บางจากมอบบีบีจีไอตั้งไบโอฮับ ลุยสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตร


เพิ่มเพื่อน    

8 พ.ย.2562 นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) เปิดเผยภายหลังจัดงานสัมมนา ”SynBio Forum 2019 ชีวนวัตกรรม ศาสตร์เปลี่ยนโลก” ว่าได้มอบหมายให้ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด(มหาชน) บริษัทในเครือด้านผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ดำเนินการจัดตั้งไบโอฮับ ขึ้นในพื้นที่ที่ใกล้เคียงกับโรงงานน้ำตาล และแหล่งวัตถุดิบ โดยอาจจะกระจายไปในหลาย ๆ พื้นที่ทั่วประเทศไทย ทั้งนี้ได้ร่วมมือกับกลุ่มผู้ประกอบกาขนาดกลางที่ประสบความสำเร็จของต่างประเทศ (เอสเอ็มอี ยูนิคอร์น) มาเป็นพาสเนอร์ในการดำเนินงานทั้งการวิจัยและพัฒนา

โดยจะอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะมามีบทบาทสำคัญในอนาคตอย่างชีวนวัตกรรม หรือ ซินไบโอ โดยพัฒนาวัตถุดิบเดิมที่เป็นสินค้าเกษตรมาเป็นสินค้ารูปแบบใหม่ ได้แก่ข้าว, อ้อย, มันสำปะหลัง, ยางพารา, ปาล์มน้ำมันสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจแล้ว และยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรโลก สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลด้านเศรษฐกิจ

"พื้นที่ไบโอฮับของบีบีจีไอ เดิมตั้งเป้าหมายจะลงทุนในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) แต่จากการพิจารณาความเหมาะแล้วสมควรจะลงทุนในพื้นที่ที่ใกล้วัตถุดิบ แต่จะเป็นพื้นที่ใด จะสรุปได้ใน 2 เดือนข้างหน้า และคาดว่าภายใน 1-2 ปีจะมีการเห็นผลเรื่องการลงทุนและผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน ซึ่งจะเน้น 3 กลุ่มหลักคือ ด้านอาหาร, วัสดุชีวภาพ และไบโอคอสเมติกส์ซึ่งหวังว่าจะนำมาต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้"นายชัยวัฒน์ กล่าว

นายชัยวัฒน์ กล่าวถึงแนวโน้มการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2562 ว่าค่าการกลั่นน้ำมันในช่วงดังกล่าวจะทรงตัว และใกล้เคียงกับช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี แต่จะสูงกว่าช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีที่อยู่ที่ 3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันจะทรงตัวไปจนถึงสิ้นปี และราคาในปีหน้านั้นอาจจะมีราคาสูงขึ้นเนื่องจาก บริษัทอารามโก จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นหุ้นที่มีราคามากที่สุดในโลก

นอกจากนี้การร่วมทุนในโครงการเหมืองลิเธียมในอาร์เจนตินา คาดว่าจะเริ่มผลิตปลายปี 2563 กำลังผลิต 40,000 ตันต่อปี ซึ่งล่าช้ากว่าแผนเดิม เนื่องจากการขยายกำลังผลิตจากเป้าหมายเดิม 25,000 ตันต่อปี โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้เต็มที่ปี 2564 ซึ่งในส่วนนี้บางจากฯ จะมีส่วนรับซื้อประมาณ  6,000 ตันต่อปี ซึ่งกำลังพิจารณาว่าจะมีการพัฒนาต่อยอดผลิตเป็นแบตเตอรี่เอง หรือจะเป็นเทรดเดอร์จำหน่ายในตลาด ซึ่งก็คงจะดูถึงลู่ทางการดำเนินธุรกิจและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตามบางจากฯ ได้จัดสัมมนา "SynBio Forum 2019 ชีวนวัตกรรม ศาสตร์เปลี่ยนโลก”นั้นซึ่งให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมมาเพิ่มคุณค่าให้กับทรัพยากรธรรมชาติเพื่อสร้างความยั่งยืน โดยยึดหลักการทำธุรกิจภายใต้ BCG Model สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยมี 3 แนวหลักคือ B (Bio economy) หรือเศรษฐกิจชีวภาพ มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า C (Circular economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน คำนึงถึงการนำวัสดุต่างๆ กลับมาใช้ประโยชน์มากที่สุด และ G (Green economy) เศรษฐกิจสีเขียว มุ่งแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"