'เสี่ยหนู'รู้แล้วใครอยู่เบื้องหลังสื่อเครือเนชั่นไล่บี้'น้องเนวิน'แต่ไม่บอกเพราะเป้าหมายจะรู้ตัว


เพิ่มเพื่อน    

12 พ.ย.62-จากกรณีที่สื่อบางสำนัก นำเสนอข่าววิพากษ์วิจารณ์นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนายศักดิ์สยาม มองว่า เป็นการนำเสนอข่าวสารด้วยข้อมูลเท็จ จนมีการฟ้องร้องดำเนินคดีตามมา 

ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้ความเห็นว่า ใครก็ตามที่เข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต้องถูกตรวจสอบมากเป็นพิเศษ เพราะรับผิดชอบทั้งงาน ทั้งงบ จำนวนมาก นอกจากนั้น บุคลิกของนายศักดิ์สยาม ยังเป็นคนไม่อยู่ใต้อิทธิพลใคร เคยเป็นข้าราชการ มีนิสัยละเอียดเวลานำเสนอโครงการ หากเห็นว่าไม่ชอบมาพากล สั่งทบทวนหมด ตนในฐานะรองนายกฯดูแลกระทรวงคมนาคม และนายศักดิ์สยามทำงานร่วมกัน นายศักดิ์สยามพูดอยู่เสมอว่าต้องทำให้ถูกต้อง พรรคภูมิใจไทย จะโตไปข้างหน้าได้ ก็เพราะเรื่องการทำงาน เราไม่เสี่ยงทำผิดแน่นอน

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนที่สื่อบางฉบับมาตรวจสอบพรรคภูมิใจไทยพรรคเดียว ก็งง มันเกิดอะไรขึ้น เสียดายความสัมพันธ์อันดีที่มีร่วมกัน จริงๆ หากต้องการทราบเรื่องอะไร ให้โทรมาถามก็ได้ แต่กลับมาพูดในทางตรงกันข้าม แบบนี้มีทิฐิหรือไม่ 

"ผมรู้นะ ว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่ผมจะไม่บอก เพราะเป้าหมายจะรู้ตัว และผมจะไม่ไปหารือกับใครทั้งนั้น ผมอยากให้รัฐบาลไม่ต้องมาปวดหัวกับเรื่องแบบนี้ ให้เอาเวลาไปคิดเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจดีกว่า เรื่องปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ"

เมื่อถามว่าการโจมตีนายศักดิ์สยาม เป็นสัญญาณเรื่องการปรับ ครม.หรือไม่ นายอนุทิน ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ ส่วนใครจะคิดอะไร อยากได้อะไร ก็คิดไป แต่ภูมิใจไทย ไม่เคยคิดทั้งนั้น ขอทำงาน สร้างความไว้วางใจกับประชาชน แต่ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลง ความเป็นรัฐบาลผสม อย่างไรเสีย ก็ต้องมาคุย เรามีภารกิจในการนำพาบ้านเมืองไปด้วยกัน

ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร ในฐานะ ประธานคณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคภูมิใจไทยได้ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการฟ้องหมิ่นประมาท 3 พิธีกรรายการ "เนชั่นสุดสัปดาห์ว่า ได้รับแจ้งจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคภท.จากทั่วทุกภาคของประเทศว่า ได้มีการทยอยไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนแล้วกว่า 20 ท่าน ในช่วงตั้งแต่ 5 วันที่ผ่านมา ส่วนที่เหลือจะมีการทยอยเข้าไปร้องทุกข์ให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งแต่ละคดีเป็นเรื่องของผู้เสียหายแต่ละคน พรรคภูมิใจไทยก็ดี นายศักดิ์สยาม ก็ดี เป็นผู้เสียหาย โดยแต่ละคนเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย 

นอกจากนี้นายศุภชัย กล่าวอีกว่า ความเป็นผู้เสียหายในคดี ในการที่จะเข้าไปดำเนินคดีของผู้เสียหายทำได้ 2 กรณีคือ 1 มีการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดี กับอีกรูปแบบหนึ่งคือผู้เสียหายฟ้องเองซึ่งเรื่องนี้ การที่ผู้เสียหายได้เข้าไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับทางพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ก็เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าจริงๆแล้วเราต้องการที่จะให้เกิดความเป็นธรรม แบบตรงไปตรงมา เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของอำนาจของพนักงานสอบสวน คิดว่าไม่มีเหตุจำเป็น ที่จะต้องไปฟ้องคดีด้วยตนเอง เพราะจะทำให้เกิดความยุ่งยากต่อจำเลยที่จะต้องไปสู้คดีหลายที่ ซึ่งในวันนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนให้ว่าเป็นตามกระบวนการของกฎหมาย 

“เรื่องการดำเนินคดีของผู้เสียหายมันไม่มีความล้าหลังหรือไม่มีความเป็นไดโนเสาร์อะไร ถ้าหากสื่อทำงานโดยสุจริตตามหน้าที่ของตนเอง ไม่มีการนำความเท็จมาใส่ร้ายคนอื่นหรือนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่เป็นการออกอากาศ แล้วใครจะไปกล้าฟ้องร้องหรือดำเนินคดี ทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เราดำเนินคดี ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร เป็นเพียงการปกป้องสิทธิและเกียรติภูมิของพรรคภูมิใจไทย โดยสุจริต ถ้าท่านไม่เห็นว่าผิดก็ไปหาทางก็ไปต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งย่อมปกป้องผู้สุจริตอย่างแน่นอน” นายศุภชัย กล่าว.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"