อินทนนท์ต่ำสุด4องศาอุตุฯออกคำเตือน


เพิ่มเพื่อน    


    เตือนประเทศไทยตอนบนอากาศหนาวเย็น ยอดดอยอินทนนท์ทำสถิติจุดต่ำสุด 4 องศา นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสไอเย็น ขณะที่ กทม.และปริมณฑลคุณภาพอากาศยังแย่
    ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2562)" ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562
    ในช่วงวันที่ 13-15 พ.ย.62 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-22 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดอุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย
    สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
    นายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทงหรือยี่เป็งปีนี้ นักท่องเที่ยวจำนวนมากได้มาสัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็นอีกระลอกบนยอดดอย โดยวันนี้ที่ยอดดอยอินทนนท์อุณหภูมิลดมาแตะที่จุดต่ำสุดอีกครั้งที่ 4 องศาเซลเซียส ที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน 7 องศา มีหมอกในยามเช้าและอากาศเย็นสบาย นักท่องเที่ยวใช้โอกาสที่มาเที่ยวงานลอยกระทงขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาวเย็น ยอดสะสมคืนละกว่า 3-4 พันคน ส่วนวันปกติ 2-3 พันคน 
    ด้านสถานการณ์ฝุ่นควันในกรุงเทพฯ และปริมณฑล กรมควบคุมมลพิษรายงานข้อมูลคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 12 พ.ย. เวลา 12.00 น. ดังนี้ จากการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกรมควบคุมมลพิษร่วมกับกรุงเทพมหานคร จากสถานีตรวจวัดทั้งหมด 47 สถานี พบว่าปริมาณฝุ่นละอองตรวจวัดค่าได้ระหว่าง 39-66 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง 24 พื้นที่ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 11 พื้นที่เมื่อเทียบกับช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยยังคงพบพื้นที่ที่มีคุณภาพอากาศเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ 28 พื้นที่ ได้แก่ 
    1.ริมถนนกาญจนาภิเษก 2.ริมถนนพระราม4 3.ริมถนนอินทรพิทักษ์ 4.เขตดินแดง 5.เขตวังทองหลาง 6.เขตปทุมวัน 7.เขตบางคอแหลม 8.เขตยานนาวา 9.เขตจตุจักร 10.เขตคลองสาน 11.เขตบางกอกน้อย 12.เขตภาษีเจริญ 13.เขตบางเขน 14.เขตบางพลัด 15.เขตบางขุนเทียน 16.เขตบางกะปิ 17.เขตสาทร 18.เขตคลองเตย 19.เขตบางซื่อ 20.เขตหลักสี่ 21.เขตบึงกุ่ม กทม. 22.ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 23.ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 24.ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 25.ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 26.ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ 27.ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 28.ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร     ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวควรเฝ้าระวังสุขภาพและลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งนี้ คพ.ได้แจ้งประสานข้อมูลให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองรับทราบข้อมูลอย่างต่อเนื่อง โดยหน่วยงานต่างๆ ดังกล่าวได้ระดมกำลังและอุปกรณ์ พร้อมทั้งออกปฏิบัติงานตามมาตรการ "ภายใต้แผนปฏิบัติการ ขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ" เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองให้กลับสู่สถานการณ์ปกติ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"