไม่ ก็ได้มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยเฟซบุ๊กของมะนาว “Manow Jutathip Nimnual” ได้โพสต์ข้อความว่า “รายละเอียดการฝากออมของ นาย...ชดใช้ให้ตามนี้แล้ว การที่คุณฝากออมแล้วไม่ได้รับคืน มันคือปัญหาของคุณกับเรา เราก็ชดใช้ให้ตามที่ฝาก แต่จะให้ตามจ่ายดอกร้อยละ 20 มันคือปัญหาของคุณกับคนปล่อยกู้ เราก็ไม่ได้สั่งให้ไปคุณไปกู้มาเล่น เรามีปัญหากับแม่มณีคุณก็ไม่ได้มาแก้ปัญหาให้เรา ลงทุนไปกู้มาเล่นเอง มองเห็นความโลภของตัวเองบ้างไหม เหตุการณ์มันมาขนาดนี้ แนะนำให้ยอมรับความจริง เงินที่ฝากมาอยู่ที่พี่เดียร์ แต่เงินที่คืนไปคือเงินส่วนตัวเรานะ ผิดถูกก็ว่าไปตามเนื้อเรื่อง ไม่ใช่มาสร้างกระแสอยากดัง เงียบมานานแล้ว ระดับเสี่ยต้องไปกู้มาจัดงานรถซิ่งด้วยป่าว คนเราไม่เคยรู้จักคำว่าพอจริงๆ"
    ที่จังหวัดสุพรรณบุรี กรณีกลุ่มผู้เสียหายประมาณ 50 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ให้ดำเนินคดี น.ส.วิจิตรา คล้ายอุบล ชาว ต.วัดโบสถ์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ จ.260/2562 ในข้อหาฐานฉ้อโกงประชาชน ให้ร่วมลงทุนเงินออมในลักษณะแชร์ลูกโซ่ และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน อ้างว่าได้ผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 60 และใช้ชื่อวงแชร์ว่า “น้องปริมพารวย” คาดมูลค่าความเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท 
    เมื่อวันที่ 6 พ.ย. น.ส.วิจิตรา คล้ายอุบล ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ โดย น.ส.วิจิตรากล่าวขอโทษว่า ไม่ได้ตั้งใจที่จะโกง แต่วงแชร์ล้มจริงๆ แบบหมดตัวตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 100 ล้านบาท แต่เมื่อแชร์ล้มจึงเหลือเพียง 17 ล้านบาท และได้ทยอยใช้คืนลูกข่ายไปจนหมดตัวแล้ว แม้แต่รถยนต์และทรัพย์สินที่มีอยู่ ก็ได้ขายนำเงินมาใช้คืนลูกข่ายเช่นกัน หลังจากนี้ตนยอมรับว่าต้องเข้าไปอยู่ในคุก แต่อยากขอร้องว่าอย่าทำร้ายพ่อกับแม่ของตน ขณะนี้ตนยืนยันว่าไม่มีอะไรแล้ว เงินหมดแล้วจริงๆ เพราะตนให้ดอกสูงเกินไป แล้วไม่สามารถหมุนเงินออกมาได้ทัน
    พ.ต.อ.สมพรกล่าวว่า หลังจากรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งสอบปากคำผู้เสียหายได้หลายปาก จึงได้ออกหมายจับ น.ส.วิจิตรา เท้าแชร์คนดังกล่าว กระทั่งผู้ต้องหาเข้ามอบตัว และได้ดำเนินการสอบสวนสืบสวนต่อไปว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องบ้าง ส่วนวงเงินเท่าไหร่นั้น ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"